ผยภาพสเก็ตช์คดีจับภารโรงติดคุกฟรี 21 ปี หน้าไม่ตรง หลายฝ่ายที่โรงเรียนยัน เจ้าตัวไม่ได้ปล้น ด้านญาติสงสัยตำรวจเอารูปผู้บริสุทธิ์ไปให้เด็กชี้ตัวได้อย่างไร

          จากกรณีที่สังคมกำลังเห็นใจและขอความยุติธรรมให้กับ นายกมล แพเขียว วัย 48 ปี ซึ่งมีอาชีพภารโรง แต่เจ้าตัวถูกต้องโทษจำคุก 21 ปี ในคดีปล้น ทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งหลังจากติดคุกไปได้ 4 ปีอย่างทุกข์ทรมาน หนุ่มรายนี้ได้เจอกับกลุ่มผู้ก่อเหตุตัวจริงในเรือนจำโดยบังเอิญ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเห็นใจและเขียนจดหมายสารภาพ จนนำไปสู่การรื้อฟื้นคดีใหม่ในท้ายที่สุดนั้น (อ่านข่าว : ภารโรงติดคุก 21 ปี ทั้งที่บริสุทธิ์ ผู้ก่อเหตุตัวจริงสงสาร เขียน จม. ขอรับผิด)

          อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ประชาชนสนใจคือ สาเหตุที่ทำให้ นายกมล ต้องถูกจับกุมทั้งที่ไม่ได้ทำความผิด ซึ่งเรื่องนี้ทางรายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่เจาะลึกว่า เหตุเกิดจากวันที่ 23 มีนาคม 2549 ซึ่งมีคนร้าย 5 คน ก่อเหตุปล้นบ้านชาวต่างชาติพร้อมกับขโมยรถ ที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ต่อมาวันที่ 18 เมษายน 2549 ตำรวจได้เดินทางมาที่ จ.ชัยนาท และมาถึงโรงเรียนหันคาพิทยาคม ที่นายกมล ทำงานอยู่ และจับกุมโดยทันที 

 สอบถามนายฉลวย หัวหน้านักการภารโรง ยืนยันว่า วันที่ 23 มีนาคม 2549 นายกมล ไม่ได้ก่อเหตุแน่ เพราะยังทำงานอยู่กับตน ซึ่งสามารถดูหลักฐานได้จากการลงชื่อทำงาน จึงตกใจมากที่มีการมาเข้าจับกุม เช่นเดียวกับคุณครูรายหนึ่ง ที่เผยว่า วันดังกล่าวพยายามยืนยันกับตำรวจว่า นายกมล ไม่ใช่คนร้าย เพราะเจ้าตัวยังทำความสะอาดโรงเรียนเพื่อเตรียมพร้อมในการจัดการเลือกตั้งอยู่เลย

หลังจากการยืนยันของพยานใกล้ชิดไม่เป็นผล นายกมล ก็พยายามต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ โดยศาลชั้นต้นได้ยกฟ้อง ส่วนอุทธรณ์ตัดสินให้จำคุก 21 ปี ซึ่งตอนนั้นครอบครัวไม่มีเงินประกันตัว 450,000 บาท ทำให้ นายกมล ถูกจำคุกทันที แต่ระหว่างที่ติดคุก นายกมล ได้เจอกับนายสาคร ขาวพันธุ์ ผู้ก่อเหตุตัวจริง จึงได้นำมาบอกครอบครัว แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ได้ และสุดท้ายศาลฎีกาจะยืนยันจำคุก 21 ปี ซึ่งจากวันนั้น นายกมล ต้องติดคุกมาเกือบ 4 ปีด้วยกัน

          ด้าน นายสาคร ผู้ก่อเหตุตัวจริง เผยว่า ตลอดเวลาตนเห็นนายกมลมีอาการซึมเศร้า เสียใจ และร้องไห้ทั้งวัน จึงเกิดความสงสัยและเข้าไปถาม ก็พบว่าเจ้าตัวต้องมาติดคุกเพราะคดีของตน ทำให้ต่อมาตนและผู้ร่วมก่อเหตุตัดสินใจเขียนจดหมายสารภาพกับดีเอสไอ และกระทรวงยุติธรรม จนได้รับการรื้อฟื้นคดีดังกล่าว

 ขณะเดียวกันยังมีจุดที่น่าสงสัย เมื่อมีการเปิดเผยภาพสเก็ตช์ของผู้ก่อคดีดังกล่าวที่ได้รับข้อมูลจากบ้านผู้เสียหาย ปรากฏว่า ภาพดังกล่าวไม่มีความใกล้เคียงกับนายกมล แม้แต่น้อย แต่ภาพนั้นกลับมีลักษณะเหมือนกับนายสาคร ผู้ก่อเหตุตัวจริงเป็นอย่างมาก 

          ประเด็นสำคัญคือ ระหว่างที่หาตัวคนร้ายนั้น ตำรวจได้ให้เด็ก 3 คน ในบ้านผู้เสียหาย ชี้ภาพผู้กระทำผิด ซึ่งเด็กได้ไปชี้รูปของนายกมล แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ใจว่า ทำไมตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ จึงมีรูปนายกมลไปให้เด็กชี้ตัวได้ โดยทางญาติยืนยันในเรื่องนี้ว่า พวกตนไม่เคยมีคดีมาก่อน ซ้ำพวกตนยังอยู่ที่ จ.ชัยนาท ไม่ใช่ จ.สุพรรณบุรี จึงสงสัยว่า เหตุใดนายกมลจึงต้องถูกลงโทษทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์