เปิดใจอดีตอาร์เคเค เข้าร่วม"ม.21"
วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กรณีรัฐบาลเตรียมนำมาตรา 21 ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 มาช่วยแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการรับมอบตัวของผู้หลงผิด รวมทั้งปรับเปลี่ยนจากพื้นที่ที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แทน เพื่อนำไปสู่การเปิดเวทีพูดคุย สอดคล้องกับแนวทางนโยบาย และยุทธศาสตร์แก้ปัญหาด้วยกระบวนการสันติวิธี ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา มีผู้หลงผิดหลายรายเข้ามามอบตัวเพื่อดำเนินการสู่กระบวนการการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯดังกล่าว
นายรอยาลี บือราเฮง อายุ 30 ปี เปิดเผยว่า ได้เข้าสู่ขบวนการกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ จ.ปัตตานี เริ่มตั้งแต่ขบวนการปลุกระดม ผ่านการสาบาน (ซุมเปาะฮ์) และผ่านการฝึกยุทธวิธีการสู้รบ จนได้มาเป็นกลุ่มทหารอาร์เคเค รวมกว่า 10 ปี และยังมาผ่านการปฏิบัติงานจริงๆ ในพื้นที่อีก 4-5 ปี
"ส่วนการเข้าร่วมโครงการอบรมนั้น ผมได้ขอรายงานตัวเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2555 และอบรมในโครงการเดือนเมษายนปีเดียวกัน จนเสร็จสิ้นการผ่านการอบรมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2555 สิ่งที่ได้รับจากมาตรา 21 สิ่งสำคัญที่สุดคือ อิสรภาพ จากที่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ได้ไปอยู่กับภรรยาและลูก รวมทั้งกลับไปดูแลพ่อแม่ก็ทำไม่ได้ แต่เมื่อเข้าอบรมมาตรา 21 แล้วชีวิตดีขึ้น กลับไปทำหน้าที่พ่อได้ เราได้รับความรู้ที่ถูกต้อง ทั้งความรู้ทางศาสนา เชิงวิชาการ หลักกฎหมายอิสลาม ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับการได้ใช้ชีวิตในสังคมคนต่างศาสนาที่เราอยู่ด้วยว่า ควรปฏิบัติตนอย่างไร" นายรอยาลีกล่าว
นายรอยาลีกล่าวต่อว่า การจะนำมาตรา 21 กลับมาใช้อีกครั้ง คิดว่าเป็นกฎหมายที่ดีที่สุดที่เคยเจอมา ให้โอกาสคน สำหรับตนเมื่อได้รับโอกาสนี้แล้วไม่ยอมปล่อยให้หลุดไป แต่การประกาศใช้มาตรา 21 ขณะนี้ ใช้เพียง แค่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา และ 1 อำเภอใน จ.ปัตตานี หากเป็นไปได้อยากจะให้ประกาศใช้ทั่วทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะยังมีคนอีกมากที่ต้องการโอกาสนี้ และหลังมีข่าวช่วงหลังๆว่าจะมีการประกาศใช้มาตรา 21 เพิ่มอีก 10-20 อำเภอนั้น ตนดีใจด้วย ถึงแม้จะไม่ทั่วถึง 3 จังหวัดก็ตาม
ต่อคำถามที่ว่า อยากจะให้ปรับปรุงการใช้มาตร 21 นั้น นายรอยาลีกล่าวว่า สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว และอยากฝากไปถึงเพื่อนๆ ที่ยังหลงผิดให้พิจารณาและใช้สติคิดว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นถูกหรือผิด หากคิดว่าถูกก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร แต่หากคิดว่ามันไม่ใช่ มันไม่ถูกเพราะต้องไปฆ่าคน ขอให้หันกลับมาพิจารณา มาตรา 21 มันจะเป็นโอกาสเดียวของเราที่จะล้างความผิดที่เราได้กระทำไป และจะได้ไปขออภัยต่อครอบครัวผู้ที่เราได้กระทำต่อเขา แล้วมาเข้าอบรมเพียงแค่ 6 เดือน จากนั้จะได้อิสรภาพ ได้กลับมาใช้ชีวิตที่ปกติ ขอยืนยันให้ได้ว่ามาตรา 21 นั้น ไว้ใจได้อย่างแน่นอน หากไม่ดีจริงตนคงไม่สามารถกลับมาอยู่ตรงนี้ได้" นายรอยาลีกล่าว