มะเร็งปากมดลูกภัยร้าย....ป้องกันได้
“หากเราสังเกตความผิดปรกติของร่างกายเรา เราก็จะรู้ทันโรคร้ายก่อนที่จะสายเกินแก้“
มะเร็งปากมดลูกภัยร้าย....ป้องกันได้
แม้ว่ามะเร็งปากมดลูกนั้นจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของสตรีไทย แต่การป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งปากมดลูกนั้นทำได้ง่ายๆ
1. การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทางเซลล์วิทยา หรือ แพปเสมียร์ (Pap smear) เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ราคาไม่แพง และมีประสิทธิภาพสูง สำหรับการตรวจหาเซลล์ผิดปรกติก่อนที่จะมีอาการใดๆ หากได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอก็จะสามารถตรวจพบเซลล์ที่ผิดปกติระยะก่อนลุกลามเป็นมะเร็ง หรือตรวจพบมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกซึ่งทั้งสองภาวะนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยสตรีที่อายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป หรือมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ และพิจารณาการตรวจติดตามต่อโดยแพทย์ผู้ดูแล
2. การตรวจหาเชื้อ HPV (human papilloma virus) เนื่องจากเป็นที่พิสูจน์ทราบแล้วว่า HPV เป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก (99% ของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อ HPV) โดยแนะนำให้ตรวจหาเชื้อ HPV ในสตรีที่อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป และพิจารณาตรวจติดตามต่อโดยแพทย์ผู้ดูแล
3. การฉีดวัคซีนเอชพีวี (HPV vaccine) เป็นการป้องกันไม่ให้ปากมดลูกติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นต้นตอสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก โดยทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสนี้ แต่เนื่องจากวัคซีนที่มีใช้ในประเทศไทยในปัจจุบันสามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกเฉพาะที่เกิดจากเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 เท่านั้น ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์นี้เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกประมาณร้อยละ 70 หมายความว่ามะเร็งปากมดลูกสามารถเกิดจาก HPV สายพันธุ์อื่นๆ ได้อีกประมาณร้อยละ 30 ดังนั้นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว มีความจำเป็นที่จะได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกควบคู่กันไปอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหากทำได้ทั้งสองวิธี ก็จะทำให้การป้องกันมะเร็งปากมดลูกมีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น
4. พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากเชื้อ HPV นี้ ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีเชื้อไวรัสนี้ที่อวัยวะเพศ ดังนั้นแนวทางการป้องกันการรับเชื้อก็คือ การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย เช่น มีคู่นอนคนเดียว หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย ใช้ถุงยางอนามัยคุมกำเนิด และชักชวนคู่นอนให้มีคู่นอนคนเดียวด้วย เป็นต้น
5.เลี่ยงบุหรี่ พบว่าผู้ที่ติดเชื้อ HPV และสูดดมควันบุหรี่ไม่ว่าจะสูบเอง หรือผู้อื่นสูบ จะทำให้เชื้อ HPV นั้นมีความสามารถในการก่อโรคมากขึ้น คือมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าผู้ที่ติดเชื้อ HPV อย่างเดียวและเลี่ยงบุหรี่ได้
จะเห็นว่าการป้องกันมะเร็งปากมดลูกนั้นทำได้ไม่ยาก แม้ว่ามะเร็งปากมดลูกจะพบบ่อย แต่เพียงแค่ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ, ตรวจหาเชื้อ HPV, ฉีด vaccine ป้องกันเชื้อ HPV, เลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อ, และเลี่ยงบุหรี่ หากทำได้เช่นนี้ สตรีไทยก็จะห่างไกลจากมะเร็งปากมดลูกอย่างแน่นอน
พญ. เนตร บุญคุ้ม
สูตินรีแพทย์ ศูนย์สุขภาพหญิง
โรงพยาบาลพญาไท 3
โทร.02-467-1111 ต่อ 3264-5
Phyathai Call Center 1772