เลือกผู้ว่า กทม.- กินรวบไม่กินแบ่ง
วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ.2556
เริ่มเทศกาลหาเสียงเลือกผู้ว่าฯกทม.ปชป.-เพื่อไทย น่าจะเป็นคู่ต่อสู้สำคัญ อยู่ที่จากนี้ไป ใครจะมีทีเด็ดให้คนกรุงพึงใจ ส่อเค้าวุ่นงบแก้น้ำท่วม 3.5 แสนล้าน รวบอยู่ที่เดียวเลยเกิดปฏิกิริยาต่อต้านข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ประเด็นหลักในแวดวงการเมืองโดยเฉพาะคู่ต่อสู้สำคัญคือประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย
ถนนทุกสายน่าจะออกในรูปนี้มากกว่าไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ปรองดองคงต้อง “ดอง” เอาไว้ก่อน
แม้แต่ข้อเสนอของแกนนำแดงอย่าง “ธิดา ถาวรเศรษฐ” หรือ “จตุพร พรหมพันธุ์” ให้ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมแก่ทุกฝ่าย
ยกเว้น “ผู้สั่งการ” ไม่อยู่ในข่าย
“นายกฯปู” บอกว่า “ไม่รู้เรื่อง” เมื่อเจอคำถามนี้ โถ...ขนาด พ.ร.บ. ปรองดองยังแทบเอาตัวไม่รอดจะมาออก พ.ร.ก.อีก มีหวังรัฐบาลรับเละลูกเดียว
อย่างที่บอกกันไว้แล้วว่า ทุกอย่างต้องปล่อยให้สถานการณ์คลี่คลายตัวด้วยเงื่อนเวลา หากเร่งรีบ เอาแต่ใจ มันยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นมาอีก
วันนี้ลุยสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ดีที่สุด ซึ่งน่าจะสู้กันทุกรูปแบบ เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็เตรียมพร้อมกันมาอย่างดี ดังนั้น การหาเสียงคงจะเข้มข้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
แบบว่า “แพ้ไม่ได้” จึงต้องระดมพลังกันอย่างเต็มที่
“พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ” ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย หลังจากเคลียร์ทุกอย่างลงตัวโดยเฉพาะการที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ทั้งแนวทางการหาเสียง ให้ทีมงาน กทม.ร่วมมืออย่างเต็มที่
ก็เลยเดินหน้าตะลุยหาเสียงเต็มสปีด
“ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร”จากค่ายประชาธิปัตย์ ที่เปิดตัวล่วงหน้าไปก่อนหน้านี้ก็ได้รับความร่วมมือจากคนในพรรคอย่างดีเช่นกัน
ทั้งหัวหน้าพรรค ลูกพรรคเดินสายหาเสียงไปตามย่านชุมชนต่างๆ ใครเข้าพื้นที่ได้มากก็มีโอกาสเข้าถึงใจคนเมืองหลวงกว้างมากขึ้น
แม้ผลงาน 4 ปี ที่ผ่านในฐานะผู้ว่าฯกทม.จะไม่ค่อยเข้าตานัก แต่เนื่องจากคนกรุงเทพฯนั้นยังพึงใจประชาธิปัตย์มากกว่าเพื่อไทย ความได้เปรียบด้านคะแนนนิยม คะแนนจัดตั้งจึงมีมากกว่า
ว่าที่เป็นจริงแล้ว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์นั้นเกือบจะไม่ได้เป็นตัวแทนพรรคแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ในพรรคไม่ค่อยชื่นชมเท่าใด
เผอิญที่ว่าเกิดปัญหาภายในแบบ “ใหญ่” เจอ “ใหญ่” มันก็เลยต้องเลือกข้าง แบบว่าเลขาธิการพรรคเก่ากับใหม่มีอาการเขม่นกันขึ้น
ทั้งๆที่ 2 คนนี้ก็ไม่ชอบ “คุณชาย” เท่าใดนัก
แถมมีคนชื่อ “กรณ์ จาติกวณิช”เข้าไปเกี่ยวพันถึงขั้นเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตสู้กับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มันก็เลยนัวเนียกันไปหมด
“สุขุมพันธุ์” ก็เลย “ส้มหล่น” มิฉะนั้นปิ๋วไปแล้ว
แต่เมื่อมติพรรคออกมาแล้วทุกอย่างก็จบตั้งหน้าตั้งตาหาเสียงกันต่อไป ส่วนใจใครจะคิดอย่างไรก็ต้องดูกันต่อไป
ปีที่ผ่านมา หรือว่าปีนี้ที่คาดกันว่าน้ำจะไม่ท่วมใหญ่เหมือนที่ผ่านมา แต่ทว่าโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบบูรณาการที่วางงบก้อนใหญ่เอาไว้ถึง 3.5 แสนล้านบาทก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
มีเพียงแต่ว่าได้มีการรวบรวมงาน ความรับผิดชอบ การสั่งการทั้งหมดไปไว้ที่สำนักนายกรัฐมนตรี
ปัญหามันก็เลยวุ่นเพราะหน่วยงานต่างๆ
ระดับประเทศและท้องถิ่นต่างไม่ให้ความร่วมมือขอโครงการอะไรก็ไม่ให้ อ้างว่ายังไม่เสร็จ ทั้งๆที่วางโปรเจกต์เบ็ดเสร็จเอาไว้แล้ว
แบบนี้มันก็เลยป่วนไปหมด ทุกอย่างเดินหน้ายังไม่ได้ ถามว่าเหตุมันอยู่ตรงไหน เพราะอะไร จริงแล้วเรื่องมันไม่มีอะไรมาก และตอบง่ายที่สุด “3.5 แสนล้าน”... เล่นกินรวบไม่กินแบ่งมันก็ต้องแสดงฤทธิ์เดชกันบ้าง!!!
