ใบบัวบก มีสารประกอบสำคัญหลายชนิด อย่างเช่น บราโมซัยด์ บรามิโนซัยด์ ไตรเตอพีนอยด์ มาดิแคสโซซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ และยังมีกรดมาดิแคสซิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม และกรดอะมิโน อย่างเช่น แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสทีดิน เป็นต้น
ใบบัวบกเหมาะสำหรับคนที่ขี้ร้อน มีภาวะแกร่ง หรือมีความร้อนชื้น เพราะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น
ประโยชน์ของใบบัวบก
1. บัวบกเป็นพืชที่มีแคลเซียมในระดับปานกลางถึงสูง แต่มีระดับสารออกซาเลตที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในปริมาณต่ำ
2. ใบบัวบกช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ย้อนอายุและวัย
3. ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
4. ช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
5. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆในร่างกาย
6. ประโยชน์ของใบบัวบก ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา เพราะบัวบกมีวิตามินเอสูง
7. ช่วยรักษาอาการตาอักเสบบวมแดง ด้วยการใช้ใบบัวบกล้างน้ำสะอาด คั้นเอาแต่น้ำนำมาหยดที่ตา 3-4 ครั้งต่อวัน
8. ช่วยบำรุงประสาทและสมองเหมือนใบแปะก๊วย
9. ช่วยทำให้ความจำดีขึ้นและทำให้มีปฏิภาณไหวพริบเพิ่มมากขึ้น
10. ช่วยเพิ่มความจำในผู้สูงอายุ
11. เชื่อว่าใบบัวบกมีส่วนช่วยเพิ่มไอคิว ความฉลาด และความสามารถในการเรียนรู้
12. ใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยชะลออาการของโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ สตรีวัยทอง โรคอัลไซเมอร์หรืออาการหลงลืมระยะสั้นได้
13. ช่วยเพิ่มสมาธิ แก้สมาธิสั้น
14. ช่วยเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจเฉพาะหน้า
15. ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ปวดศีรษะข้างเดียว
16. ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ
17. ช่วยผ่อนคลายความเครียด
18. ช่วยเสริมการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ จึงช่วยผ่อนคลายและทำให้หลับง่ายขึ้น
19. ช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
20. ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
21. ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย
22. ช่วยบำรุงโลหิตในร่างกาย
23. ช่วยบำรุงหัวใจ
24. ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
25. ช่วยทำให้จิตใจสดชื่น อารมณ์แจ่มใส
26. ช่วยทำให้หน้าตาสดใสเหมือนเป็นวัยรุ่น
27. ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
28. ช่วยบำรุงเสียง
29. ช่วยรักษาอาการเจ็บคอ ด้วยการใช้บัวบกสดประมาณ 1 กำมือ นำมาตำคั้นเอาน้ำแล้วเติมน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง แล้วจิบกินบ่อย ๆ
30. ช่วยแก้กระหายน้ำ
31. ใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน
32. ใบบัวบกมีสารยับยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง
33. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดี
34. ช่วยรักษาโรคดีซ่านจากภาวะร้อนชื้น ด้วยการใช้บัวบก 30 กรัม น้ำตาลทรายกรวด 30 กรัม ต้มน้ำดื่ม
35. ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
36. ช่วยรักษาอาหารหืด
37. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ด้วยการใช้ต้นสด 1 กำมือต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม หรือจะใช้บัวบกสด ๆ ทั้งต้นประมาณ 30 กรัมนำมาค้นเอาน้ำ เติมน้ำตาลเล็กน้อยแล้วดื่มกินประมาณ 5-7 วัน
38. ช่วยรักษาโรคลมชัก
39. ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
40. ช่วยรักษาอาการเต้านมอักเสบเป็นหนองในระยะแรก ด้วยการใช้บัวบกและเปลือกของลูกหมาก 1 ผล นำมาต้มกับเหล้าดื่ม
41. ช่วยแก้คนเป็นบ้า
42. ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือด
43. ช่วยลดความดันเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้หลอดเลือด และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
44. ช่วยรักษาโรคที่มีสมุฏฐานจากเสมหะ
45. ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า
46. ช่วยแก้ไข้
47. ช่วยห้ามเลือดกำเดา เพราะทำให้เลือดเดิน แต่เลือดจะไม่ออกจากเส้นเลือดและยังทำให้เลือดเย็นอีกด้วย
48. ช่วยแก้อาการช้ำใน บาดเจ็บจากการกระทบกระแทก
49. เป็นพืชที่ย่อยได้ง่าย
50. ช่วยทำให้เจริญอาหาร รับประทานอาหารได้มากขึ้น
51. ช่วยแก้อาการท้องเสีย
52. สารสกัดจากใบบัวบกมีฤทธิ์ป้องกันและยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
53. ช่วยแก้อาการเริ่มที่จะเป็นบิด
54. ช่วยรักษาโรคบิดหรือมีมูกเลือดปนเมื่อขับถ่าย
55. ช่วยรักษากระเพาะอาหารเป็นแผล
56. ใช้เป็นยาระบาย ช่วยระบายท้อง แก้ลม
57. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
58. แก้อาการปัสสาวะติดขัด ด้วยการใช้ใบบัวบกประมาณ 50 กรัม นำมาตำแล้วพอกบริเวณสะดือ เมื่อถ่ายปัสสาวะคล่องดีแล้วค่อยเอาออก
59. ช่วยขับความร้อนชื้นทางเดินปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว
60. ช่วยรักษาโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะด้วยการใช้บัวบก 50 กรัมต้มกับน้ำซาวข้าวครั้งที่ 2 แล้วนำมาดื่ม
61. ช่วยรักษาอาการมีหนองออกจากปัสสาวะ
62. ช่วยแก้อาการน้ำดีในร่างกายมากเกินไป
63. ช่วยรักษาโรคม้ามโต
64. ช่วยรักษาอาการติดเชื้อของไวรัสตับอักเสบ
65. แก้อาการปวดข้อรูมาตอยด์
66. ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 20 ใบนำมาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด
67. ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วยิ่งขึ้น ช่วยเร่งการสร้างเนื้อเยื่อ
68. ช่วยแก้อาการฟกช้ำ ด้วยการใช้ใบบัวบกมาทุบให้แหลกแล้วนำมาโปะบริเวณที่ฟกช้ำ หรือจะใช้ใบบัวบกประมาณ 40 กรัม ต้มกับเหล้าแดงประมาณ 250 cc. ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วนำมาดื่ม
69. ใช้บัวบกตำนำมาพอกรักษาความร้อนบวมของโรคไฟลามทุ่ง หรือใช้รักษาอาการด้วยการใช้น้ำคั้นบัวบกนำมาผสมกับแป้งข้าวเหนียวทำเป็นแป้งเหลว พอกบริเวณที่เป็น
70. ช่วยรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
71. ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน หิด หัด เป็นต้น
72. ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดหนอง
73. ช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้เป็นอย่างดีและใช้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัดได้อีกด้วย
74. ช่วยรักษาผิวหนังเป็นด่างขาว
75. ใช้เป็นยาถอนพิษ ช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ทั้งต้นสดของบัวบกประมาณ 3 ต้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลกแล้วนำมาพอกแผลไฟไหม้
76. บัวบกมีการนำมาผลิตเป็นแคปซูลวางจำหน่าย มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสมองเป็นหลัก (Brain tonic)
77. ปัจจุบันมีการนำไปทำเป็นยาเป็นแผนปัจจุบันในรูปแบบผงใช้โรยแผล และในรูปแบบเม็ดรับประทานเพื่อรักษาแผลผ่าตัด แผลสด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือฝีหนองได้ และยังช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นอีกด้วย
78. ช่วยแก้อาการก้างปลาติดคอ ด้วยการนำบัวบกไปต้มน้ำ แล้วค่อย ๆ กลืนน้ำลงคอ
79. ใบและเถาบัวบกใช้รับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ เป็นต้น
80. น้ำคั้นจากใบบัวบกนำมาทำเป็นน้ำมันบัวบกใช้ชโลมศีรษะ มีสรรพคุณช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ แก้ปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย
81. น้ำใบบัวบกเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับหน้าร้อนเป็นอย่างมาก เพราะมีฤทธิ์เป็นยาเย็นดับร้อนในร่างกายได้สารพัด
82. สารสกัดจากใบบัวบก มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองผิวและปลอดภัยต่อร่างกาย
83. สารสกัดจากใบบัวบกมีการนำมาใช้เพื่อเป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง
84. มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาใช้ทำเป็นวัสดุปิดแผล
85. ลบรอยตีนกาตื้น ๆ ด้วยน้ำใบบัวบก ด้วยการนำบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นจนละเอียด แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้สำลีชุบน้ำทาทั่วบริเวณหางตาหรือทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก โดยควรทาทุกวันก่อนนอน
86. มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้ผลิตอ้างว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส ผิวหน้าเต่งตึงได้
วิธีทำน้ำบัวบก
1. วิธีทำน้ำบัวบก ควรเลือกใช้ใบบัวบกที่แก่กว่า กินเป็นผักสด โดยใช้ทั้งรากนำมาล้างน้ำทำความสะอาด
2. ใบบัวบกจะเหนียวให้ตัดเป็น 2-3 ท่อน ก่อนนำมาบด
3. คั้นน้ำแรกโดยผสมน้ำกับใบบัวบกที่บด แล้วนำกากที่เหลือมาคั้นน้ำที่สองเพื่อให้ได้ตัวยาสมุนไพรที่ยังเหลืออยู่ (ควรใช้น้ำสะอาด และห้ามใช้น้ำร้อนหรือนำน้ำที่คั้นได้ไปต้ม)
4. กรองน้ำบัวบกด้วยผ้าขาวบางห่าง ๆ (แบบผ้ามุ้ง ถี่มากจะกรองไม่ได้)
5. หลังกรองจะมีกากให้ทิ้งไป ให้รินเฉพาะน้ำส่วนใส ๆ มาดื่ม
6. น้ำบัวบกต้องคั้นใหม่ ๆ จากใบสด ๆ และไม่ควรเก็บน้ำที่คั้นได้ไว้นานหรือควรแช่เย็นเก็บไว้
7. น้ำเชื่อมถ้าทำมาจากน้ำต้มใบเตย จะทำให้น้ำบัวบกอร่อยมากขึ้น
สรรพคุณของน้ำใบบัวบกช่วยแก้ร้อนใน ช้ำใน
ไข่เจียวบัวบก
1. วัตถุดิบที่ต้องเตรียมได้แก่ บัวบกสด 20 กรัม / ไข่ 2 ฟอง / น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำปลาเล็กน้อย / น้ำมันพืชสำหรับใช้ทอด
2. นำบัวบกมาล้างจนสะอาดแล้วหั่นซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ
3. นำไข่มาตอกแล้วตีไข่ เติมเครื่องปรุงต่าง ๆ
4. นำใบบัวบกที่ซอยแล้วผสมลงไปในไข่ คนให้เข้ากัน
5. นำมาทอดในไฟอ่อนจนไข่สุก
สรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ และวิงเวียนศีรษะ
ข่างปองบัวบก (บัวบกชุบแป้งทอด)
1. เตรียมวัตถุดิบดังนี้ บัวบกสด / ไข่ไก่ / แป้งทอดกรอบ / กระเทียมหั่นหยาบ / หอมแดงหั่นหยาบ / เกลือ / พริกไทยป่น
2. นำบัวบกสดที่ได้มาล้างทำความสะอาด แล้วหั่นหยาบ ๆ ให้พอดีคำ
3. นำแป้งที่ใช้ทอดกรอบมาผสมกับไข่ไก่ กระเทียม หอมแดง พริกไทย และเกลือ ผสมเข้าด้วยกัน
4. นำบัวบกที่หั่นเตรียมไว้ นำมาชุบกับแป้งที่ผสมไว้
5. หลักจากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน
6. แล้วจึงน้ำบัวบกที่ชุบแป้งแล้ว นำมาทอดให้พอเหลืองกรอบแล้วยกลงให้สะเด็ดน้ำมัน
7. เป็นอันเสร็จ นำมาจิ้มกินกับน้ำจิ้มไก่ตามใจชอบได้เลย
คุกกี้บัวบก
1. ให้เตรียมวัตถุดิบดังนี้ บัวบกหั่นละเอียด 2 ถ้วยตวง / ไข่ไก่ 1 ฟอง / แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง / เนยสดรสเค็ม 2 ถ้วยตวง / น้ำตาลทราย 1.1/2 ถ้วยตวง / ผงฟู 2 ช้อนชา / กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
2. นำใบบัวบกมาล้างทำความสะอาดแล้วหั่นให้ละเอียด โดยตัดก้านและใบออกจากกัน ก้านให้หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ ส่วนใบนำมาเรียงซ้อนกันแล้วหั่นตามขวางและกลับมาหั่นอีกข้าง แล้วพักไว้
3. นำแป้งและผงฟูมาร่อนผ่านตะแกรง 2 รอบ แล้วพักไว้
4. นำเนยสดมาตีให้เข้ากับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟู ประมาณ 1 นาที
5. ใส่ไข่ไก่และกลิ่นวานิลลาลงไป แล้วตีให้เข้ากัน
6. ค่อย ๆ ใส่แป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปทีละน้อย (ครั้งละ 1 ส่วน 3 ของแป้งทั้งหมด) แล้วตีแป้งให้เข้ากับส่วนผสมทั้งหมด
7. นำบัวบกที่หั่นละเอียดแล้วใส่ลงไปในแป้ง แล้วผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
8. นำไปอบในตู้อบ โดยวางใส่ถาดที่ทาเนยหรือกระดาษทนความร้อน ซึ่งจะต้องตักแป้งให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ
9. ใช้เวลาอบประมาณ 6-8 นาที ด้วยอุณหภูมิประมาณ 250 องศา หรือดูว่าขอบเริ่มเหลืองก็เป็นอันใช้ได้แล้ว เสร็จแล้ว คุกกี้บัวบก
วิธีทำน้ำมันบัวบก
1. เตรียมส่วนผสมดังนี้ บัวบก 4 กิโลกรัม / น้ำมันมะพร้าว 1 ลิตร / น้ำสะอาด 1 ลิตร
2. นำบัวบกมาล้างน้ำทำความสะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
3. เติมน้ำลงไปในบัวบก แล้วนำไปปั่นจนละเอียด
4. เสร็จแล้วให้กรองเอาแต่น้ำบัวบกที่ได้จากการปั่น
5. นำน้ำบัวบกที่กรองได้ไปเคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวโดยใช้ไฟอ่อน ๆ ประมาณ 80 องศาเซลเซียส
6. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนเหลือแต่น้ำมันมะพร้าว โดยให้สังเกตลักษณะกากของน้ำมัน จะมีลักษณะแห้งแบบเม็ดทราย ถือว่าเป็นอันใช้ได้ ยกลงจากเตาแล้วกรองเอาน้ำมัน เป็นอันเสร็จ
วิธีใช้น้ำมันบัวบก
1. ใช้น้ำมันที่ได้นำมาชโลมเส้นผม แล้วนวดให้ทั่วหนังศีรษะ
2. นวดเสร็จแล้วให้หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
3. ครบเวลาแล้วให้สระผมด้วยน้ำอุ่นพร้อมแชมพูตามปกติ เป็นอันเสร็จ
น้ำมันบัวบก สรรพคุณช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ แก้ปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย
คำเตือนและคำแนะนำ
การรับประทานใบบัวบกคุณควรพิจารณาพื้นฐานของร่างกาย อย่ามองแต่สรรพคุณเพียงอย่างเดียว
บัวบกไม่เหมาะกับคนที่มีภาวะเย็นพร่อง หรือขี้หนาว ท้องอืดบ่อย ๆ
การรับประทานบัวบกในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้ธาตุในร่างกายเสียสมดุลได้ เพราะเป็นยาเย็นจัด แต่ถ้ารับประทานในขนาดที่พอดีแล้วจะไม่มีโทษต่อร่างกายและได้ประโยชน์สูงสุด
การดื่มน้ำบัวบกติดต่อกันทุกวัน ให้ดื่มแค่วันละประมาณ 50 มิลลิลิตร
การกินเพื่อเป็นยาบำรุงต้องกินตามขนาดที่ระบุไว้ ถ้ากินใบบัวบกสด ๆ ในปริมาณน้อย เช่น วันละ 2-3 ใบทุกวันก็ไม่เป็นอะไร หรือจะกินน้ำคั้นบัวบกแก้ช้ำในหรือร้อนใน ติดต่อกัน 1 สัปดาห์ก็ได้
ถ้ากินเป็นผัก จิ้มครั้งละ 10-20 ใบต่อสัปดาห์ไม่ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ถ้ากินติดต่อกัน 10 วันอาจจะเป็นพิษต่อร่างกายได้
การเก็บใบบักบกอย่าเก็บมาเฉพาะใบ เพราะจะทำให้ได้ตัวยาสมุนไพรมาไม่ครบ ให้ถอนมาทั้งต้นและราก เพราะในส่วนของรากจะมีตัวยาสมุนไพรอยู่ด้วย
ไม่ควรนำใบบักบกไปตากแดดเพื่อทำให้แห้ง เพราะจะทำให้สูญเสียตัวยาสมุนไพรซึ่งอยู่ในน้ำมันหอมระเหยได้ โดยให้ผึ่งลมตากไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อแห้งแล้ว ให้นำมาใส่ขวดปิดฝาให้สนิทป้องกันความชื้น