รพ.จุฬาฯ พัฒนา ห้องผ่าตัดหัวใจไฮเทค ควบคุมและสั่งการอุปกรณ์ผ่าตัดด้วยไอแพด
นำเสนอโดยทีมงาน www.legendnews.net
สร้างความเป็นเลิศทางการแพทย์ ที่ทันสมัย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้พัฒนาปรับปรุงห้องผ่าตัดหัวใจใหม่เป็น “ห้องผ่าตัดหัวใจไฮเทคปลอดเชื้อระดับสูง : คลาสหนึ่งหมื่น” ที่ทันสมัย มีระบบบริหารจัดการชุดผ่าตัดโรงพยาบาลเครื่องแรกในเอเชีย โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาเสด็จฯไปทรงเปิดอย่างเป็นทางการ ที่ตึก “สก” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อเร็วๆนี้
โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้ทอดพระเนตรห้องผ่าตัดหัวใจไฮเทคปลอดเชื้อระดับสูงและระบบการทำงานต่างๆที่ทันสมัยอย่างสนพระทัย พร้อมทั้งรับสั่งว่า ห้องผ่าตัดนี้มีสีสันสดใสดี โดยห้องดังกล่าวเป็นห้องสีขาวตกแต่งด้วยรูปดอกไม้ และยังมีระบบจัดการสัญญาณภาพภายในห้องสามารถถ่ายทอดไปยังที่อื่น ซึ่งองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทยรับสั่งว่า จะเป็นประโยชน์กับนักเรียนแพทย์ที่จะมาเรียนรู้ได้ด้วย พร้อมกันนี้ยังทรงทดลองระบบบริหารจัดการชุดผ่าตัด ที่สั่งการและควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆในห้องด้วยไอแพด นับว่าเป็นระบบที่ทันสมัย ป้องกันการติดเชื้อจากการไปสัมผัสปุ่มต่างๆของอุปกรณ์ในห้องผ่าตัดฯ ทำให้ห้องผ่าตัดนี้มีความปลอดเชื้อระดับสูง
นพ.วิชัย เบญจชลมาศ หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจ กล่าวว่า ห้องผ่าตัดหัวใจ ศูนย์โรคหัวใจ รพ.จุฬาฯ ที่ตั้งอยู่บนชั้น 5 ตึก “สก” นี้มีอายุการใช้งานมานาน ถึง 18 ปีแล้ว จึงได้มีการปรับปรุงห้องใหม่ โดยใช้เงินบริจาคจากผู้มีอุปการคุณทั้งสิ้นรวม 95 ล้านบาทและได้เริ่มต้นปรับปรุงมาตั้งแต่กลางปี 2556 เพื่อ พัฒนาสภาพแวดล้อม พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้มีความทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูง ได้มาตรฐานสากล จนเป็น “ห้องผ่าตัดหัวใจไฮเทคปลอดเชื้อระดับสูง : คลาสหนึ่งหมื่น” ประกอบด้วยเตียงผ่าตัดไฟฟ้า, ระบบควบคุมสภาวะอากาศปลอดเชื้อ สอดคล้องกับมาตรฐานประเทศสหรัฐอเมริกา, ระบบบริหารจัดการชุดผ่าตัดที่เป็นเครื่องแรกในประเทศ และยังเป็นเครื่องแรกในเอเชียด้วย นอกจากนี้ ยังมีระบบจัดการสัญญาณภาพถ่ายในห้องผ่าตัด สามารถส่งสัญญาณภาพระยะไกล และการเชื่อมต่อเข้ากับกล้องต่างๆ ภายในห้องผ่าตัด และสามารถถ่ายทอดภาพการผ่าตัดในพื้นที่ปลอดเชื้อ ออกสู่จอภาพในห้องผ่าตัดเครื่องอื่นๆ เพื่อให้ผู้ทำงานสามารถมองเห็นภาพการผ่าตัดและบริเวณโดยรอบอย่างสะดวกและชัดเจน รวมทั้งยังสามารถส่งเสริมการเรียนนอกห้องผ่าตัด พัฒนาระบบไปสู่ E-Learning รองรับการเชื่อมต่อเพื่อทำ Video Conference ได้.
ที่มา ไทยรัฐ