เรียบเรียงโดยทีมงาน Legendnews.net
มงคลสูตร เป็นพระสูตรสำคัญบทหนึ่ง ในพระพุทธศาสนาเถรวาท เพราะมีเนื้อหาแสดงถึงการปฏิเสธ มงคลภายนอก ที่นับถือเหตุการณ์หรือสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็นมงคลหรือมีมงคล โดยอธิบายว่าในทัศนะพระพุทธศาสนานั้น มงคลของมนุษย์และเทวดาย่อมเกิดจากการกระทำอันได้แก่ มงคลภายใน คือต้องกระทำความดี และความดีนั้นจะเป็นสิ่งที่เรียกว่ามงคลเองโดยไม่ต้องไปอ้อนวอนกราบไหว้ขอมงคลจากนอกตัว
เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาในพระสูตรแล้ว ก็ได้แสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนาปฏิเสธมงคลภายนอกโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นจุดเด่นในพระพุทธศาสนา
ดูมงคลสูตรโดยละเอียดพร้อมสวดมนต์แปลได้ที่
มงคลสูตร.pdf
ประวัติ
ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา อธิบายความโดยพิสดารถึงสาเหตุของการที่พระพุทธเจ้าตรัสมงคลสูตรไว้ว่า ประมาณ 12 ปีก่อนพุทธกาล ประชาชนต่างตื่นตัวว่า อะไรคือเหตุที่ทำให้ชีวิตเป็นมงคล กล่าวว่า บ้างก็ว่า วัตถุสิ่งของ เช่น ต้นไม้ สัตว์ หรือว่ารูปเคารพต่าง ๆ จะทำให้ชีวิตเป็นมงคล[1] เรื่องราวการอภิปรายเรื่องมงคล ก็ไปถึงภุมเทวา คือเทวดาในระดับพื้นดิน เทวดาก็สนทนากันว่าอะไรคือมงคล ประเด็นนี้ก็ลุกลามไปถึงอากาศเทวา ไปถึงสวรรค์ชั้นต่าง ๆ จนถึงพรหมโลกชั้นสุธาวาส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย ของผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีแล้ว มีความเข้าใจในเรื่องมงคลชีวิตเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถอธิบายได้ จึงได้ประกาศให้เทวดาทราบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จลงมาตรัสรู้ธรรมในอีก 12 ปี ให้ไปถามพระพุทธองค์ในตอนนั้น
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว คืนหนึ่งขณะที่ประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร ใกล้เมืองสาวัตถี ท้าวสักกเทวราชได้นำหมู่เทวดาเข้าเฝ้า และบัญชาให้เทพบุตรองค์หนึ่งทูลถามพระองค์ว่า อะไรคือมงคลของชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงหลักมงคลสูตร ซึ่งมีทั้งหมด 10 หมวด นับเป็นรายการได้ 38 ประการ*
(ผู้ทรงความรู้บางท่านที่จำแนกโดยการแปลจากภาษาบาลี นับได้ 37 ประการ เพราะ "การสงเคราะห์บุตรและคู่ครอง" เป็นสองข้อที่อยู่ในวลีเดียว).
เนื้อหาในพระสูตร
ตามเนื้อหาในพระสูตร มงคลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ยึดถือวัตถุ แต่ยึดถือการปฏิบัติฝึกฝนตนเอง ซึ่งมีอยู่ 38 ประการ ทั้งหมดจำแนกอยู่ในเนื้อหาโดยแบ่งเป็น ๑๐ หมวด ดังนี้
หมวดที่ ๑
1.ไม่คบคนพาล
2.คบบัณฑิต
3.บูชาคนที่ควรบูชา
หมวดที่ ๒
1.อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม
2.มีบุญวาสนามาก่อน
3.ตั้งตนชอบ
หมวดที่ ๓
1.เป็นพหูสูต
2.มีศิลปะ
3.มีวินัย
4.มีวาจาสุภาษิต
หมวดที่ ๔
1.บำรุงมารดาบิดา
2.เลี้ยงดูบุตร
3.สงเคราะห์ภรรยา(สามี)
4.ทำงานไม่คั่งค้าง
หมวดที่ ๕
1.บำเพ็ญทาน
2.ประพฤติธรรม
3.สงเคราะห์ญาติ
4.ทำงานไม่มีโทษ
หมวดที่ ๖
งดเว้นจากบาป
1.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
2.ไม่ประมาทในธรรม
หมวดที่ ๗
1.มีความเคารพ
2.มีความถ่อมตน
3.มีความสันโดษ
4.มีความกตัญญู
5.ฟังธรรมตามกาล
หมวดที่ ๘
1.มีความอดทน
2.เป็นผู้ว่าง่าย
3.เห็นสมณะ
4.สนทนาธรรมตามกาล
หมวดที่ ๙
1.บำเพ็ญตบะ
2.ประพฤติพรหมจรรย์
3.เห็นอริยสัจจ์
4.ทำพระนิพพานให้แจ้ง
หมวดที่ ๑๐
1.จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
2.จิตไม่โศก
3.จิตปราศจากธุลี
4.จิตเกษม
อย่างไรก็ตาม แม้พระพุทธองค์จะทรงแสดงธรรมไว้ชัดเจนดีแล้ว ก็มีผู้ที่เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง จึงได้ส่งผลมาถึงปัจจุบันนี้ แนวทางการยึดถือความเป็นมงคล จึงมีอยู่ 2 แนวทาง คือ
1.มงคลจากการมีสิ่งนั้นมีสิ่งนี้
2.มงคลจากการฝึกตัว
ดูมงคลสูตรโดยละเอียดพร้อมสวดมนต์แปลได้ที่
มงคลสูตร.pdf
เอกสารอ้างอิงจาก มหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นคำสวดมนตร์แปลLegendnews.net จึงคัดลอกในฐานะพุทธมามกะเพื่อเผยแพร่ และแนะนำว่าหนังสือที่นำมาดังกล่าว เป็นคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งทั่วไปรับฟังคำสวด แต่ไม่รู้คำแปลตลอดมา เป็นที่น่าเสียดายที่ ผู้รู้ผู้เผยแพร่มิได้สวดแปล หรือเทศนาในงานต่างๆ
และขอบคุณ th.wikipedia.org