นายกฯ ให้โอวาทเด็กยันทุกคนมีเสรีภาพ หากไม่ทำผิดกฏหมาย
วันเสาร์ ที่ 9 มกราคม 2559 เรียบเรียงโดยทีมงาน www.legendnews.net
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติตอนหนึ่งว่า การศึกษาเป็นตัวชี้วัดของทุกประเทศรวมถึงไทย ซึ่งเราไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่น มีวัฒนธรรม ประเพณีงดงาม คนไทยจิตใจดี แต่ละเอียดอ่อน รักใครรักเร็ว รักจริง จนทำให้เป็นรักที่ไม่มีเหตุผล จึงอยากให้รักด้วยเหตุผล ไม่ใช่รักด้วยความรู้สึก แต่คนนั้นต้องมีความดีงามให้เรารัก ไม่เช่นนั้นก็จะลำบาก บ้านเมืองต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับประเทศ การศึกษาทุกระดับเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการให้ดีขึ้น ขออย่าพูดถึงสิ่งที่ผ่านมา เพราะเรากำลังเขเาสู่เออีซี มีความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับเรา ทั้งนี้ตนเคยเป็นเด็กมาก่อนตั้งแต่เด็กจนโตเป็นนายก รู้ว่าทำอะไรไม่ดีมาบ้าง เราจึงต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน รัฐบาลหรือครู จะทำคนเดียวไม่ได้ สั่งไม่ได้ อยู่ที่สติปัญญา ความตั้งใจและความร่วมมือ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาการศึกษาของประเทศไม่ใช่เฉพาะด้านงบประมาณหรือเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งทุกรัฐบาลต้องให้ความสำคัญในการศึกษา เพราะต้องอาศัยความร่วมมือของบุคลากรการศึกษา และเริ่มต้นปฏิรูปจากตัวเอง เพราะไม่สามารถบังคับโดยรัฐบาล รัฐมนตรีหรือใช้ มาตรา 44 ไม่ได้ แต่เกิดจากการใฝ่ดี ใฝ่รู้ ทั้งนี้รมว.ศึกษาได้รับมอบนโยบายไปแล้ว ในการผลิตคนรุ่นใหม่เป็นsmart people และนำไปสู่ Smart city โดยต้องเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของสังคม นำสิ่งเก่าๆมาเป็นบรรทัดฐาน และปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อลดความเสี่ยงอนาคตประเทศในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งตนมีเวลาอีก 1 ปีครึ่ง จึงต้องทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ให้ได้ วันนี้อยากให้เด็กๆและทุกคนช่วยกันสร้างความเข้มแข็งด้วยความรักความสามัคคี เพื่อทำให้สังคมสงบสุขและปลอดภัย ซึ่งประเทศไทยมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าที่พร้อมนำพาและเป็นกลไกให้เครื่องจักรของประเทศเดินหน้า ซึ่งประเทศขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หลายส่วน รัฐบาลเองก็ขับเคลื่อนในหลายเรื่อง ซึ่งใน 1 ปี 6 เดือนที่เหลืออยู่นี้ เราพยายามทำทุกอย่างเพื่ออนาคต แต่ประเทศไทยไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างซึ่งถือเป็นกับดักตัวเองอย่างถาวร จึงต้องมีการเรียนรู้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้หวังว่าครู ผู้ปกครอง บุคลากรการศึกษาจะร่วมมือกันพัฒนาประเทศในเรื่องของการปฏิรูปการศึกษาเหมือนคำขวัญวันเด็กที่ตนเขียนไว้เชื่อมโยงกับวันครู "เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู้อนาคต" ซึ่งตอนนี้รัฐบาลกำลังพัฒนาประเทศในระยะที่ 1 เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปในอนาคต ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 59 คนที่จบอาชีวะจะมีงานทำแน่นอน อาชีวะจึงต้องเร่งพัฒนาให้ทันกับความต้องการของประเทศมิเช่นนั้นคนอื่นๆจะเข้ามาแย่งงานเราโดยที่เราห้ามไม่ได้ โดยการเรียนรู้ไม่ได้เพื่อมุ่งหวังที่จะไปทำงานอย่างเดียว แต่เป็นการสอนให้เราคิดและพัฒนา ถ้ามีความจำเป็นเรื่องรายได้ก็ให้ไปเรียนด้านวิชาชีพ เพื่อสร้างรายได้แล้วค่อยเรียนต่อปริญญาเพราะปัจจุบันเรียนปริญญาอย่างเดียวแล้วไม่มีงานทำ ประมาณ 40-70 %
พล.อ.ประยุทธ์ทกล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันทุกคนต้องเคารพกฎหมายเพื่อยุติความรุนแรง อย่าโทษว่ากฎหมายอ่อนไปหรือแรงไป เช่นการยึดรถก็ตายเท่าเดิม จึงต้องปฏิรูปตนเอง ไม่มีกฎหมายอะไรที่จะแรงกว่านี้แล้วหรือจะเอาคนตายไปขังได้อย่างไร ทั้งนี้ยืนยันว่าคนที่ไม่มีความผิดมีสิทธิเสรีภาพ 100 % สามารถวิพากษ์วิจารณ์หรือทำอะไรก็ได้แต่ต้องไม่ขัดแย้งรัฐบาล แต่การสร้างความขัดแย้งผิดกฎหมายทำไม่ได้ ไม่มีประโยชน์เกิดการทะเลาะเบาะแว้งตลอดเวลา ประชาชนจึงต้องเริ่มจากการรู้หน้าที่ ตราบใดที่ยังเรียกร้องการชดเชยก็ไปไม่ได้ เช่น ที่มีเด็กเขียนการ์ดมา ตนก็รู้สึกเห็นใจ สงสาร และกดดัน เพราะเข้าใจว่าลำบาก พ่อแม่ไม่มีรายได้ อยากให้ลุงตู่ช่วยให้ราคายางดีขึ้น ลุงก็พยายามทำทุกอย่างแต่ใช้วิธีการแบบเดิมไม่ได้เพราะผลผลิตเกินความต้องการจึงต้องเร่งให้มีการใช้ยางในประเทศ 30 % ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว การคิดนอกกรอบไม่ผิด แต่ต้องไม่สร้างความขัดแย้ง อย่าคิดว่าจะได้อะไรจากประเทศ แต่ขอให้คิดว่าจะทำอะไรให้ประเทศได้บ้าง
ที่มา www.banmuang.co.th/news/politic/36571