การฉีดซีเมนต์เพื่อเสริมโครงกระดูกสันหลัง (vertebroplsasty / kyphoplasty) เป็นวิธีการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังจากภาวะกระดูกสันหลังหัก หรือ ทรุด และภาวะกระดูกสันหลังผิดรูปอันเนื่องมาจากกระดูกพรุนเป็นหลัก รวมถึงผู้ป่วยที่มีเนื้องอก บริเวณไขสันหลังและไขสันหลังบาดเจ็บด้วย ในกลุ่มที่มีอาการปวดมาก และลดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนนานๆ ก่อนที่จะรักษาเพิ่มเติมด้วยวิธีอื่น ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจ MRI (เอกซเรย์แม่เหล็กไฟฟ้า) เพื่อช่วยระบุตำแหน่ง นอกจากนี้ยังช่วยในการประเมินการกดทับไขสันหลังหรือเส้นประสาท
การฉีดซีเมนต์ไปยังตำแหน่งที่มีการหักยุบของกระดูกสันหลัง โดยซีเมนต์จะเข้าไปแทรกตามกระดูกทำให้กระดูกที่หักยึดติดกันไม่ขยับ และยังมีความแข็งแรงช่วยรับน้ำหนักตัวได้ ทำให้ไม่มีอาการปวดเวลาขยับตัว หรือ เวลา นั่ง ยืน เดิน การรักษาแบบนี้มีความเสี่ยงน้อยและสามารถทำได้โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แต่ต้องทำที่ห้องผ่าตัด อีกทั้งเวลาทำผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ เพราะวิสัญญีแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาวิธีการฉีดยาชา หรือ ดมยาสลบตามความเหมาะสม ใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที และผู้ป่วยต้องนอนคว่ำตลอดการฉีด หลังการฉีดผู้ป่วยต้องนอนหงายเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อให้ซีเมนต์ที่ฉีดไปแข็งตัวดี จากนั้นผู้ป่วยสามารถลุกนั่ง ยืน เดิน ได้ โดยทั่วไปอาการปวดจะดีขึ้นมากหรือในบางรายจะไม่มีอาการปวดเลย
ในผู้ป่วยที่ทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือ ยาละลายลิ่มเลือด ควรงดยาก่อนทำเป็นเวลา 1 สัปดาห์
สำหรับผู้ป่วยบางรายไม่สามารถรักษาโดยวิธีนี้ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีภาวะการติดเชื้อ ภาวะเลือดเข็งตัวยาก โรคหัวใจและปอดที่มีอาการมาก แพ้ซีเมนต์หรือสารทึบรังสี เป็นต้น
โดยโรคกระดูกพรุน พบได้ในหญิงวัยหมดประจำเดือน หรือ ผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง ทำให้กระดูกขาดความแข็งแรง และมีความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักแม้เกิดจากแรงเพียงเล็กน้อยได้ ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดหลัง เกิดหลังจากเหตุการณ์กระทบกระเทือนเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น นั่งรถตกหลุม นั่งกระแทกบนโซฟา หรือ ก้มยกของ เป็นต้น และในบางรายอาจไม่พบเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดอาการ ผู้ป่วยเพียงแต่ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ก็สามารถเกิดภาวะกระดูกสันหลังหักยุบได้
อาการเบื้องต้น
ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวดบริเวณกลางหลังตรงตำแหน่งที่มีการหักยุบ โดยอาการปวดจะเป็นมากขึ้นเวลาขยับ เช่น พลิกตะแคงตัวในท่านอน ลุกจากนอนมานั่ง ลุกจากนั่งมายืน บิดตัว ก้ม และเงย เป็นต้น เนื่องจากมีการขยับและเสียดสีกันของกระดูกที่หัก นอกจากนี้ผู้ป่วยจะมีอาการปวดมากขึ้นเวลาที่กระดูกสันหลังรับน้ำหนัก เช่น ท่านั่ง ยืน หรือ เดิน อาการปวดหลังอาจมีเพียงเล็กน้อย ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ หรือปวดมากจนผู้ป่วยไม่สามารถลุกนั่ง ยืน หรือ เดินได้ ต้องนอนอยู่ตลอดเวลา หากมีการเคลื่อนของกระดูกสันหลังอาจไปกดทับไขสันหลัง หรือเส้นประสาท จะทำให้มีอาการชา อ่อนแรงของขา หรือ ทำให้ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายอุจจาระ หรือ ปัสสาวะได้
การรักษาเบื้องต้น ได้แก่
- การพักโดยการจำกัดกิจกรรม ให้ผู้ป่วยนอนพักในระยะแรก และ ลุกนั่ง ยืน เดิน เท่าที่จำเป็น เช่น ลุกนั่งทานข้าว ยืน เดินไปเข้า ห้องน้ำ เป็นต้น
- ใส่เสื้อพยุงหลังที่เหมาะสม โดยทั่วไปต้องใช้ตัวที่ยาวจากสะโพก ถึงไหล่ จึงจะสามารถประคองกระดูกที่หัก และลดการเคลื่อนไหวของกระดูกที่หักได้ ทำให้มีอาการปวดน้อยลง และลดการยุบเพิ่มขึ้นของกระดูกสันหลังได้ โดยให้ใส่ตลอดเวลาที่มีการทำกิจกรรม เช่น ลุกนั่ง ยืน เดิน เป็นต้น สามารถถอดออกได้เวลานอน หรือ อาบน้ำ
- ให้ยาแก้ปวด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันที่จำเป็นได้
- ให้แคลเซียม และวิตามินดี เพื่อช่วยการสมานตัวของกระดูก
- ให้ยาฮอร์โมน Calcitonin ชนิดพ่นจมูก ซึ่งจะช่วยลดอาการเจ็บปวดจากกระดูกสันหลังหักยุบ และยังช่วยในการสมานตัวของกระดูกด้วย
นอกจากนี้ผู้ป่วยควรบริหารแขนขา โดยการขยับแขนขาอยู่เสมอแม้ในท่านอนเพื่อลดการฝ่อตัวของกล้ามเนื้อจากการใช้งานที่น้อยลง และช่วยการไหลเวียนโลหิตด้วย และบริหารปอดโดยการหายใจเข้าออกลึกๆ ยาวๆ เพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบจากการนอนนาน
URL : http://thonburihospital.com/2013/Package_Detail.aspx?Id=15
ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลธนบุรี 1
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 0-2421-3870 (เวลา 08.00-22.00น.)
HOT LINE 1645 กด 1 หรือ 0-2487-2000 ต่อ 7470-1
เปิดบริการทุกวัน
Email : th@thonburihospital.com
www. http://thonburihospital.com/