“ศรีวราห์”สั่งกองปราบฯ สืบคดีใหม่หลังสาวหนองคายโร่ร้องชื่อเหมือน 5 คนจู่ๆ ถูกตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายใน กทม.ยันไม่เคยรู้จักผู้ตายและช่วงเกิดเหตุอยู่กับสามี
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธาน เครือข่ายต่อต้านการ บ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พานางบังอร คำพวง หรือ อร อายุ51 ปี พร้อมสามี ชาวบ้าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ออกหมายจับในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 มาร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
นางบังอร กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ใช่ผู้กระทำความผิด โดยวันที่เกิดเหตุนั้นอยู่กับสามีที่บ้าน ใน อ.บางบ่อ จ.หนองคาย และก่อนหน้านี้ตนไม่ได้ใช้นามสกุล “คำพวง” แต่ใช้นามสกุลอื่น แต่เพิ่งมาเปลี่ยนมาใช้นามสกุล “คำพวง” ตอนจดทะเบียนสมรสกับสามี เมื่อปี 2537 และยังมีชื่อเล่นว่า “อร” ไม่ได้ชื่อ “อ้อย” ตามที่ปรากฏในสำนวนคดี รวมทั้งยืนยันว่ามีสามีแค่คนเดียว และหลังจากที่ตำรวจนำตัวตนมาดำเนินคดี ก็ไม่ได้มีการชี้ตัวผู้ต้องหา และสอบปากคำตนเอง และสามี โดยตนได้ปฏิเสธกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ร้องเรียนเรื่องนี้กับอัยการ โดยวันนี้(4 ก.ค.)ได้นำตัวสามี มายืนยันว่า วันเกิดเหตุได้อยู่กับสามีจริงๆ นอกจากนี้ยังพบว่าคนที่ชื่อ บังอร คำพวง ในทะเบียนราษฎร์ มีอยู่ทั้งหมด 5 คน ซึ่งมี 3 คน อยู่ในตำบลเดียวกัน อีก 2 คน อยู่ในจังหวัดอื่น และใน ต.บางบ่อ มีคนที่ชื่อบังอร ชื่อเล่นว่าอ้อย อยู่ในตำบลเดียวกันด้วย ตนจึงสงสียว่า ทำไมจึงมาดำเนินคดีกับตน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่อง ได้นำเรียนไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ดูแลงานด้านป้องกันปราบปราม โดย ผบ.ตร. มอบให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และได้สั่งตำรวจกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ทำการสืบสวนสวบสวน หาพยานหลักฐานใหม่ทั้งหมด เพื่อยื่นให้อัยการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่การรื้อคดีใหม่ แต่เป็นการทำสำนวนขึ้นมาใหม่ชุด เพื่อส่งให้อัยการพิจารณา โดยจะต้องมีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของนางบังอร เทียบเคียงกับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำใหม่ทั้งหมด
“ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ส่งสำนวนคดีไปให้อัยการแล้ว ทางตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ แต่หากผลการตรวจพิสูจน์พบว่านางบังอร ไม่ใช่ผู้กระทำความผิดจริง และหากจะมีการเอาผิดตำรวจในท้องที่ ที่ทำคดีนี้ จะต้องส่งเรื่องนี้ไปให้กองกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว