กฟภ.สานต่อโรดแมปขยะ สร้างนวัตกรรมถังคัดแยกขยะ

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558 นำเสนอโดยทีมงาน www.legendnews.net

กฟภ.สานต่อโรดแมปขยะ สร้างนวัตกรรมถังคัดแยกขยะ สร้างจิตสำนึกคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง พร้อมจัดโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มขยะ คาดช่วยลดขยะมูลฝอยทั่วประเทศกว่า 7 ล้านตัน ด้านวงษ์พาณิชเผยไทยปริมาณขยะเพิ่มขึ้น แนะเร่งปรับปรุงกฎหมายจัดการขยะ

  นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจัดการประกวดเพื่อเฟ้นหาพนักงานที่เป็นบุคลากรที่มีความสามารถ ในโครงการ 5 มหัศจรรย์ คนพันธุ์ PEA เพื่อคัดสรรบุคลากรที่เป็นนักคิด นักสร้าง นักซ่อม นักเติม และนักช่วย เพื่อระดมสมองสร้างนวัตกรรมถังคัดแยกขยะที่เรียกว่า ZeWa (Zero Waste) โดยได้รับการจุดประกายและให้ความรู้ในการสร้างเครื่องคัดแยกขยะจากวงษ์พาพิช เพื่อสร้างเครื่องช่วยคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการสร้างจิตสำนึกในการจัดการปัญหาร่วมกันต่อไป

        พร้อมกันนั้น ยังได้จัดโครงการ PEA Waste Management ขึ้น เพื่อคัดเลือกทีมบุคลากรของ กฟภ.ทุกเขตทั่วประเทศ จำนวน 13 ทีมมาแข่งขันบริหารจัดการขยะ และขยายผลไปยังชุมชนรอบข้าง โดยได้รับถังแยกขยะ ZeWa ทีมละ 1 เครื่องเป็นตัวช่วยในการคัดแยกขยะเบื้องต้น และนำขยะที่คัดแยกแล้วไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้มากที่สุด ซึ่งทาง กฟภ.จะมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะในการนำขยะไปสร้างมูลค่าเพิ่มในเดือนตุลาคมนี้

โดยถังแยกขยะ zewa จะช่วยให้ความรู้ด้านการคัดแยกขยะ และให้คำแนะนำในการแยกขยะแก่ผู้ใช้งาน สามารถแสดงสถานะปริมาณขยะในถัง อุณหภูมิ เวลา ความถี่ในการใช้งาน และส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ โดยเบื้องต้นได้ผลิตถังแยกต้นแบบจำนวน 13 ชุด เพื่อนำไปเป็นตัวช่วยในโครงการประกวดการจัดการขยะของ 12 เขตการไฟฟ้ากับสำนักงานใหญ่

"จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำหนดให้ปัญหาขยะมูลฝอยเป็นวาระสำคัญของชาติ กฟภ.ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ มีพนักงานกว่า 27,000 คน และสำนักงานสาขา 394 แห่งทั่วประเทศ เชื่อว่าหากพนักงาน ครอบครัว และชุมชนรอบข้างได้เข้ามาจัดการปัญหาขยะอย่างจริงจัง ก็จะมีส่วนช่วยสังคมและสิ่งแวดล้อมได้มาก โดยจากข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษระบุว่า โครงการ PEA Waste Management จะช่วยลดขยะมูลฝอยเฉพาะขยะจากสำนักงานได้ 1.6 ล้านตัน และหากขยายผลไปยังชุมชนรอบข้างจะสามารถลดปริมาณขยะได้ถึง 7 ล้านตันใน 1 เดือนพร้อมกันทั่วประเทศ" นายเสริมสกุลกล่าว

ดร.สมชัย วงษ์เจริญ ประธานกรรมการโรงงานคัดแยกขยะเพื่อการรีไซเคิล วงษ์พาณิช กล่าวว่า การที่รัฐบาลได้ประกาศให้ขยะเป็นวาระสำคัญแห่งชาติ  ถือเป็นการชาวยกระตุ้นจิตสำนึกร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาลและประชาชน โดยมองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการมุ่งบริหารจัดการขยะ สร้างจิตสำนึกสาธารณะในการจัดการขยะในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ชุมชน จึงจะเป็นการลดขยะแบบบูรณาการ ซึ่งการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเป็นเพียงการดำเนินการปลายทางเท่านั้น ควรให้ความรู้ในการจัดการขยะไปยังต้นทางซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ขณะที่รูปแบบกฎหมายต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดการขยะของไทยก็ยังไม่ทันสมัยเท่ากับต่างประเทศ อย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งเทียบกันแล้วไทยยังไม่มีกฎหมายการคัดแยกขยะมารองรับอ รวมทั้งยังจัดการขยะได้ไม่ดีเทียบเท่าต่างประเทศ จึงอยากให้ภาครัฐมีการส่งเสริมสนับสนุน หรือมีการมอบรางวัลแก่หน่วยงาน ภาคเอกชนที่มีการจัดการขยะอย่างดีเป็นการตอบแทน

      อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นมาก ทั้งจากภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนต่าง ๆ ซึ่งยังถือเป็นเรื่องดีที่แสดงให้เห็นว่ายังมีการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ ประเทศไทยก็ควรมีการจัดระเบียบการจัดการขยะให้ดีด้วย

ที่มา สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม