จับสาวโทร.ตุ๋น เหยื่อครึ่งร้อย!
วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558 นำเสนอข่าวโดยทีมงาน www.legendnews.net
รวบสาวแสบโทรศัพท์ตุ๋นเงินไปทั่ว เผยพฤติกรรมโทรศัพท์ไปหาแบบสุ่มเบอร์ รอจนปลายสายทักชื่อก่อนสวมรอยเป็นคนรู้จัก อ้างเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลหรือเดือดร้อนเรื่องเงินอื่นๆ ให้รีบโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อน ที่ผ่านมามีเหยื่อหลงเชื่อกว่า 50 ราย คิดมูลค่าความเสียหายนับแสนบาท ขณะที่ประวัติก็สุดแสบถูกหมายจับคดีฉ้อโกงกว่า 10 หมาย เคยถูกตำรวจจับติดคุกไป 1 ปี แต่ออกมาก็ไม่กลับตัว เจ้าตัวอ้างไม่มีเงินเลี้ยงลูกเลยจำเป็นต้องทำ
เมื่อ เวลา 15.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พร้อมพ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจ พ.ต.ต.ปียรัช เวสสะโกศล สว.งานสายตรวจ 3 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนางวิเชียร ชูนาม อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1890/2558 ลงวันที่ 27 ส.ค. 2557 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น" โดยสามารถจับกุมตัว เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2558 บริเวณด้านหน้าอาคาร 29 บ้านเอื้ออาทรหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากทางผู้เสียหายผ่านทางแอพพลิเคชั่นตามโครงการ You will never walk alone ว่าถูกนางวิเชียรโทรศัพท์เข้ามาแอบอ้างเป็นเพื่อนสนิท แล้วออกอุบายให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีของตนเอง สืบสวนจนพบว่านางวิเชียรก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วมากกว่า 50 ครั้ง และยังมีหมายจับติดตัวในข้อหาฉ้อโกงอีกกว่า 10 หมาย โดยเริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 จากนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คลองตัน จับกุมในคดีลักษณะคล้ายคลึงกัน เมื่อเดือนก.ค. 2556 ต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ 1 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาแล้วไม่มีงานทำ จึงเริ่มก่อเหตุแบบเดิมอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน รวมมูลค่าความเสียหายจำนวนหลายแสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตาม กฎหมาย
สอบสวนนางวิเชียรให้การว่า ขั้นตอนการหลอกลวงจะใช้วิธีการสุ่มเบอร์โทรศัพท์ไปเรื่อยๆ โดยรอฟังปลายสายเรียกชื่อก่อน แล้วจึงสวมรอยเป็นคนตามชื่อที่ผู้เสียหายเรียก แล้วอ้างว่าไม่สบายอยู่โรงพยาบาล ให้ช่วยโอนเงินมาเป็นค่ารักษา หรือไม่ก็อ้างว่าซื้อของเงินไม่พอ จากนั้นจะให้เลขบัญชีกับผู้เสียหายโดยบอกว่าเป็นบัญชีเพื่อน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยโดนจับจำคุกมาแล้ว 1 ปี หลังจากได้รับการปล่อยตัวก็ก่อเหตุดังกล่าวซ้ำมากกว่า 20 ครั้ง เนื่องจากต้องการใช้เงิน เดือดร้อนไม่มีเงินเลี้ยงลูก ซึ่งได้เงินจากการหลอกลวง มาประมาณ 100,000 บาท ต่ำสุดที่เคยได้ 3,000 บาท อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่เคยดัดแปลงหรือปลอมเสียงแต่อย่างใด
ด้าน นางมยุรี จันทร์น้อย อายุ 58 ปี อาชีพคุณครูสอนหนังสือโรงเรียนแห่งหนึ่ง ผู้เสียหาย ที่เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2557 นางวิเชียรโทรศัพท์มาหา ตอนรับสายก็ถามว่าใคร แต่ปลายสายไม่ยอมตอบ จนกระทั่งตนเรียกชื่อ "มิ้นต์" ปลายสายจึงยอมรับว่าชื่อมิ้นต์ และบอกว่าเดือดร้อนขณะนี้มาซื้อของที่จ.เพชรบุรี เงินไม่พอ จึงขอให้โอนเงินมา 10,000 บาท แต่คุยไปสักพักเปลี่ยนเป็นจำนวน 20,000 บาท ผ่านไป 10 นาที ปลายสายโทร.มาเร่งให้รีบโอน ตอนนั้นไม่ติดใจอะไรจึงรีบออกไปโอนเงินให้ เนื่องจากมิ้นต์เป็นหลานญาติและทางครอบครัวของมิ้นต์เป็นคนดีมีน้ำใจ จึงโอนเงินไป โดยนางวิเชียรได้ให้เลขบัญชีมาบอกว่าเป็นบัญชีเพื่อน จากนั้นไม่นาน จึงหาเบอร์โทรศัพท์มิ้นต์และโทร.ไปถามว่าได้รับเงินที่โอนหรือไม่ มิ้นต์บอกว่าไม่ได้รับเงินและไม่ได้โทร.หาเพื่อให้โอนเงินด้วย จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รายงานข่าว แจ้งว่า ระหว่างการแถลงข่าวอยู่นั้น นางวิเชียรได้กราบขอโทษนางมยุรี ผู้เสียหาย พร้อมบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะหลอกลวงแต่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน นางมยุรีจึงว่ากล่าวตักเตือนว่าอย่าทำอย่างนี้อีก ให้หัดทำอาชีพที่สุจริตบ้าง
ที่มา ข่าวสด