วิธี ตามโทรศัพท์หาย !
วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2559 เรียบเรียงโดยทีมงาน www.legendnews.net
หากคุณทำโทรศัพท์สุดที่รักของคุณหาย และคุณได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของบทความ ก่อนที่มันจะหาย! ป้องกัน smartphone/ tablet ของคุณ แล้วคุณอาจจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะได้คืนนะครับ แต่ถ้ามันหายไปแล้วเราก็มีวิธีมาแนะนำจ้า
จากข้อมูลของผู้ที่ทำโทรศัพท์มือถือ (Smartphone) หรือ แท็บเล็ต (ที่ใส่ซิมการ์ดได้) หายแล้วได้คืน ตามที่เราสำรวจมาจะมีวิธีการที่จะทำให้ได้คืนดังนี้
1. พบโทรศัพท์จากแอพพลิเคชั่นตามหาโทรศัพท์
วิธี นี้เป็นการใช้เทคโนโลยีช่วยตามหาตำแหน่งของโทรศัพท์ของเราเพื่อจะได้ตามไป เจอขโมย (แนะนำให้ชวนคุณตำรวจไปด้วยนะครับ) หรือ ถ้าไม่เจอเราก็สามารถลบข้อมูลภายในเครื่องก่อนที่จะไปอยู่ในมือผู้ไม่ประสงค์ดีได้ วิธีการที่แนะนำมีดังนี้
เมื่อแน่ใจว่าโทรศัพท์ที่หวงแหนได้ หายไปอย่างแน่นอน อย่าเพิ่งรีบโทรไปเพราะถ้าเป็นโจรเค้าไม่รับสายคุณแน่นอน และคงจะปิดเครื่องหลังจากนั้นlost-app
ตรวจสอบตำแหน่ง โทรศัพท์ของคุณผ่านเว็บไซต์ของแอพพิลเคชั่นที่คุณติดตั้งไว้ (เข้าสู่ระบบแล้วหาตำแหน่ง)
iPhone : Find my iPhone
Android Phone : Lookout
Windows Phone : Find my phone
BlackBerry : BlackBerry Protect
หาก พบตำแหน่งอยู่ใกล้กับที่คุณอยู่ (ในที่โล่งนะครับ เพราะถ้าอยู่ในอาคารโทรศัพท์จะไม่สามารถบอกตำแหน่งที่ชัดเจนได้เนื่องจาก ไม่มีสัญญาณ GPS) หมายความคุณอาจจะลืมมันไว้ที่ไหนสักแห่งโดยที่มันยังไม่ได้มีคนหยิบไป แต่ถ้าคุณแน่ใจว่ามีคนหยิบไปแล้วแน่นอน สิ่งที่พอจะทำได้คือเดินไปยังตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดที่แอพพิลเคชั่นบอก แต่ช้าก่อน! หากคุณเดินไปคนเดียวและยิ่งคุณเป็นผู้หญิงที่แสนบอบบาง โอกาสจะไปทวงคืนคงยากแถมอาจจะไม่ปลอดภัยอีกด้วย สิ่งที่ควรจะทำคือ แจ้งรปภ.ที่อยู่บริเวณนั้นให้เดินไปเป็นเพื่อน หรือ ชวนเพื่อนๆผู้ชายไปด้วยหลายๆคน เมื่อถึงตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด แล้วลองหาบุคคลน่าสงสัย แล้วสั่งแอพพลิเคชั่นให้ส่งเสียง หากคุณได้ยินเสียงหมายความว่าใกล้จะได้คืนละ เดินตามเสียงจนพบต้นเสียง เจรจาขอคืนด้วยความละมุนละม่อมนะจ๊ะ
หากพบตำแหน่งโทรศัพท์อยู่ที่ อื่นๆ (ไกลจากตำแหน่งของคุณ) ถ้าไม่ใช่ตำแน่งที่คุณคุ้นเคยก็หมายความว่าคุณโจรได้นำมันเดินทางไปที่อื่น แล้ว สิ่งที่พอจะทำได้คือเซพหน้าจอไว้ (ในกรณีที่แน่ใจว่าตำแหน่งของโทรศัพท์หยุดเคลื่อนไหวแล้ว) เพื่อนำไปเป็นหลักฐานประกอบการแจ้งความ จากนั้นเดินทางไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ที่คิดว่าทำโทรศัพท์หาย แล้วทำการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่แล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่าตอนนี้ เราสามารถทราบตำแหน่งปัจจุบันของโทรศัพท์ได้ รบกวนเจ้าหน้าที่พาไปยังตำแหน่งนั้นหน่อย หากอยู่คนละท้องที่คุณตำรวจอาจจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในท้องและเราไปได้ ลองอ้อนเค้าดูหน่อยละกันนะ ถ้าเค้าพาไปที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของตำรวจแล้วครับ
หากไม่พบตำแหน่งของโทรศัพท์ก็ลองโทรเข้าไปซึ่งคงไม่ติดแน่นอน คุณอาจจะทำการลบข้อมูลภายในเครื่องโดยใช้แอพพลิเคชั่นด้านบนหากคุณมีข้อมูลสำคัญๆในโทรศัพท์ จากนั้นลองวิธีที่ 2 จ้า
สำหรับคนที่ได้อัพเดทมาใช้ iOS7 แล้วนะครับ ตัวฟังก์ชั่น Find my iPhone ได้เพิ่มความฉลาดของมันเข้าไปอีก คราวนี้มั่นใจได้เต็มร้อยว่าเจ้าโจรจะไม่สามารถ Restore เครื่องของเราเพื่อเอาไปใช้หรือขายได้ ไอ้ประโยคที่ว่า
“ถ้าขโมย ไอโฟน ไอแพด หรือไอพอด ทัช รุ่นใหม่มาได้ให้รีบต่อ iTunes หรือเข้า DFU Mode และกด Restore ล้างเครื่องทันที เท่านี้เจ้าของเครื่องก็จะตามไม่ได้แล้ว”
จะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เพราะเจ้า iOS7 นั้นเพิ่มความปลอดภัยให้เจ้าของเครื่องโดยจะต้องมี Apple ID เท่านั้นถึงจะทำการ Restore เครื่องหรือ ปิด Find my iPhone ได้ วิธีการเปิดฟังก์ชั่นนี้ก็ง่ายดายครับ เริ่มจากเปิดใช้ iCloud โดยเข้าไปที่ Setting –> iCloud –> sign in ที่ Apple Account –> เปิด Find my iPhone
เพียงเท่านี้ ทุกครั้งที่ใครจะทำการ Restore เครื่อง ก็จะถูกถามรหัสของ Apple ID ตลอด ไม่มีข้อยกเว้น
ผู้ใช้ Android อย่าเพิ่งน้อยใจไป Google เองก็ปล่อย ADM (Android Device Manager) ออกมาเพื่อแก้ปัญหานี้เช่นกัน โดยเจ้า ADM นี้สามารถ หาตำแหน่ง, สั่งให้เครื่องส่งเสียงดัง(ping) (ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดเสียงไว้), หรือเลวร้ายที่สุดก็ให้ลบข้อมูลทั้งหมดเลยก็ทำได้ ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ผ่าน Web Browser เพียงคุณมีรหัสผ่านเท่านั้น
2. ได้รับแจ้งจากทางเครือข่ายว่ามีผู้นำไปใช้
วิธี นี้เจ้าของโทรศัพท์จำเป็นต้องทราบหมายเลขอีมี่ (IMEI) ของเครื่องที่หายเพื่อนำไปแจ้งความและส่งให้เครือข่ายผู้ให้บริการ โดยมีขั้นตอนดังนี้
นำหมายเลขอีมี่ (วิธีหาอีมี่: ก่อนที่มันจะหาย! ป้องกัน smartphone/ tablet ของคุณ) ไปแจ้งความกับสถานีตำรวจใน พื้นที่ที่คาดว่าทำหาย ไม่ใช่สถานีตำรวจใกล้บ้านนะครับ
นำเอกสารที่ได้จากทางตำรวจไปยื่นให้ แผนกกฎหมาย (ไม่ใช่ไปแจ้งที่สาขาย่อยนะจ๊ะ) ของทางผู้ให้บริการรายใหญ่ทั้ง 3 เจ้า ตามสถานที่ดังนี้
AIS ชั้น 26 เลขที่ 414 อาคารชินวัตร 1 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพ 10400
DTAC ชั้น 41 Zone C เลขที่ 319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
TRUE MOVE ชั้น 28 อาคาร True tower เลขที่ 18 ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขว้าง กทม. 10310
ขอ เบอร์ติดต่อเพื่อสอบถามความคืบหน้าจากผู้ให้บริการ เพราะทางผู้ให้บริการคงไม่สามารถแจ้งทุกคนได้ เราต้องหมั่นโทรไปถามเอง แต่อย่าถามบ่อยเกินไปนะครับ
หากผู้ให้บริการแจ้งว่ามีผู้ใช้ โทรศัพท์ซึ่งมีอีมี่ที่เราไปแจ้งไว้ หมายความว่าโทรศัพท์ของเราได้มีคนซื้อไปใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (โดยส่วนมากโจรคงไม่นำไปใช้เอง ผู้ที่ถือโทรศัพท์ของเราอยู่มักจะเป็นผู้เคราะห์ร้ายที่ซื้อโทรศัพท์ไปจาก โจร)
ติดต่อคุณตำรวจให้ช่วยไปตรวจสอบ และติดต่อเจ้าของเบอร์ที่นำโทรศัพท์ที่หายของเราไปใช้ (จริงๆแล้วทางเครือข่ายจะดำเนินการให้แต่อาจจะช้าหน่อย)
ที่เหลือ เราก็รอผลจากคุณตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งอาจจะสาวไปถึงร้านที่รับซื้อโทรศัพท์หรือโจรได้เลยครับ แต่ถ้ามาถึงขั้นนี้เราน่าจะได้ของเราคืนแน่ๆแล้วค่ะ
3. พบโทรศัพท์จากการแจ้งจากผู้รับซื้อโทรศัพท์ (ร้านรับซื้อโทรศัพท์ หรือ ผู้ซื้อโทรศัพท์มือสอง)
มี ผู้ที่ได้รับของคืนจากวิธีนี้อยู่บ้างเหมือนกัน วิธีนี้เราต้องกระจายข้อมูลรูปพรรณสันฐานของโทรศัพท์ของเราให้มีผู้รับ รู้มากที่สุดเพื่อผู้ที่พบเห็นจะได้ทำการแจ้งกลับมาที่คุณ หากทำตามวิธีที่ ๅ และ แล้วยังไม่ได้คืนลองทำตามแนวทางนี้ดูนะครับ
ไปตามร้านรับซื้อมือถือบริเวณที่คุณทำหาย
แจ้งกับทุกร้านเกี่ยวกับข้อมูลของโทรศัพท์คุณ เช่น Serial Number, IMEI Number, สี, รุ่น
แจ้ง เบอร์ติดต่อกลับหากเจอ อาจจะแจ้งว่ามีรางวัลให้หากส่งคืนด้วยก็ได้ (โดยทั่วไปแล้วร้านต่างๆ ไม่ได้อยากซื้อของโจรหรอก แต่มันถูกและกำไรเยอะเค้าจึงซื้อ แต่หากเค้ารู้ว่าใครเป็นเจ้าของเค้าอาจจะเลือกที่จะส่งคืนมากกว่าก็ได้, มีกรณีได้คืนจากวิธีนี้โดยร้านแจ้งกลับมายังเจ้าของเครื่องเนื่องจากจำหน้า เจ้าของได้จากรูปหน้าจอของโทรศัพท์)
แจ้งข้อมูลไว้ที่เว็บไซต์ของ เรา (www.jabjone.com) ทางเว็บของเราจะเก็บข้อมูลของคุณไว้และกระจายสู่สาธาณะ โดยใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (เพื่อความน่าเชื่อถือกรุณาอัพโหลดใบแจ้งความด้วย) ขณะนี้เราพยายามสร้างตัวเองให้เป็นฐานข้อมูลของของหาย ซึ่งในอนาคตเราจะรณรงค์ให้ผู้รับซื้อโทรศัพท์มือสอง และร้านโทรศัพท์ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บของเราก่อนซื้อ ซึ่งจะสร้างโอกาสการได้คืนเพิ่มมากขึ้นและรวดเร็วขึ้น หากทุกคนในสังคมร่วมมือกัน
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ รู้วิธีว่าจะทำอย่างไรให้ได้โทรศัพท์ของคุณคืนได้ดีขึ้นนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูล จากเว็บ จับโจร www.jabjone.com/smartphone-tablet-%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5/