.. เปราะหอมแดง .. เปราะหอมขาว..
“เปราะหอมขาว-เปราะหอมแดง” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Kaempferia galanga L.” มีชื่ออื่นตามท้องถิ่นว่า หอมเปราะ(ภาคกลาง) ว่านตีนดิน ว่านแผ่นดินเย็น ว่านหอม(ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพืชล้มลุกอายุปีเดียว มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดินเรียกว่าเหง้า เนื้อภายในมีสีเหลืองอ่อน มีสีเหลืองเข้มตามขอบนอก มีกลิ่มหอมเฉพาะตัว ใบเป็นใบเดี่ยวแทงขึ้นจากเหง้าใต้ดิน 2-3 ใบ แผ่ราบไปตามพื้นดินหรือวางตัวอยู่ในแนวราบเหนือพื้นดินเล็กน้อย ใบมีรูปร่างค่อนข้างกลมหรือรูปไข่ป้อม ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือเว้าเล็กน้อย มีขนอ่อนบริเวณท้องใบ บางครั้งอาจพบขอบใบมีสีแดงคล้ำ เนื้อใบค่อนข้างหนา ตัวใบมีขนาดกว้าง 5-10 ซ.ม. ยาว 7-15 ซ.ม. ก้านใบเป็นกาบยาว 1-3 ซ.ม. ดอกออกรวมกันเป็นช่อยาว 2-4 ซ.ม. มี 4-12 ดอก ออกตรงกลางระหว่างใบ
ดอกมีสีขาวหรือสีขาวอมชมพูแต้มสีม่วง แต่ละดอกมีกลีบประดับ 2 กลีบรองรับอยู่ ซึ่งใบและต้นจะเริ่มแห้งเมื่อมีดอก ผลเป็นผลแห้งแตกได้ พบมากทางเหนือ ใบอ่อนม้วนเป็นกระบอกออกมาแล้วแผ่ราบบนหน้าดิน ต้นหนึ่งๆ มักมี 1–2 ใบ ใบมีรูปร่างทรงกลมโตยาว ประมาณ 5–10 ซ.ม. หน้าใบเขียว เปราะหอมแดงจะมีท้องใบสีแดง เปราะหอมขาวจะมีท้องใบสีขาว มีกลิ่นหอม หัวกลมเหมือนหัวกระชาย ใบงอกงามในหน้าฝน และจะแห้งไปในหน้าแล้ง
ส่วนที่ใช้ ดอก ต้น หัว ใบทั้งสดหรือแห้ง
สรรพคุณเปราะหอมขาว
ดอก แก้เด็กนอนสะดุ้งผวา ร้องไห้ตาเหลือก ตาช้อนดูหลังคา
ต้น ขับเลือดเน่าของสตรี
ใบ ใช้ปรุงเป็นผักรับประทานได้
หัว แก้โลหิต ซึ่งเจือด้วยลมพิษ ปรุงเป็นเครื่องเทศสำหรับแกง สุมศีรษะเด็ก แก้หวัด คัดจมูก รับประทานขับลมในลำไส้
สรรพคุณเปราะหอมแดง
ใบ แก้เกลื้อนช้าง
ดอก แก้โรคตา
ต้น แก้ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ
หัว ขับเลือดและหนองให้ตก แก้ลมพิษ แก้ผื่นคัน แก้ไอ แก้บาดแผล หัวและใบ ใช้ในการปรุงเป็นอาหารได้
วิธีและปริมาณที่ใช้
ทั้งเปราะหอมขาว และเปราะหอมแดง ใช้เปราะหอมสด 10-15 กรัม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หัวสดใช้ 1/2-1 กำมือ ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว ดื่ม 1-2 ครั้ง
เปราะหอมขาวและแดง เป็นไม้ลงหัวจำพวกมหากาฬ เปราะหอมทั้งสองชนิดมีรสเผ็ดขม แก้เสมหะ เจริญไฟธาตุ แก้ลมทิ้ง ..!