ออกหมายจับ 7 ทหาร เอี่ยวลอบค้าอาวุธสงครามทางไปรษณีย์
จากกรณีการจับกุมอาวุธสงคราม ที่ถูกนำส่งผ่านไปทางพัสดุไปรษณีย์ ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม (บก.ป.) ได้รับคดีไปดำเนินการสอบสวน และทราบว่าฝ่ายทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา เป็นทหาร 3 นาย และพลเรือนอีก 15 ราย โดยผู้ต้องหารับสารภาพด้วยว่า อาวุธสงครามทั้งหมดถูกขโมยมาจากคลังอาวุธของกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ (ช.พัน 1 รอ.) แล้วนำส่งขายไปทั่วประเทศ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 16. 00 น. ศาลทหารกรุงเทพอนุมัติหมายจับ 7 ผู้ต้องหา ในข้อหาจำหน่ายวัตถุระเบิด และจัดซื้อวัตถุระเบิด มีอาวุธปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้โดยผิดกฎหมาย ตามที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้อง ทั้งนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจได้ควบคุมตัวส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ เจ้าหน้าที่คลังอาวุธ สังกัดกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ ( ช.พัน 1 รอ.) โดยผู้ต้องหารับสารภาพถึงที่มาของอาวุธสงครามทั้งหมดว่าได้ลักลอบนำออกมาจากหน่วยเพื่อจำหน่าย โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) พบข้อมูลเชื่อมโยงทั้งหมดและนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาซักถามข้อมูลเบื้องต้นที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11 ) รวม 20 ราย ประกอบด้วย ส่วนที่รับคำสั่งซื้อและหาสิ่งของเพื่อทำการจัดส่ง เป็นทหาร 3 นาย และส่วนผู้ซื้ออาวุธสงครามจำนวน 17 ราย มีทั้งทหารและพลเรือน แต่เมื่อสอบสวนแล้วพบว่ามีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง 6 รายจึงได้ปล่อยตัวกลับไป และส่งที่เหลือส่งให้พนักงานสอบสวนทั้งหมด 14 ราย โดยมีทหาร 7 ราย ประกอบด้วยผู้ขาย3ราย และผู้ซื้อ 4 ราย
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย เพื่อดำเนินการลงโทษตามระเบียบ พร้อมทั้งพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับหน่วยว่ามีความบกพร่องหรือไม่ ที่ปล่อยให้มีการนำอาวุธภายในคลังออกมาจำหน่ายเป็นขบวนการ.
จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ทหารกลุ่มนี้มีการจำหน่ายอาวุธสงครามผ่านเว็บไซต์และใช้บริการของบริษัทเอกชนเพื่อส่งของมาเกือบ 1 ปีโดยขายมาแล้ว 22 ครั้ง จำนวนอาวุธกระสุนที่ส่งมากที่สุดคือจำนวน 100 นัด ที่เหลือเป็นรายย่อย มีทั้งกลุ่มที่ชอบสะสมอาวุธ กลุ่มทหารที่มีการสั่งซื้อไปเพื่อไปทดแทนอัตราอาวุธที่หายไปจากหน่วยที่ตนเองสังกัดในช่วงวงรอบการตรวจประจำปี และบางส่วนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำไปใช้ก่อเหตุในหลายพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ