ชาวบ้าน อ.ศรีสวัสดิ์ กว่า 300 คน ชุมนุมร้องอุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ ทับที่ทำมาหากิน
วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เรียบเรียงโดยทีมงาน www.legendnews.net
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 10 พ.ค.2559 ที่บริเวณสนามหน้าอำเภอศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นายมานิจพันธุ์พรหมา กำนัน ต.นาสวน นายสำราญ ผลจันทร์ กำนัน ต.ด่านแม่แฉลบ พร้อมด้วยผู้นำชุมชุนรวมทั้งชาวบ้านกว่า 300 คน ได้มารวมตัวกัน เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับปัญหาที่ดินทำกินที่อุทยานฯเขื่อนศรีนครินทร์ ประกาศพื้นที่ทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยนายเสรีคงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ มารับหนังสือด้วยตนเองทั้งนี้พตท.พรชัย เพชรเจริญ สวญ.สภ.ด่านแม่แฉลบ พร้อมด้วยร.ต.สาธิต ชมพู หน.ชป.พท.ร.29พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ นำกำลังมาคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย โดยชาวบ้านมีการนำป้ายผ้าเขียนข้อความต่างๆกว่า20แผ่นป้าย มาถือ
นายมานิจ พันธุ์พรหมา กำนัน ต.นาสวน เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ให้จังหวัดกาญจนบุรี พิจารณาแก้ไขปัญหาที่ดิน พื้นที่ก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ ท้องที่ ต.นาสวนและ ต.ด่านแม่แฉลบ เนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งต่อมาทางจังหวัดกาญจนบุรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ ได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่หวงห้าม ทางราชการทหาร พ.ศ.2481 ต่อมา ในปี พ.ศ.2524 กรมอุทยานฯ ได้ออกประกาศให้พื้นที่เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นอุทยานฯเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งตามข้อเท็จจริงมีการตราพระราชกฤษฎีกา เพิกถอนที่ดินราชพัสดุ เพื่อจัดสรรให้แก่ประชาชนผู้อพยพจากเขตน้ำท่วม จากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ พ.ศ.2529เนื้อที่ประมาณ 81,062 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นพื้นที่ที่ประชาชนอยู่อาศัยทำกินมาตั้งแต่ต้น
การที่กรมอุทยานฯ ประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โดยไม่ได้เพิกถอนที่ดินราชพัสดุดังกล่าวเสียก่อน จึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ และหน่วยงานต่างๆในจังหวัดกาญจนบุรี จะมากล่าวอ้างสิทธิเหนือที่ดิน ของประชาชนที่อาศัย และทำกินมานานจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
ดังนั้น ทางออกที่เหมาะสมที่ควรจะดำเนินการ คือ การรังวัดหรือกันพื้นที่เขื่อนศรีนครินทร์ เฉพาะบริเวณที่น้ำท่วมถึงสูงสุดเท่านั้น และดำเนินการสำรวจจัดเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายที่ดินให้แก่ชาวบ้าน ที่อพยพมาจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ และชาวบ้านที่อาศัยอยู่แต่เดิม ในพื้นที่นอกเขตน้ำท่วมถึง ของเขื่อนศรีนครินทร์เท่านั้น ถึงจะถูกต้อง
ส่วน นายสำราญ ผลจันทร์ กำนัน ต.ด่านแม่แฉลบ กล่าวว่าการใช้อำนาจของกรมอุทยานฯ ที่ผ่านมาโดยการจับกุมชาวบ้านที่ทำมาหากินและสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ในบริเวณที่ดินที่มีการจัดสรรให้แก่ประชาชนผู้อพยพจากเขตน้ำท่วม ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กับความเป็นจริงจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการฯได้ดำเนินการ เพื่อรักษาสิทธิของชาวบ้าน หรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ในการเร่งดำเนินการออกประกาศ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อออกเอกสารสิทธิให้แก่ประชาชน ในพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
นายเสรี คงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ กล่าวว่าหลังจากได้รับหนังสือ และรับฟังถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านทั้ง 2 ตำบลทราบว่าชาวบ้านต้องการให้อุทยานฯเพิกถอนพื้นที่ โดยตรวจสอบตามแผนที่เดิม แต่อุทยานฯมาใช้แผนที่ใหม่ทำให้คลาดเคลื่อนไป ในส่วนของตนก็จะรีบดำเนินการรายงาน ให้นายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ.กาญจนบุรีทราบ รวมทั้งส่งหนังสือในรายละเอียด เรื่องชาวบ้านเดือดร้อนอย่างไร ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ไขในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
ด้านนายฐิติ โสมภี หน.อุทยานฯเขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวว่าเรื่องนี้ที่ผ่านมา ชาวบ้านก็ได้ทำหนังสือถึงเรื่องพื้นที่อุทยานฯทับที่ทำกินมาแล้ว ก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้นทราบทันที ก็มีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ ดูปัญหารายละเอียดในเรื่องนี้ โดยขณะนี้ทราบว่า ทางกรมอุทยานฯเตรียมดำเนินการ เพิกถอนพื้นที่อุทยานฯ ในต.นาสวนและต.ด่านแม่แฉลบ จำนวน14,786ไร่ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ส่วนในเรื่องที่มีการจับกุมผู้บุกรุกแผ้วถางป่าอุทยานฯนั้น เจ้าหน้าที่จับกุมพวกที่เข้าไปบุกรุกแผ้วถาง ในพื้นที่ป่าใหม่ที่สมบูรณ์ โดยพื้นที่ใดที่มีการทำมาหากินมาแต่เดิม และเป็นผู้ที่การไฟฟ้าฯจัดสรรให้ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ดำเนินการจับกุมแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น.หลังจากนายอำเภอชี้แจงจนเข้าใจ กลุ่มชาวบ้านจึงสลายตัวแยกย้ายกันกลับบ้าน
ที่มา www.banmuang.co.th/news/region/48555