เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่บริเวณหน้าประตูเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.อ.ดุษฏี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางแดง สินทองน้อย มารดานายวรวิทย์ สินทองน้อย อายุ 30 ปี ชาวบ้านเมืองใหม่ หมู่ 17 ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี นักโทษคดีมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมญาติพี่น้องและชาวบ้านกว่า 50 คน
เดินทางมารอรับนายวรวิทย์ หลังศาลจังหวัดเดชอุดม มีคำพิพากษายกฟ้องเนื่องจากศาลไม่เชื่อพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ตามคดีหมายเลขดำที่ 1941/2559 ลงวันที่ 24 ส.ค.2559 แต่เชื่อในหลักฐานของฝ่ายจำเลยที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอไอ ผู้บัญชาการเรือนจำกลาง รวมทั้งหลักฐานแวดล้อมด้านวิทยาศาสตร์ที่มาสนับสนุน ศาลจึงเชื่อว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้องจริง จึงยกฟ้องจำเลยและให้ปล่อยตัวในวันนี้
โดยทันทีที่นายวรวิทย์ เดินพ้นประตูเรือนจำได้ก้มลงกราบเท้ามารดา ขณะที่ผู้เป็นแม่และญาติพี่น้องใช้นำมนต์ที่ไปเอามาจาก 9 วัด ราดรดตัวเพื่อล้างความโชคร้ายที่ต้องถูกจองจำอยู่ในคุกนานถึง 7 ปี ทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิด
โดยนางแดง กล่าวว่า ไม่ต้องให้มีเวรกรรมต่อกัน ขออโหสิกรรมให้กับผู้ที่ทำให้ลูกตนต้องติดคุกถึงสองครั้งสองคราว ต่อไปจะให้ลูกไปพบพระ เพื่อนัดบวชอุทิศสวนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สืบเนื่องจากปี 2553 นายวรวิทย์ถูกตำรวจจับกุมข้อหาร่วมกันใช้อาวุธปืนฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 6 ต.ค. 2553 และถูกจับดำเนินคดีพร้อมกลุ่มวัยรุ่นรวม 6 คน ต่อมาศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต และมีการต่อสู้คดีก่อนศาลฏีกาตัดสินให้ยกฟ้อง เพราะมีเหตุผลขัดแย้งด้านวิถีกระสุนและระยะทางการยิง แต่นายวรวิทย์ไม่ได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากถูกพนักงานสอบสวนขออายัดตัวคดีร่วมกันยาบ้าไว้ในครอบครอง
ทำให้ครอบครัวขอความช่วยเหลือจากนายประสิทธิ์ศักดิ์ ฝอยทอง ทนายความให้ช่วยแก้ต่างให้ และนายประสิทธิ์ศักดิ์ ได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ได้ตามพิสูจน์ในคดีฆ่าผู้อื่นจนศาลฏีกาพิพากษายกฟ้อง จนมีการสืบเสาะจนได้ความว่าเรือนจำกลางอุบลราชธานี เป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มีอุปกรณ์ใช้ตัดสัญญาณการใช้โทรศัพท์ ระหว่างถูกควบคุมนายวรวิทย์ไม่มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับคดียาเสพติดมาก่อน
จึงได้นำพยานบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่เรือนจำ รวมทั้งหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์เสนอให้ศาลพิจารณา จนศาลมีคำสั่งยกฟ้องและให้ปล่อยตัวนายวรวิทย์พ้นจากการควบคุมวันนี้ หลังต้องเป็นแพะถึง 2 ครั้ง ติดอยู่ในคุกนานถึง 7 ปี
