4 ปีคสช. รวยกระจุก จนกระจาย จีดีพีโตแต่ว่างงานพุ่ง
วันที่ 8 มิถุนายน 2561
ข้อสรุปชีพของชาวไทย 4 ปี ภายใต้การจัดการงานของ คสช. มั่งคั่งกลุ่มที่เจ้าของกิจการบางกรุ๊ป แต่ว่าแรงงานยังไม่มีงานทำเพิ่ม คนประเทศไทยหนี้สินเพิ่มพูน เนื่องจากว่าหลายธุรกิจยังไม่รู้สึกตัว
จำนวนจีดีพีไตรมาสแรกปี 2561 ที่ทำการความเจริญเศรษฐกิจและก็สังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ พึ่งประกาศเติบโตถึงจำนวนร้อยละ 4.8 ตีสถิติโตสูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส หรือ 5 ปี
ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้เรื่องว่าเศรษฐกิจดี คนคงจะมีงานทำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้นปรากฏว่าจำนวนของสสช. ได้กล่าวว่าไตรมาสแรกปี 2561 ตกงาน 440,000 คน ส่วนเดือน เม.ย.61 มีคนไม่มีงานทำ 405,000 คน มากยิ่งกว่าเม.ย.60 โดยประมาณ 68,000 คน แล้วก็มากยิ่งกว่าปี 2557 แทบแสนคน
นอกนั้น แรงงานไทยมีรายได้เพิ่ม แม้กระนั้นก็มีรายการจ่าย และก็หนี้สินต่อครอบครัวก็สูงมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
รายได้คนประเทศไทยต่อเดือนต่อครอบครัวในปี 2560 มี 26,946 บาทต่อเดือน มากยิ่งกว่าปี 2558 เพียงแต่ 31 บาท แล้วก็มากยิ่งกว่าปี 2556 ก่อนที่จะคสช.เข้ามาบริหาร 1,752 บาทต่อเดือน
ส่วนรายจ่ายมากขึ้น 280 บาท จาก 21,157 บาทต่อเดือนในปี 2558 เป็น 21,437 บาทต่อเดือนในปี 2560 รวมทั้งมากขึ้น 2,376 บาท จากปี 2556 ที่มีค่าใช้จ่าย 16,061 บาท
สำหรับหนี้ต่อครอบครัว จาก 156,770 บาทต่อครอบครัวในปี 2558 มากขึ้น 22,224 บาทเป็น 178,994 บาทต่อครอบครัวในปี 2560 แล้วก็มากขึ้นจากปี 2556 ราวๆ 15,907 บาท ที่มีหนี้สินครอบครัวอยู่ที่ 163,087 บาท
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานที่ประชุมหน่วยงานผู้ว่าจ้างผู้ทำการค้าแล้วก็อุตสาหกรรมไทย เผยออกมาว่า เศรษฐกิจขยายตัวแต่ว่ายังคงร่ำรวยกลุ่มอยู่เพียงแค่บางกรุ๊ปธุรกิจ ก็เลยยังมีตัวเลขคนไม่มีงานทำมากขึ้น เนื่องจากว่ากลไกดันเศรษฐกิจเติบโตมาจากการก่อสร้างส่วนประกอบเบื้องต้น แผนการขนาดใหญ่ อย่างเช่น รถไฟฟ้า ก็เลยมีการลงทุนของกรุ๊ปธุรกิจก่อสร้างมากมาย นอกเหนือจากนั้นยังมาจากการนำเข้าเครื่องจักรวัสดุอุปกรณ์ต่างๆส่วนกลไกส่งออกก็เป็นการส่งออกรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งอุตสาหกรรมกลุ่มนี้ใช้เครื่องจักรกันจำนวนหลายชิ้น
ส่วนกรุ๊ปโรงงานทอผ้า การกสิกรรม ประมง ที่ใช้แรงงานคนเป็นหลัก ยังคงติดลบตลอดมา 5 ปี ด้วยเหตุดังกล่าวความจำเป็นแรงงานก็เลยน้อยลง รวมทั้งแนวโน้มนี้จะกระทบต่อแรงงานไทยในอีก 5 ปีด้านหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย
“ในอีก 5 ปีด้านหน้าจะต้องรีบหาทางออก เพื่อช่วยแรงงานไทย ด้วยเหตุว่าตอนนี้แรงงานไทยแทบครึ่งการศึกษาเล่าเรียนไม่สูง เพียงแค่ระดับประถม แก่ และไม่มีความชำนาญเฉพาะ ในเวลาที่แนวโน้มอุตสาหกรรมต่างๆจะนำเครื่องจักร และก็หุ่นยนต์มาแทนที่มากเพิ่มขึ้นอย่างแน่แท้” นายธนิตกล่าว
4 ปีที่ล่วงเลยไป ภายใต้รัฐบาลคสช.ที่มีเสียงเด็ดขาด แปลงรองนายกฯที่ดูแลงานทางด้านเศรษฐกิจแล้ว 2 คน จากม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล มาเป็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จีดีพีที่มองเห็น สะท้อนการบรรลุเป้าหมายจากการดำเนินแนวนโยบายที่เบ็ดเสร็จด้วยการขับเขยื้อนโครงงานต่างๆออกมาได้เสร็จ แต่ว่าที่ยังไม่เป็นผลสำเร็จเป็น ความร่ำรวยยังกลุ่ม และก็ยังมีตัวเลขที่ว่าคนยังตกงานเพิ่ม และก็หนี้สินยังพุ่ง ก็พอๆกับว่ายังคงจะจนกระทั่งกระจัดกระจายตัวอย่างเช่นเดิม
ที่มาของเนื้อหา : www.thairath.co.th
เรียบเรียงโดย:www.legendnews.net