หมอออกโรงชี้แจง ภาพว่อนรอยจ้ำดำทั่วตัว หลังกินกลูต้าไธโอน
วันพุธ ที่ 21 มกราคม 2558 นำเสนอข่าวโดย:www.legendnews.net
(20 ม.ค.) จากกรณีกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่มีการแชร์ภาพผู้ป่วยมีอาการแพ้สารกลูต้าไธโอน ชนิดรับประทาน หรือผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างว่าจะทำให้ผิวขาวสวยใสขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผู้ป่วยมีผดผื่นขึ้นและกลายเป็นรอยจ้ำสีดำๆ ทั่วร่างกาย จนเกิดเป็นความตื่นตัวในสังคมออนไลน์ขึ้น
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า โดยปกติแล้วอาการแพ้หรือผลข้างเคียงจากการรับประทาน กลูต้าไธโอน เกินขนาด สามารถพบได้น้อยมาก เนื่องจากคุณสมบัติของกลูต้าไธโอนแบบชนิดรับประทาน ซึ่งเป็นอาหารเสริมจะมีการดูดซึมในร่างกายได้ยาก อีกทั้งกลูต้าไธโอน จัดเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้
การรับประทานโดยปกติจะมีแพทย์กำหนดควบคุม อาการแพ้ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าในผู้ป่วยรายนี้ น่าจะมาจากสาเหตุอื่น ไม่น่าจะใช่จากกลูต้าไธโอนที่เป็นอาหารเสริมชนิดรับประทาน เพราะในต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ในร้านสะดวกซื้อจะพบการซื้อขายกลูต้าไธโอน ที่เป็นชนิดแบบรับประทานกันเป็นเรื่องปกติ บางยี่ห้อมีการกำหนดให้รับประทานจำนวนมากถึง 9 เม็ดขึ้นกับขนาดของตัวยา
แต่หากเป็นกลูต้าไธโอนชนิดฉีด จะมีความอันตรายมากกว่า เนื่องจากมีฤทธิ์ดูดซึมได้รวดเร็วกว่าการรับประทาน และหากฉีดเข้าร่างกายในปริมาณที่มากเกินที่กำหนด ความหวังที่จะมีผิวขาวขึ้น ยับยั้งการทำงานของเม็ดสี ทำให้ผิวขาว ยังอาจส่งผลให้การมองเห็นเม็ดสีของดวงตา มีความผิดเพี้ยน เสี่ยงเกิดอันตราย ต่อจอประสาทตา
ทั้งนี้ นพ.จินดา ยังกล่าวอีกว่า ตามปกติของการนำเข้าและรับรองกลูต้าไธโอนในไทย ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นผู้ดูแลควบคุม แต่หากเป็นชนิดฉีด ห้ามนำเข้าเด็ดขาด ดังนั้น หากพบเห็นกลูต้าไธโอนแบบฉีด แสดงว่าผิดกฎหมาย แต่หากในวงการแพทย์จะมีการใช้แบบฉีดในการรักษาอาการของโรคตับเท่านั้น
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์