เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานถึง ความคืบหน้ากรณี ด.ญ.สาวิณี คงขัน หรือน้องปลาย อายุ 10ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.13 ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ หนูน้อยกตัญญูที่ต้องขาดเรียนมาเฝ้าดูแล น.ส.สมศรี สร้อยนาค อายุ 41 ปี แม่ป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพียงลำพัง เนื่องจากสามีทอดทิ้ง ส่วนลูกสาวคนโตอายุ 30ปีและลูกชายคนรอง อายุ 18ปี ได้ออกจากบ้านไปทำงานและหายสาบสูญไปหลายปี ส่วนลูกชายคนที่3 อายุ 13ปี ก็บวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดในหมู่บ้าน จนสร้างความเวทนาแก่แพทย์ พยาบาลและประชาชนที่พบเห็น ตามที่”แนวหน้า”เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดอาการของ น.ส.สมศรี ผู้เป็นแม่ยังทรุดหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยมีน้องปลาย ลูกสาววัย 10 ขวบ เฝ้าดูแลอยู่ข้างเตียงไม่ยอมห่างไปไหน พร้อมกับมี นางตุ๊ แข็งฉลาด อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นป้าของน้องปลาย มาเฝ้าดูแลด้วย ขณะที่ญาติ พี่น้อง และเพื่อนบ้านต่างพากันมาเยี่ยมและให้กำลังใจ
นางตุ๊ แข็งฉลาด ป้าน้องปลาย บอกกว่า หลังจากทราบข่าวก็รีบเดินทางกลับมาดูแลน้องปลาย กับแม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกันได้ดูแลมาตลอด แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจน จึงไปทำงานรับจ้างทำงานที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้ยังไม่ถึงเดือนก็ต้องกลับมาด้วยความเป็นห่วงหลานและน้องสาวที่ป่วย
นางตุ๊ กล่าวต่อว่า ล่าสุดลูกชายคนที่สองของ น.ส.สมศรี ได้ติดต่อกลับมาแล้ว ตอนนี้ทำงานรับจ้างอยู่ จ.ชลบุรี บอกจะรีบกลับมาเยี่ยมแม่แต่ไม่รู้จะมาตอนไหน และอาของน้องปลายก็ติดต่อมาจะขอรับน้องปลายไปดูแล ซึ่งตนก็ได้ปรึกษาญาติๆ แล้วจะขอดูแลน้องปลายเอง เพราะดูแลมาตั้งแต่เด็ก อยากให้หลานได้เรียนสูงๆ
ขณะที่ภาคเอกชนและผู้มีจิตศรัทธาที่ทราบข่าวได้นำเงิน สิ่งของเครื่องใช้ เสื้อผ้าและอาหาร ไปมอบช่วยเหลือน้องปลาย ด.ญ.กตัญญู อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมียอดเงินบริจาคผ่านชื่อบัญชี น.ส.สมศรี สร้อยนาค หมายเลขบัญชี 330-0-31018-0 บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาสตึก เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 637,474 บาท
ขอขอบคุณข่าวจาก นสพ.แนวหน้า