กปปส. เข้าพบ กมธ.ยกร่างฯ เสนอให้ยกเลิกส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ – สว.สรรหา เน้นให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ หวังให้ประชาชนมีส่วนร่วม ตัดสิทธินักการเมืองตลอดชีวิตหากพบผิดทุจริต-คอรัปชั่น ในรัฐธรรมนูญใหม่
วันที่ (25 พ.ย. 57) พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลการหารือระหว่างกลุ่มกปปส. และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หลังส่งตัวแทนอาทิ นายถาวร เสนเนียม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายสุริยะใส กตะศิลา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ เข้าเสนอความเห็นเกี่ยวกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่า
กลุ่ม กปปส. ได้มีข้อเสนอแนะหลักสำคัญต่อการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ คือ ต้องมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข มีการถ่วงดุลอำนาจทั้ง 3 ฝ่าย รวมถึงองค์กรอิสระอย่างชัดเจน อีกทั้งต้องขจัดการผูกขาดอำนาจและต้องกระจายอำนาจไปสู่ประชาชน
พร้อมกันนี้ยังได้เสนอให้มีการยกเลิก ส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสต์ และส.ว.ที่มาจากการสรรหาออกด้วย ให้เหลือเพียง ส.ส. – ส.ว. ที่มาจากการแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น รวมไปถึงลดอำนาจของกกต. โดยไม่ให้มีอำนาจแจกใบเหลือง -แดง แต่ให้เป็นอำนาจของศาลแทน
ส่วนเรื่องการการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น ทาง กปปส. ได้เสนอให้คุดีทุจริตไม่จำกัดอายุความ และให้ ป.ป.ช.ฟ้องตรงต่อศาลได้ ถ้าคดีถึงที่สุดแล้วก็ให้ยึดทรัพย์ที่ต้องสงสัยได้ รวมถึงการเพิ่มโทษผู้กระทำการทุจริตคอร์รัปชัน เพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
ขณะที่การกระจายอำนาจนั้น ทาง กปปส.เสนอให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ แทนการแต่งตั้ง เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น และยังเน้นการปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีการกระจายอำนาจโดยรัฐต้องส่งเสริมให้ชุมชนเข้มแข็งปกครองตนเองได้ และให้กำนันผู้ใหญ่บ้านมาจากการเลือกตั้ง ดำรงตำแหน่งได้สองวาระ ไม่ใช่เป็นได้ตลอดชีวิต
พร้อมกันนี้ได้เสนอให้มีการปรับโครงสร้างตำรวจด้วยเพื่อแก้ปัญหาอิทธิพลภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเห็นว่าอัยการสูงสุด ไม่ควรเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และไม่ควรไปดำรงตำแหน่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เพื่อจะให้การทำงานเป็นไปด้วยความโปร่งใส การสั่งคดีต้องเปิดโอกาสให้สาธารณชนรับทราบถึงเหตุผลทุกคดี
สำหรับการปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำนั้น เสนอให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน ที่ดินได้ มีกฎหมายให้ประชาชนมีโอกาสมีที่ดินทำกิน โดยเฉพาะต้องปฏิรูปการศึกษาให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ยังเสนอเรื่องการปฏิรูปพลังงานจะต้องมีข้อกำหนดไม่ให้ธุรกิจพลังงานถูกผูกขาด โดยบริษัทใหญ่จนมุ่งแต่แสวงหากำไร แต่ต้องเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนดำเนินโครงการพลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานชุมชนเพิ่มมากขึ้น แทนที่จะส่งเสริมให้พลังงานหมุนเวียนเป็นธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น
ขอบคุณข่าวจาก Mthai News