"อดีตกัปตันการบินไทย" ชี้คนทำขาดทุนกลับได้เป็นกรรมการฟื้นฟูบริษัท วอน "ประยุทธ์" ทบทวน

 23 กุมภาพันธ์ 2558  เรียบเรียงข้อมูลโดย www.legendnews.net  

"โยธิน ภมรมนตรี" โพสต์เฟซบุ๊กเรียนถึง "ประยุทธ์" เผยห่วงกลุ่มบุคคลที่ถูกเลือกมาฟื้นฟูบริษัท เป็นตัวต้นเหตุที่ทำขาดทุน โดยยอมเป็นเครื่องมือให้นักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ ลั่นอยากให้เอาผู้ที่มีความรู้จริงในธุรกิจการบินมาแก้ปัญหา ใช้คนเดิมจะไม่มีอะไรดีขึ้น ชี้หากเอาพนักงานออกก็จะมีการวิ่งเต้นและแต่งตั้งพวกพ้องมากินตำแหน่งสำคัญ
       
       เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายโยธิน ภมรมนตรี อดีตกัปตันการบินไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Jothin Pamon-montri" ว่า กราบเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       
       กระผมได้ฟังแถลงการณ์ของท่านเมื่อ วันศุกร์ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ซื่งท่านได้กล่าวถึงการขาดทุนของบริษัทการบินไทยที่ท่านพยายามแก้ไขอยู่
       
       ที่ทราบจากพนักงานหลาย ๆ คนรวมทั้งอดีตพนักงานอย่างกระผมรู้สึกเป็นพระคุณอย่างยิ่งที่ท่านลงแรงลงใจที่จะกู้บริษัทการบินไทยจากสภาพขณะนี้ แต่ที่พวกเราเป็นห่วงคือบุคคลที่ได้มาฟื้นฟูบริษัทนั้นมีทั้งอดีตกรรมการและปัจจุบันที่เคยเป็นส่วนร่วมที่ทำให้บริษัทเสียหาย โดยยอมเป็นเครื่องมือให้นักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์
       
       ในอดีตเช่นการจัดซื้อเครื่องบินแบบ A340-500 มูลค่าลำละ 5,232 ล้านบาท จำนวน 4 ลำ ซึ่งทางสภาพัฒน์แน่ะนำให้ทบทวน แต่ก็ดำเนินการต่อไปเพราะประธานกรรมการสภาพัฒน์คือบุคคลคนเดียวกันกับประธานการบินไทย
       
       เครื่องบินดังกล่าวเมื่อเอามาบินก็ขาดทุนย่อยยับปีละประมาณ 3 ถึง 5 พันล้านบาท จึงจำเป็นต้องหยุดใช้ และเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีคนพร้อมจะซื้อในราคาลำละ 760 ล้านบาท ถึงขั้นวางมัดจำแต่ในราคานี้บริษัทจะขาดทุนลำละประมาณ 1,595 ล้านบาท คณะกรรมการการบินไทยจึงไม่อนุมัติให้ขาย ขณะนี้เครื่องบินทั้ง 4 ลำ ยังจอดอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ขาย(ถ้ามีคนซื้อ) ก็ขาดทุนไม่ขายก็เป็นเศษเหล็ก
       
       ในปี 2553/54 คณะกรรมการทราบฐานะการเงินของบริษัทแต่ก็ยังอนุมัติให้สั่งซื้อเครื่องบินเป็นจำนวนเงิน 260,000 ล้านบาท
       
       สิ้นปีงบประมาณ 31/03/2011 สิงคโปร์แอร์ไลน์ Group มีพนักงาน 21,534 คน ส่วนสิงคโปร์แอร์ไลน์มีพนักงาน 13,964 มี VP 36 คนที่เงินเดือนคนละ 505,420 บาท ส่วนกัปตันได้เงินเดือนๆละ 580,000 งบรายจ่ายเงินเดือนพนักงานของสิงคโปร์แอร์ไลน์ต่อปีสำหรับพนักงาน 13,964 คือ 61,186 ล้านบาทเทียบกับการบินไทยที่จ่ายให้พนักงานคือ 33,109 ล้านบาท ต่อปีแต่ทำไม่สายการบินเขามีกำไร
       
       คณะกรรมการฟื้นฟูเสนอให้หยุดบินไปกรุงแมดดริค ซึ่่งการบินไทยทำการบินตั้งแต่ปี 2530 เพื่อลดการขาดทุน ไม่บินรายจ่ายก็ลดลงและในเวลาเดียวกันรายได้ก็หายไป ก็ทำไมไม่คิดกลับไปบินแบบเดิมในปี 2530 TG932/933 กรุงเทพฯ-โรม-แมดดริด (Combined flight )จะลดค่าใช้จ่ายปีละ 1,500 ล้านบาท โดยไม่เสียรายได้ ดีไม่ดี อาจได้รายได้เพิ่มเพราะการบินไทยมีสิทธิการบินช่วงโรม-แมดดริด ไปกลับ จึงสามารถรับผู้โดยสารและทำเงินได้
       
       คณะกรรมการฟื้นฟูเสนอให้ขายสำนักงานใหญ่และทรัพย์สินต่างๆเพื่อความอยู่รอด สายการบิน PAN AM ก่อนจะล้มละลายขายสำนักงานใหญ่ที่ New York ขายเส้นทางบิน Pacificให้ United Airline ขายเส้นทางบินภายในประเทศให้ Delta Airline และขายโรงแรมเครือ Intercontinental ทั้งหมดและในที่สุดก็ล้มละลาย
       
       เหตุที่พนักงานเป็นห่วงก็คือเอาคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้มีส่วนที่ทำให้บริษัทอยู่ในสภาพขาดทุนมาทำการฟื้นฟูบริษัท ก็แปลกดีเพราะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ทั่ว ๆ ไปแล้วโดยมารยาทถ้าบริษัทขาดทุนติดๆกัน 2 - 3 ปี แบบการบินไทยคณะกรรมการเขาลาออกกันหมดแล้วหรือไม่ก็โดนผู้ถือหุ้นปลดออก
       
       พนักงานอยากเห็นให้มีการเปลี่ยนแปลงในระดับบนและเอาผู้ที่มีความรู้จริงๆในธุรกิจการบินมาช่วยแก้ปัญหา ถ้ายังใช้คนเดิมนี้ฟื้นฟู บริษัทก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น จะเอาพนักงานออกก็จะมีการวิ่งเต้นและแต่งตั้งพวกพ้องมากินตำแหน่งสำคัญๆ
       
       จึงกราบเรียนเพื่อโปรดทราบ
       
       ด้วยความเคารพอย่างสูง
       
       กัปตันโยธิน ภมรมนตรี 

ขอขอบคุณผู้จัดการออนไลน์