คอนเสิร์ตล่ม เหตุแฟนเพลง "แอ๊ด-เสก"ปะทะเดือด!
วันอังคารที่ 15 มกราคม 2556 เวลา 05:51 น.
วันนี้ (14 ม.ค.) พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผกก.สน.ท่าเรือ รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรงภายในสนามกีฬาการท่าเรือแห่งประเทศไทย ถนนอาจณรงค์ แขวงและเขตคลองเตย จึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 โดยที่เกิดเหตุเป็นสนามฟุตบอลของทีมการท่าเรือ เอฟซี ซึ่งมีการจัดคอนเสิร์ตการกุศล “แสงแห่งหวัง LIGHT OF HOPE SEK - BAO CHARITY CONCERT” ของศิลปินนักร้องซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง “เสก โลโซ-เสกสรร ศุขพิมาย” กับ “แอ๊ด คาราบาว-ยืนยง โอภากุล” มีแฟนเพลงวัยรุ่นทั้งในพื้นที่นอกพื้นที่ และนักศึกษาอาชีวะ เข้าร่วมนับหมื่นคน ซึ่งผู้จัดได้ประสานขอเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลกว่า 700 นาย ดูแลความเรียบร้อย
ภายในสนามมีแต่ความสับสนวุ่นวาย มีเสียงระเบิดดังของประทัดยักษ์สลับเสียงด่าทอกัน และกลุ่มวัยรุ่นไล่ชกต่อยกัน บ้างก็ใช้ขวดน้ำที่แอบนำเข้ามาขว้างปาใส่คู่กรณีอย่างโกลาหล จนทางผู้จัดต้องตัดสินในหยุดการแสดง และพาศิลปินเข้าไปหลบหลังเวที ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ระเบิดแก๊สน้ำตาขว้างใส่กลุ่มผู้ก่อเหตุที่อยู่บริเวณบนอัฒจันทร์ด้านขวาของเวที ซึ่งเป็นจุดที่มีนักศึกษาของสถาบันอาชีวะชื่อดังแห่งหนึ่งกำลังขว้างปาสิ่งของใส่กลุ่มแฟนเพลงที่อยู่บนสนามหญ้าหน้าเวทีด้านล่างทั้งยังมีการขว้างปาประทัดยักษ์จากภายนอกเข้ามาภายในสนามอีกหลายลูก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิ่งหลบกันเจ้าละหวั่น ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
ภายหลัง สามารถควบคุมตัวนักศึกษาอาชีวะดังไว้ได้ 50 คน แต่ยังไม่สามารถนำออกจากสนามได้ง่าย ๆ เนื่องจากมีกลุ่มแฟนเพลงที่ไม่พอใจล้อมสนามไว้ด้วยความเครียดแค้น
จากการสอบสวนทราบว่า คอนเสิร์ตดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น. ซึ่งเป็นการแสดงของ เสก-โลโซ ยาวจนถึงเวลา 23.00 น. แอ๊ด คาราบาว ได้ขึ้นปลุกอารมณ์แฟนเพลงต่อได้เพียง 3 เพลง กลุ่มนักศึกษาอาชีวะดังที่อยู่บนอัฒจันทร์ก็ขว้างปาขวดน้ำใส่กลุ่มผู้ชมด้านล่าง สร้างความไม่พอใจให้อย่างมาก ถึงขึ้นพังรั้วกั้นปีนขึ้นไปไล่ทำร้ายกันอย่างวุ่นวายดังกล่าว
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ประกอบด้วย นายชัยพล อึ้งทรงพล อายุ 46 ปี ศีรษะแตก หญิงไม่ทราบชื่อถูกสะเก็ดระเบิดเจ็บเล็กน้อย และชายวัยรุ่นอีก 2 คนที่ถูกฤทธิ์ของแก๊สน้ำตาเล่นงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ลำเลียงส่ง รพ.จุฬาฯ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คุมผู้ต้องสงสัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนทำประวัติ ก่อนประสานผู้ปกครองมารับตัวกลับ และจะได้เร่งติดตามตัวมือปาประทัดยักษ์มาดำเนินคดีต่อไป.
