กสท.ไฟเขียว แจกคูปองทีวีดิจิตอล เผยมะกันทำมาแล้ว
วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556
เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า บอร์ด กสท.ได้มีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 1 เสียง และอีก 1 เสียงไม่ได้มาเข้าประชุม เห็นด้วยกับแนวคิดของคณะอนุกรรมการ กสท.ด้านการเปลี่ยนผ่านดิจิตอล ผ่านการออกคูปองเงินสนับสนุนการซื้ออุปกรณ์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากทีวีอนาล็อกสู่ทีวีในระบบดิจิตอล โดย 1 เสียงที่ไม่เห็นด้วยกับหลักการคือนายธวัชชัย จิตภาษ์นันท์ กรรมการ กสท.ด้านเศรษฐศาสตร์ ที่ได้ให้เหตุผลว่าไม่เห็นด้วยกับหลักการในการใช้คูปองสนับสนุน ที่ผูกติดกับราคาตั้งต้นการประมูลทีวีดิจิตอล ส่วนอีก 1 เสียงที่ไม่ได้มาเข้าประชุม คือ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสท.ด้านการกำกับดูแลผังเนื้อหาและรายการโทรทัศน์ ที่ติดภารกิจต่างประเทศ
พ.อ.นทีกล่าวว่า บอร์ดเห็นด้วยใน 4 หลักการ ประกอบด้วย 1.การใช้เงินที่ได้จากการประมูลใบอนุญาตเพื่อขอใช้คลื่นความถี่กิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ในกลุ่มช่องธุรกิจจำนวน 24 ช่อง ที่ประกอบด้วย ช่องแบบปกติ 1 ช่อง และความคมชัดคุณภาพสูง (เอชดี) ในการออกคูปองสนับสนุนในการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี 2.การสนับสนุนให้ทุกครัวเรือนในประเทศไทยสามารถเข้าถึงการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีในครั้งนี้ได้ 3.เพื่อความคล่องตัวในการใช้คูปองสนับสนุน กำหนดให้ตัวคูปองสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดในการซื้ออุปกรณ์ที่สามารถใช้ในการรับชมโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลได้ อาทิ โทรทัศน์ที่สามารถจูนเนอร์สัญญาณในระบบดิจิตอลได้ และ 4.กำหนดให้ผู้ชนะการประมูลช่องรายการทีวีดิจิตอลต้องนำเงินที่ชำระค่าประมูลไปใช้เพื่อการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีในครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือกองทุนยูโซ่
"สาเหตุที่เรากำหนดให้ต้องนำเงินส่วนหนึ่งของราคาค่าประมูลไปสนับสนุนค่าซื้ออุปกรณ์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีของประชาชน เพราะคิดว่าคลื่นความถี่นั้นเป็นสมบัติของคนไทยทั้งชาติ เมื่อประมูลแล้วได้เงินก็ควรนำเงินที่ได้จากการประมูลคลื่นความถี่กลับคืนสู่ประชาชน ซึ่งแนวคิดนี้ถือว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแรกที่ทำ เพราะในต่างประเทศได้ใช้วิธีนี้หลายประเทศแล้วเช่นกัน เช่น สหรัฐอเมริกา ตอนเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีได้มีการออกคูปองสนับสนุนค่าซื้ออุปกรณ์แก่ประชาชนเช่นกัน ในอัตราครัวเรือนละ 2 ใบ ที่ราคาราว 30-40 ดอลลาร์ต่อใบ (1,200 บาท)" พ.อ.นทีกล่าว
พ.อ.นทีกล่าวว่า สำหรับเงินที่ได้จากการประมูลนั้น ทาง กสทช.จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 นำไปเข้าในกองทุนยูโซ่ และส่วนที่ 2 นำไปสนับสนุนค่าเปลี่ยนผ่านอุปกรณ์ในระบบทีวีดิจิตอล โดยราคาเงินสนับสนุนในคูปองเทคโนโลยี จะมีมูลค่าเท่ากับอัตราราคาตั้งต้นการประมูลโดยรวมของในกลุ่มช่องธุรกิจทั้ง 20 ช่องปกติ และ 4 ช่องเอชดี หารด้วยจำนวน 22 ล้านครัวเรือนที่มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งมูลค่าเงินสนับสนุนในคูปองคาดจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่งข้อมูลราคามูลค่าคลื่นความถี่ที่แท้จริงของทีวีดิจิตอลส่งมายัง กสท.ในช่วง 1-2 เดือนต่อจากนี้ ส่วนการแจกคูปองน่าจะเริ่มออกให้ประชาชนได้หลังประมูลเสร็จ และผู้ชนะการประมูลนำเงินค่าประมูลมาชำระยัง กสทช.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการประมูลจะเริ่มต้นในช่วงปลายไตรมาส 2 หรือเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมกันทั้ง 24 ช่อง
รองประธาน กสทช.กล่าวว่า เร็วๆ นี้จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นพร้อมรับข้อเสนอแนะจากภาคประชาชน ภายหลัง กสทช.ได้ออกหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลทีวีดิจิตอลเป็นที่เสร็จสิ้น ทั้งนี้ เรื่องการออกคูปองขณะนี้เป็นเพียงแค่แนวนโยบายเท่านั้น เมื่อออกตัวประกาศหลักเกณฑ์การประมูลเสร็จสิ้นจึงสามารถรับทราบรายละเอียดที่แน่ชัดกว่านี้ของตัวคูปองได้ เช่น ราคาเงินในคูปอง หรือวิธีการแจกคูปองให้ถึงมือประชาชน แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าการออกหลักเกณฑ์ทั้งหมดจะเสร็จสิ้นเมื่อใด แต่จะเกิดขึ้นก่อนการประมูลอย่างแน่นอน
"ตอนนี้ผมยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าราคาค่าคูปองจะมีเท่าใด จะถึงครึ่งของราคากล่องรับสัญญาณ หรือเต็มจำนวนของกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลซึ่งปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ราว 800-1,000 บาท หรือไม่ เพราะต้องรอราคาตั้งต้นการประมูลออกมาก่อน แต่เชื่อว่าทั้ง 24 ช่องรายการที่จะจัดประมูล จะสามารถประมูลออกไปได้ครบทั้งหมดอย่างแน่นอน ส่วนราคาประมูลจะมากกว่าราคาตั้งต้นเยอะหรือไม่นั้น ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด" พ.อ.นทีกล่าว
พ.อ.นทีกล่าวว่า จะนัดประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล รวมทั้งผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโทรทัศน์ที่สามารถรับสัญญาณในระบบดิจิตอลได้ ทั้งหมดจะต้องมาหารือร่วมกันอีกครั้งถึงความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการสนับสนุน ไปจนถึงแนวทางการจะนำเข้าหรือการผลิตในประเทศ นอกจากนี้ กสท.ยังได้มีการหารือร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วย อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ ในการกำหนดมาตรฐานกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สามารถผลิตในรูปแบบเดียวกันเพื่อจัดจำหน่ายและใช้งานได้เหมือนกันทั่วทุกภูมิภาค จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตกล่องรับสัญญาณมีจำนวนถูกลง จากการที่ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ด้วยการผลิตจำนวนที่มากขึ้น เพื่อประชาชนจะสามารถซื้อกล่องได้ในราคาถูกลง
พ.อ.นทีกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ บอร์ด กสท.ยังได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศ กสทช.อีก 2 เรื่องด้วย ประกอบด้วย เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตเพิ่มเติมในส่วนการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล และเรื่องหลักเกณฑ์การแบ่งเวลาให้ผู้อื่นดำเนินรายการ ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของช่องรายการรายหนึ่งต้องแบ่งให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถขอเช่าเวลาออกอากาศได้ไม่น้อยกว่า 20% และไม่เกิน 40% ของช่วงเวลาทั้งหมด โดยทั้ง 2 ร่างประกาศ กสทช.ทาง กสท.จะนำส่งเข้าบอร์ด กสทช. เพื่อพิจารณาอีกครั้งก่อนการนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป