ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




ย้ำแก้รธน.50 ใส่ประเด็นนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง ทุกกลุ่มได้ประโยชน์

ย้ำแก้รธน.50 ใส่ประเด็นนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง ทุกกลุ่มได้ประโยชน์

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2556 เวลา 19:40 น.

 
 
           วันนี้(13 ม.ค.)  ที่ห้องจิตติ ติงศภัทิย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ แถลงข้อเสนอทางวิชาการเรื่อง “ร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรมและการขจัดความขัดแย้ง” ซึ่งเป็นการอธิบายเพิ่มเติมหลังออกแถลงการณ์คณะนิติราษฎร์ ฉบับที่ 41 ที่มีเนื้อหาเน้นไปทางการเสนอแนวทางขจัดความขัดแย้ง จากการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงจากการการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549

           นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 เป็นต้นตอของความขัดแย้งที่สร้างเหตุการณ์ต่างๆ อาทิ การชุมนุมของประชาชนหลายกลุ่ม การก่อคดีอาญาที่มีมูลเหตุทางการเมือง ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความขัดแย้งและการสร้างความเป็นธรรมในการใช้กฎหมาย คณะนิติราษฎร์จึงสนับสนุนให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับที่จะมีการเขียนลบล้างผลพวงจากการรัฐประหาร แต่ระหว่างที่ยังไม่มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นิติราษฎร์ขอเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน คือ 1.เพิ่มหมวดว่าด้วยนิรโทษกรรมและการขจัดความขัดแย้ง โดยนิรโทษกรรมแก่ผู้ร่วมเดินขบวนและชุมนุมประท้วงทางการเมืองทุกกลุ่ม รวมถึงการแสดงความคิดเห็นที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ในช่วงวันที่ 19 ก.ย.2549 - 9 พ.ค.2555 โดยความผิดที่จะได้รับการนิรโทษกรรมต้องเป็นความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว หรือความผิดที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีตามกฎหมายอื่น แต่การนิรโทษกรรมในส่วนนี้ต้องไม่ขัดกับพันธกรณีระหว่างประเทศ และไม่รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งในระดับผู้สั่งการหรือระดับปฏิบัติการ

           นายวรเจจน์ กล่าวอีกว่า 2.ถ้าการกระทำใดที่ไม่เข้าข่าย หรือสงสัยว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายมีมูลเหตุหรือไม่ มีความผิดที่ไม่ใช่ความผิดลหุโทษ หรือมีบทลงโทษจำคุกมากกว่า 2 ปี จะมีการตั้งคณะกรรมการขจัดความขัดแย้งเพื่อวินิจฉัย โดยระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการชุดนี้ ไม่สามารถดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ถูกกล่าวหา และถ้ามีการฟ้องร้องเป็นคดี และคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ให้ศาลระงับการดำเนินกระบวนพิจารณา และให้ปล่อยตัวจำเลยไป แต่ถ้าเป็นกรณีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษแล้ว ให้คณะกรรมการฯมีคำสั่งปล่อยตัวผู้ต้องขังไป จนกว่าคณะกรรมการฯจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งถ้าวินิจฉัยว่าการกระทำนั้นๆไม่เกี่ยวกับการเมือง ก็จะถูกดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมปกติ

          นายวรเจตน์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทางกลุ่มฯเสนอให้แก้ไขในรูปแบบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ก็เพื่อป้องกันปัญหากรณีร่างพระราชบัญญัติขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ และป้องกันการถูกเหนี่ยวรั้งจนเกิดความล่าช้า เพราะจากการรวบรวมรายชื่อแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก็พบว่าถูกปฏิเสธเข้ารับการพิจารณา เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎร ตีความว่าไม่เข้าข่ายหมวด 3 และ 5 ของรัฐธรรมนูญ ทำให้การพิจารณาไปไม่ถึงการหารือของ ส.ส.และ ส.ว. แต่ถ้าเสนอเป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะช่วยร่นระยะเวลาการพิจารณา เพราะจะมีการเปิดประชุมพิจารณาร่วมกันของ ส.ส.และส.ว.ได้ ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าข้อเสนอนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้องในส่วนการลบล้างผลพวงจากการรัฐประหาร แต่ข้อเสนอนี้เป็นการขจัดความขัดแย้ง 

          ด้านนายปิยะบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า คณะกรรมการขจัดความขัดแย้ง มีจำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1.จากคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ 1 คน 2.จาก ส.ส. 2 คนทั้งจากฝ่ายค้านและรัฐบาล 3.จากผู้พิพากษาหรืออดีตผู้พิพากษาในศาลยุติธรรมซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมรัฐสภา 1 คน  4.พนักงานอัยการหรืออดีตพนักงานอัยการที่ได้รับเลือกโดยที่ประชุมรัฐสภา จำนวน 1 คน โดยให้ดำเนินการเลือกกรรมการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่รัฐธรรมนูญนี้มีผลใช้บังคับ ทั้งนี้คณะกรรมการฯจะเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และจะยุติไปเมื่อมีการดำเนินการแล้วเสร็จ โดยคำวินิจฉัยของคณะกรรมการขจัดความขัดแย้งมีผลผูกพันองค์กรของรัฐทุกองค์กร และไม่อาจเป็นวัตถุแห่งการพิจารณาขององค์กรตุลาการหรือองค์กรอื่นใด อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าการออกแบบแนวทางการนิรโทษกรรมดังกล่าว คณะนิติราษฎร์ไม่ได้เข้าข้างใดข้างหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่ากลุ่มคนเสื้อแดงถูกดำเนินคดีมากกว่าเสื้อสีอื่นๆ จึงดูได้ประโยชน์มากกว่ากลุ่มอื่นๆ และแนวทางนิรโทษกรรมเช่นนี้จะสร้างวัฒนธรรมไม่นิรโทษให้แก่บุคคลทั้งหมด

 







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน