นำร่องสร้าง60สภ. 27กพ.เคาะแจ้งพีซีซีฉ้อโกง
วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีฉ้อโกงกรณีโครงการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ คณะพนักงานสอบสวนจะประชุมหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบความคืบหน้ารายละเอียดของสำนวนการสอบปากคำผู้รับเหมาที่ได้รับความเสียหาย โดยไม่ได้รับค่าจ้างทำงานตามที่ทำสัญญากับบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด รวมทั้งพยานเอกสารอื่นประกอบสำนวน ว่าเพียงพอต่อการแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงกับทางบริษัทพีซีซีฯ หรือไม่ แต่เบื้องต้นพบว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายฉ้อโกงเพราะส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าโครงการดังกล่าวห้ามมีการจ้างช่วงงาน อีกทั้งทาง ตร.ไม่เคยทำหนังสือยินยอมว่าให้มีการจ้างช่วงบริษัท
พ.ต.ท.ถวัลกล่าวอีกว่า บริษัทพีซีซีฯได้ทยอยส่งเอกสารมายังดีเอสไอกว่า 2 กล่องกระดาษ ตนกับพนักงานสอบสวนได้ทยอยตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด แต่เนื้อหาที่ส่งมายังไม่ครบถ้วนตามที่ดีเอสไอทำหนังสือกำหนด 12 ประเด็น ให้ชี้แจง เบื้องต้นได้รับการประสานจากทางบริษัทพีซีซีฯ ว่า จะส่งส่วนที่เหลือมายังดีเอสไอภายใน 7 วัน ทั้งนี้ จะประสานไปยังทางผู้บริหารของพีซีซีฯอีกครั้งว่าจะเดินทางมาให้การวันใด
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ดีเอสไอยังคงเดินหน้าสอบสวนโครงการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หยุดหรือเลือกตรวจสอบ ตามที่หลายคนพยายามให้ข่าวว่าจะกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู ยืนยันด้วยเกียรติของดีเอสไอ เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบความเสียหายปรากฏชัดเจน ดีเอสไอไม่ได้สนใจว่าฝ่ายไหนจะได้เปรียบทางการเมือง แต่ทำคดีด้วยข้อมูลพยานหลักฐาน อีกทั้งร่องรอยของความเสียหายมีให้เห็นทุกวัน มันเป็นเรื่องเครดิตของดีเอสไอ ตนไม่เอาองค์กรมาเสี่ยงหรือทำอะไรเล่นๆ ไม่ได้
นายธาริตยังกล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าเรื่องดังกล่าวจะมีความชัดเจน ทั้งเรื่องความผิดตาม พ.ร.บ.เสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐหรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล และเรื่องฉ้อโกง ในส่วนของผู้รับเหมากับบริษัทพีซีซีฯ ส่วน ตร. เป็นเรื่องของดุลพินิจทาง ตร.ไม่สามารถให้ความเห็นได้
ที่ ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีโครงการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง ว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จากการตรวจสอบของคณะกรรมการทุกชุด ปรากฏชัดเจนว่าบริษัทคู่สัญญาทำผิดสัญญาโดยการจ้างช่วงในการก่อสร้าง จุดนี้จะเป็นสาเหตุหลักที่ ตร.บอกเลิกสัญญา แม้ว่าทางบริษัทคู่สัญญาจะมีเหตุมาอ้างขอขยายเวลาก็ตาม แต่การจ้างช่วงถือว่าผิดสัญญาอย่างชัดเจน ส่วนประเด็นการส่งมอบพื้นที่นั้นก็ต้องพิสูจน์กัน แนวโน้มตอนนี้ยังคงจะบอกเลิกสัญญากับบริษัทเหมือนเดิม
ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า มีสถานีตำรวจกว่า 60 แห่ง ที่ผู้รับเหมายังไม่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง ตร.มีแนวคิดว่า อาจจะทำการแยกประมูลก่อน สำหรับโรงพักกลุ่มนี้ เพื่อให้การก่อสร้างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา นำโดยนายวรากร หมั่นสระเกษ วิศวกรโยธา สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะเข้าตรวจสอบโครงสร้างของโรงพักที่ถูกผู้รับเหมาทิ้งงาน เป็นวันที่สอง ในพื้นที่ อ.พิมาย และ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา หลังจากเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ชุดวิศวกรโยธาฯ แบ่งออกเป็น 3 ทีม ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลในเขต อ.เมือง, อ.ขามทะเลสอ, อ.สูงเนิน และ อ.สีคิ้ว ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.บุญส่ง ขุนแขวง ผกก.สภ.พิมาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลควบคุมการก่อสร้างโรงพัก นำนายวรากร พร้อมเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจสอบโครงสร้างโรงพักที่ถูกผู้รับเหมาทิ้งงาน ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังโรงพักเก่า พบมีการก่อสร้างฐานรากของอาคาร 2 ชั้น โดยลงเสาเข็มพร้อมเทปูนหล่อโครงสร้างทับเหล็กเส้นสูงตั้งแต่ 4-10 เมตร จำนวนหลายต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจเอกสารการก่อสร้างและบันทึกภาพ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่งไปยังตำรวจภูธรจังหวัด (ภ.จว.) นครราชสีมา
นายวรากรเปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจครั้งนี้ จะดูรายละเอียดว่าบริษัทผู้รับเหมารายย่อยได้ดำเนินงานตามสัญญาหรือไม่ อีกทั้งตรวจสอบมาตรฐานการก่อสร้างว่าถูกต้องตามกำหนดหรือไม่ พร้อมทั้งประเมินราคาว่าได้ดำเนินการไปแล้วเท่าไหร่ ตรงตามจำนวนเงินที่ได้เบิกมาในงวดแรกหรือไม่ เบื้องต้น หากทาง สภ.พิมาย จะก่อสร้างโรงพักต่อก็สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากโครงสร้างของเสาที่เทปูนไว้นั้นไม่ได้เกิดสนิมใช้งานได้ทันที อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการปรับฐานให้ได้มาตรฐานกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อความปลอดภัยของตัวอาคาร
"หลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลแล้ว ทางโยธาฯ จะส่งไปให้ ภ.จว.นครราชสีมา ภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เพื่อให้ได้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ แล้วรวบรวมส่งตำรวจภูธรภาค 3 ก่อนส่งต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อีกครั้ง" นายวรากรกล่าว
ที่ จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการก่อสร้างโรงพักใหม่จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย สภ.เดิมบางนางบวช อ.เดิมบางนางบวช สภ.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ และ สภ.สระยายโสม อ.อู่ทอง พบว่า สภ.สระยายโสม ได้รับความเดือดร้อนหนักสุด เพราะอาคารเก่าถูกรื้อทิ้งทั้งหมดแล้ว ขณะที่อาคารใหม่ก่อสร้างไปได้ประมาณ 60% ส่วนอีก 2 โรงพักยังไม่ได้รื้อทุบอาคารเก่าเพื่อสร้างอาคารใหม่ แต่สร้างแห่งใหม่อยู่ใกล้ที่เก่า
พ.ต.อ.ชาติชาย นาคะสุวรรณ ผกก.สภ. สระยายโสม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แก้ปัญหาเรื่องของผู้ต้องหาทั้งหมดต้องนำไปฝากขังชั่วคราวที่ สภ.อู่ทอง โดยส่วนตัวอยากให้ สภ.สระยายโสม ก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อจะได้เข้าไปใช้พื้นที่อย่างเต็มรูปแบบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระยามโสม อ.อู่ทอง นายหนึ่ง เปิดเผยว่า สภ.สระยามโสม ต้องย้ายที่ทำการชั่วคราวไปใช้อาคารเก่าขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สระยายโสม ห่างจาก สภ.สระยามโสม เดิมที่อยู่ติดกับถนนมาลัยแมน ประมาณ 3 กิโลเมตร ทำให้ประชาชนผู้มาใช้บริการได้รับความเดือดร้อน บางคนไม่รู้ว่าจะไปติดต่อที่ใด จึงมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ไว้บริเวณสถานที่ก่อสร้าง เพื่อให้ประชาชนทราบว่าย้ายที่ทำการชั่วคราวไปที่ อบต.สระยายโสม ชั่วคราว