พังแหร สรรพคุณและประโยชน์ของต้นพังแหรใหญ่ 19 ข้อ
ลักษณะของพังแหร
- ต้นพังแหร จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีความสูงได้ประมาณ 4-12 เมตร เป็นไม้เนื้ออ่อนโตเร็ว เรือนยอดโปร่งเป็นพุ่มแผ่กว้าง กิ่งก้านออกในแนวขนานกับพื้นดิน ปลายกิ่งลู่ลง ตามกิ่งอ่อนมีขนขึ้นปกคลุม เปลือกต้นเป็นสีเขียวอมเทาอ่อนหรือน้ำตาล ผิวบางเรียบเกลี้ยงหรือมีรอยแตกตามยาวบาง ๆ และมีรูอากาศมาก ส่วนเปลือกชั้นในเป็นสีเขียวสด มีเขตการกระจายพันธุ์ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน ญี่ปุ่น โมลัคคาล์ นิวกินี และประเทศเขตร้อนในทวีปแอฟริกา ส่วนในประเทศไทยมักพบขึ้นตามที่โล่งแจ้ง ป่าเบญจพรรณ และตามชายป่าดงดิบ ที่ระดับความสูง 600-1,500 เมตร[1],[2]
- ใบพังแหร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่แกมรูปใบหอก รูปขอบขนาน หรือรูปไข่แกมรูปหัวใจ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบเบี้ยวไม่สมมาตรกัน ส่วนขอบใบจักแบบเป็นฟันเลื่อยละเอียด ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-12 เซนติเมตร ยอดอ่อนมีขนสีเงินขึ้นหนาแน่น ผิวใบสากคาย ส่วนใบแก่ด้านบนมีขนหยาบขึ้นประปราย ส่วนด้านล่างเป็นสีเขียวอมเทาเป็นหย่อมแน่น ๆ ปะปนกับขนสีเงินที่ยาวกว่า เส้นใบออกจากฐานใบ 3-5 เส้น ทอด 1/2-3/4 ตามยาวของใบ เส้นใบข้างโค้งมาก มี 4-8 คู่ ก้านใบยาวประมาณ 0.4-1.7 เซนติเมตร มีร่องและมีขนขึ้นหนาแน่น มักมีประสีชมพูหรือม่วง มีหูใบเป็นรูปหอก ขนาดประมาณ 2.6 มิลลิเมตร ไม่เชื่อมกัน[1]
- ดอกพังแหร ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ เป็นกระจุกตามซอกใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็กสีขาวอมเขียว โดยจะมีขนาดประมาณ 0.3 เซนติเมตร ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะอยู่บนต้นเดียวกัน แต่แยกช่อ โดยดอกเพศผู้จะมีจำนวนดอกมากกว่า 20 ดอก ส่วนช่อดอกเพศเมียจะมีดอกประมาณ 15-20 ดอก ดอกย่อยมีกลีบรวม 5 กลีบ มีขน ดอกเพศผู้ช่อแน่นและแตกแขนงยาวได้ถึง 2.5 เซนติเมตร ดอกมักเป็นคู่ มีก้านของช่อข้างล่างโค้งลง ชั้นกลีบเลี้ยงแยกเป็น 4-5 พู ไม่ซ้อนกัน ขนาดประมาณ 1.5 มิลลิเมตร ดอกมีเกสรเพศผู้อยู่ตรงข้ามกับพูกลีบเลี้ยง 4-5 อัน ส่วนดอกเพศเมียก็คล้ายกัน แต่ช่อจะโปร่งกว่า มีเกสรเพศเมียแยก 2 กิ่ง รังไข่ไม่มีก้านชู[1]
- ผลพังแหร ผลเป็นผลสด มีลักษณะกลมแข็ง มีขนาดกว้างประมาณ 2-4 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ผลเป็นสีเขียวเข้ม เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำหรือสีม่วงดำ มีชั้นกลีบเลี้ยงติดที่ฐาน และปลายเกสรเพศเมียติดอยู่ที่ยอดผล เนื้อภายในบาง ชั้นหุ้มเมล็ดแข็ง มีเมล็ดเพียง 1 เมล็ด ส่วนก้านผลมีความยาวประมาณ 0.3 เซนติเมตร จะออกดอกและติดผลในช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนสิงหาคม[1],[2]
สรรพคุณของพังแหร
- แก่นหรือรากใช้ฝนกับน้ำกินเป็นยาเย็น แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ (แก่น, ราก)[1]
- เปลือกต้นและใบใช้เป็นยาแก้ไข้มาลาเรีย บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูก (เปลือกต้นและใบ)[1]
- ลำต้นและกิ่งใช้เป็นยาชงแก้ไข้ ใช้กลั้วปากแก้อาการปวดฟัน (ลำต้นและกิ่ง)[1]
- ตำรายาไทยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จะใช้เปลือกต้นนำมาเคี้ยวอมไว้ประมาณ 30 นาที เป็นยาแก้ปากเปื่อย (เปลือกต้น)[1]
- ผลและดอกใช้ทำเป็นยาชงสำหรับเด็ก เพื่อรักษาหลอดลมอักเสบ ปวดบวม เยื่อหุ้มปอดอักเสบ (ผลและดอก)[1]
- เปลือกต้นใช้เป็นยาแก้บิด ถ่ายพยาธิ (เปลือกต้น)[1]
- น้ำต้มจากใบใช้เป็นยาขับพยาธิตัวกลม (ใบ)[1]
- ที่ประเทศแอฟริกาจะใช้รากพังแหรเป็นยาแก้ปัสสาวะเป็นเลือด แก้เลือดออกที่กระเพาะอาหารและลำไส้ และใช้เป็นยาห้ามเลือด (ราก)[1]
|
แพทย์ทางเลือก ฝังเข็ม นวดกดจุด สมุนไพร อาหารเพื่อสุขภาพ
|