หากคุณเป็นคนรักสุขภาพ ชอบทานผัก ผลไม้เป็นประจำ แต่ต้องคอยล้างอยู่หลายรอบครั้งละนานๆ ปอกเปลือกออกทุกครั้งที่ทาน แล้วแบบนี้คุณจะได้รับประโยชน์ และสารอาหารครบครันได้อย่างไร? จริงอยู่ที่คุณกลัวสารเคมีตกค้าง และคิดว่าเปลือกเหล่านั้นทานไม่ได้ หากแต่รู้ไหมว่าผัก ผลไม้บางอย่างถ้าคุณล้างให้สะอาด (แค่นำไปแช่น้ำเปล่าประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างโดยการลูบผิวเปลือกเบาๆ ไม่ต้องผ่านกรรมวิธีล้างหลายรอบ) ก็สามารถนำเปลือกมารับประทานได้เช่นกัน ซึ่งไม่เพียงเปลือกจะให้คุณประโยชน์ อุดมไปด้วยสารอาหารเหมือนส่วนเนื้อด้านในแล้ว ยังช่วยคุณประหยัดเวลาในการปอกเปลือกอีกด้วยแนะ!

และนี่คือ 5 ตัวอย่างผัก ผลไม้ที่ไทยรัฐออนไลน์แนะนำให้คุณลองทานทั้งเปลือกดูได้เลย การันตีความอร่อย คุณประโยชน์เต็มพิกัดไม่แพ้เนื้อใน!

1. มันฝรั่ง มันฝรั่งหวาน

แม้คุณจะเห็นว่าเปลือกรอบนอกของมันไม่น่าจรรโลงใจให้รับประทานสักเท่าไหร่ และคุณคงคิดในใจว่ามันคงเป็นอะไรที่แย่มากหากคุณรับประทานเข้าไป แต่ทว่านั่นคุณกำลังมองพลาดแหล่งสารอาหารที่สำคัญไปอย่างง่ายดาย เพราะบริเวณเปลือกที่คุณยี้ๆ ไม่กล้ารับประทานนี่แหละ เป็นแหล่งรวมวิตามินชั้นดี และอุดมไปด้วยสารอาหารถึง 20% เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี, วิตามินซี, โพแทสเซียม, เบต้าแคโรทีน, น้ำแร่ธรรมชาติ และไฟเบอร์ ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และโรคเบาหวาน แถมยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยในการย่อย-ขับถ่ายด้วย!

เพียงแค่คุณล้างมันให้สะอาดก่อนรับประทาน อาจนำมาทำเป็นมันฝรั่งบด สลัดมันฝรั่ง มันฝรั่งเผาทานเล่น มันฝรั่งเคลือบช็อกโกแลต หรือแพนเค้กมันฝรั่งง่ายๆ ก็ไม่ว่ากัน แต่ย้ำว่าเมนูมันฝรั่งทุกอย่างต้องห้ามปอกเปลือกออกนะ…!

2. แตงกวา


เปลือกผิวแตงกวาอาจจะดูหยาบขรุขระเล็กน้อยชวนให้ไม่น่ารับประทาน แต่มันก็เป็นแหล่งอุดมไปด้วยไฟเบอร์ (ช่วยป้องกันโรคท้องผูก-ขับถ่ายคล่องขึ้น) และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย (ช่วยต้านความแก่ชราได้) เหมาะกับคนที่ชอบนอนดึก พักผ่อนน้อย ไม่ดูแลตัวเอง ไม่หมั่นออกกำลังกาย และชอบทานแต่อาหารทอด-ป้ิงย่างเป็นที่สุด อีกทั้งเปลือกแตงกวายังมีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย คอยกันเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้ามาด้วย และแน่นอนหากเป็นแตงกวาเปลือกสีเขียวเข้ม ก็ยิ่งอุดมไปด้วยสารอาหารมากขึ้น… ประโยชน์เพียบขนาดนี้ ครั้งหน้าไม่ลองไม่ได้แล้ว

3. แครอท


หากใครสงสัยว่าแครอทเป็นผัก หรือผลไม้กันแน่? เราบอกได้เลยว่า "แครอท" จัดเป็น "ผัก" ชนิดหนึ่ง เพราะมันอยู่ในส่วนของรากพืช… ไม่เพียงเนื้อแครอทด้านในจะให้สารอาหารเต็มหน่วยแล้ว เปลือกนอกสีส้มของมันก็ให้คุณประโยชน์ไม่แพ้กัน ทั้งอุดมด้วยสารแอนติออกซิเดนท์ ช่วยลดเลือนริ้วรอยสัญญาณแห่งวัย และปกป้องผิวจากมะเร็งผิวหนัง, วิตามิน A-วิตามิน C ที่มีประโยชน์ช่วยบำรุงสุขภาพสายตา ผิวพรรณ และสารเบต้าแคโรทีน ที่มีคุณสมบัติเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง

ถ้าคุณล้างผิวเปลือกของแครอทดีๆ คุณสามารถนำมาทำน้ำสต๊อกผักรวมกับเปลือกผัก ผลไม้ชนิดอื่นได้ด้วย อย่างรวมกับเปลือกมันฝรั่ง เปลือกหอมใหญ่ หรือเปลือกผลไม้อื่นๆ ทานเป็นซุปบำรุงสุขภาพก็ดี หรือปรุงเข้ากับอาหารอื่นๆ ก็ไม่เลว หากแต่วันไหนที่คุณไม่อยากลงมือเข้าครัว เพียงแค่ล้างแครอท สัก 1-2 หัว และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมปั่นดื่มรองท้อง ก็ได้สารอาหารไปอีกแบบแล้ว แถมน้ำผักสดอย่างแครอทยังช่วยสร้างผิวสวยให้คุณจนรู้สึกได้ ผิวคุณจะชุ่มชื้นขึ้น สดใสเปล่งปลั่งจากภายในแลดูสุขภาพดี… เห็นไหมล่ะว่าถ้าคุณล้างผิวเปลือกดีๆ มันก็ไม่มีเหตุผลไหนเลยที่ต้องปอกเปลือก (นอก) ออก เพราะมันมีแต่ประโยชน์ทั้งนั้น!

4. หัวผักกาด


บ่อยครั้งที่หลายคนเรียกมันว่า "แครอทสีขาว" เพราะมันมีลักษณะ (หัว) คล้ายแครอทสีส้มเป๊ะ เหมือนเป็นลูกพี่ลูกน้องยังไงยังงั้น เพียงแต่ต่างกันแค่สีเท่านั้น! หากคุณลองทานแล้วจะรู้สึกว่าหัวผักกาดให้รสชาติความหวานน้อยกว่า แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับประโยชน์ที่คุณได้รับอย่างแน่นอน โดยเฉพาะใต้ผิวเปลือกสีขาวนั้นเต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย (มีมากเท่าแครอทสีส้ม) ไม่ว่าจะเป็นสารลิกนิน ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทาน และช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง, แคลเซียม เสริมสร้างกล้ามเนื้อแข็งแรง ทำงานเป็นปกติ และวิตามิน C ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน และกำจัดสารพิษ โลหะหนักให้แก่ร่างกาย

ซึ่งนอกจากคุณจะนำหัวผักกาดมาปรุงเพิ่มสีสันในอาหารแล้ว ยังสามารถนำมาคั้นสดๆ เติมขิง น้ำตาลทรายขาวพอหวาน แล้วนำมาต้มให้เดือด ดื่มแก้ดับกระหายได้! หรือไม่ พอคุณคั้นสดๆ แล้วเติมขิง และผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย ต้มน้ำให้เดือดพอประมาณ นำมาจิบๆ ก็จะช่วยบรรเทาอาการไอ และหวัดของคุณได้ผลเวิร์กสุดๆ จากเสียงแห้งไม่มีเสียง ก็จะทำให้เส้นเสียงของคุณค่อยๆ ใสขึ้น และคุณจะรู้สึกว่าช่องเสียงของคุณโล่งคล่องมากขึ้นด้วย อีกทั้งถ้าคุณชอบเป็นร้อนใน เป็นแผลในปาก ให้นำน้ำหัวผักกาดที่ไม่ผ่านการต้มให้เดือด มาใช้บ้วนปากบ่อยๆ (เช้า-เย็น) มันจะเป็นยาสมานแผลชั้นดี ได้ผลชะงัดนัก!

ป.ล.การรับประทานหัวผักกาดนั้นจะรับประทานสุก หรือดิบก็ได้ แต่การรับประทานแบบดิบๆ นั้นจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า

5. แอปเปิล

ผลไม้ยอดฮิตติดตู้เย็นสำหรับคนรักสุขภาพ… ที่ส่วนใหญ่นิยมนำมาทานเปล่าๆ บ้างล่ะ ทำเป็นสลัดผลไม้บ้างล่ะ ยำแอปเปิลบ้างล่ะ หรืออีกหลากหลายเมนู ดี.ไอ.วาย. บ้างล่ะ คุณรู้หรือไม่ ว่าส่วนเปลือกนอกสีแดง หรือสีเขียวที่คุณตัดทิ้งออกไปเป็นประจำเพราะคิดว่ามันเคี้ยวยาก และยากต่อการย่อยจนคงเหลือไว้แต่ส่วนเนื้อที่รับประทานได้นั้น ความจริงแล้วมันยังมีอีกหลากหลายประโยชน์ซ่อนอยู่ อย่างเช่น ไฟเบอร์สูงชั้นยอด ตัวช่วยสำคัญของการย่อยอาหาร และกระตุ้นการขับถ่ายคล่องเป็นระบบมากขึ้น รวมถึงยังมีสารเควอซิทิน ที่ช่วยป้องกัน (การแข็งตัว) ของโรคหลอดเลือด หัวใจ ช่วยต้านแบคทีเรีย และไวรัสต่างๆ, วิตามินซี เสริมสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย และรักษา ป้องกันโรคหวัดให้หายเป็นปลิดทิ้ง แถมมีสารไตรเทอร์ ปินนอย ที่ช่วยลดความดันโลหิตสูง และต้านการเกิดมะเร็งได้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วย

รู้แบบนี้แล้วเปลี่ยนความคิดซะใหม่…! เพราะคุณประโยชน์ดีๆ จากสารอาหารมากมายรอคุณอยู่เพียบ ทานคู่กันกับเนื้อแอปเปิลนั้นแหละดี!

เครดิตข้อมูล : womenshealthmag.com/life