ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ บ่อยครั้งที่ตรวจพบได้โดยบังเอิญจากการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงหรือการทำเอกซเรย์ แต่ในผู้ป่วยบางส่วนก็อาจมีอาการได้เช่นกัน เช่น อาการปวดบริเวณหลอดเลือดที่มีการโป่งพอง เจ็บหน้าอก หรือปวดหลัง โดยอาการปวดอาจเป็นๆ หายๆ หรือ เป็นตลอดเวลาก็ได้ หรือในบางกรณีที่มีหลอดเลือดปริแตก ผู้ป่วยก็จะมาด้วยอาการปวดร่วมกับอาการเสียเลือดจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะทำให้เสียชีวิตได้ในไม่กี่นาทีหรือชั่วโมง
นอกจากนี้การโป่งพองของหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้าอาจทำให้มีก้อนเลือดมาจับตัวที่ผนังของหลอดเลือดเนื่องจากมีการอักเสบหรือมีการไหลวนของเลือดในบริเวณที่มีการโป่งพอง ถ้าก้อนเลือดที่ผนังหลอดเลือดมีการหลุดไป ก็อาจไปอุดกั้นแขนงของหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้าได้ หรือการโป่งพองก็อาจจะทำให้มีการกดเบียดอวัยวะข้างเคียง
สำหรับการรักษาขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในการแตกของหลอดเลือด ยิ่งมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงในการแตกสูงกว่า ดังนั้นจึงแนะนำให้ผ่าตัด ถ้ายังมีขนาดไม่ใหญ่ถึงขั้นที่จะต้องผ่าตัดก็แนะนำให้ตรวจติดตามต่อร่วมกับให้ยาลดความดันโลหิตเพื่อลดแรงดันเลือดที่กระทำต่อผนังหลอดเลือด
นอกจากนี้ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในก
ปัจจุบันการผ่าตัดโรคหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้าโป่งพองมีสองรูปแบบ คือการผ่าตัดเปิด และการผ่าตัดใส่หลอดเลือดเทียมชนิดมีขดลวดถ่างขยายผ่านสายสวน ซึ่งเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในการรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้าโป่งพอง เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็กกว่า และอัตราการเสียชีวิตในโรงพยาบาลต่ำกว่า
โดยที่ให้ผลในการรักษาระยะยาวเทียบเท่ากับการผ่าตัดเปิด
ารมีโรคหลอดเลือดหัวใจก็แนะนำให้ ออกกำลังกาย หยุดสูบบุหรี่และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และในกรณีที่ตรวจพบระดับไขมันในเลือดสูงก็อาจต้องให้ยาลดไขมันด้วย