ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




มิฉาวณิชชา 5 article

 มิฉาวณิชชา 5

 

ในคำสอนของพระพุทธศาสนา ห้ามมิให้ผู้ที่เป็นอุบาสกทำการค้าขาย 5 ประเภทเรียกว่า มิจฉาวณิชชา 5 ประการคือ

1. สัตถวณิชชา คือ การขายอาวุธ

2. สัตตวณิชชา คือ การค้าขายมนุษย์

3. มังสวณิชชา คือ ค้าขายเนื้อสัตว์เป็น

4. มัชชวณิชชา คือ การค้าขายของเมา

5. วิสวณิชชา คือ การค้าขายยาพิษ

การค้าขาย 5 ประเภทนี้ เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับอุบาสกคือผู้ที่เข้าถึงพระรัตนตรัย และถือศีล 8 ในสมัยโบราณการค้ามนุษย์คือ การนำคนมาขายในตลาดค้าทาส และคนซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อก็คือ ผู้ชายที่มีร่างกายกำยำ ล่ำสัน เพื่อนำไปใช้แรงงาน เช่น แบกหามของหนักในการก่อสร้าง ในการทำเกษตรกรรม เป็นต้น และผู้หญิงซึ่งมีรูปร่างหน้าตาสวยงามเพื่อนำไปเป็นนางบำเรอ จะด้วยเหตุนี้กระมัง ผู้หญิงบางเผ่าในทวีปแอฟริกาจึงดัดแปลงแต่งโฉมให้ดูน่าเกลียด เช่น เจาะหู และริมฝีปากดำเพื่อไม่ให้เป็นที่ต้องการของตลาด

ในสมัยนั้นคนที่ถูกซื้อไปได้ตกเป็นสมบัติของผู้ซื้อ ในทำนองเดียวกันกับสิ่งของ จึงมีสิทธิในการเฆี่ยนตีถ้าทำงานไม่ถูกใจ และไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนใดๆ นอกจากอาหาร และเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น

แต่เมื่อมีการเลิกทาส และมีกฎหมายให้สิทธิเสรีภาพแก่บุคคลโดยเสมอภาคกัน การค้ามนุษย์ในรูปแบบของการค้าทาส ก็เป็นอันสิ้นสุดลง

ดังนั้น ในปัจจุบันจึงพูดได้ว่า การค้ามนุษย์ไม่มีแล้วทางนิตินัย แต่ในความเป็นจริงมีอยู่ในทางพฤตินัย เพียงแต่รูปแบบและวิธีการดำเนินการได้เปลี่ยนไป

ในปัจจุบันการค้ามนุษย์ได้มีอยู่ในหลายรูปแบบ และวิธีการก็เปลี่ยนไปในแต่ละรูปแบบ ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้

1. การลักลอบนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกัน และง่ายต่อการดำเนินการโดยผู้กระทำมีรายได้จากการเก็บค่าหัวจากแรงงานที่ต้องการเข้ามาทำงานในประเทศ หรือจากผู้ประกอบการที่ต้องการแรงงานเป็นรายหัว หรือในรูปของการเหมาจ่ายขึ้นอยู่กับตกลงกัน

2. การหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ โดยอ้างว่ามีรายได้ดี และมีผู้หลงเชื่อจ่ายเงินไป ครั้นได้ไปหรือได้ไปแต่ไม่ได้รับค่าจ้างตามที่ตกลงกัน ก็มีเรื่องแจ้งความดำเนินคดีฟ้องร้องกัน

3. การนำหญิงสาวมาค้าประเวณี ซึ่งกระทำโดยการชี้นำหรือหว่านล้อมด้วยการใช้ตัวเงินเป็นเครื่องล่อจนมีผู้หลงเชื่อ และคล้อยตามกลายเป็นเหยื่อของการค้ากาม ซึ่งมีอยู่ดาษดื่นในเมืองใหญ่ และเมืองซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ดังนั้น การค้าประเวณีในปัจจุบันจึงอนุมานได้ว่า ส่วนใหญ่มาสู่เส้นทางแห่งอาชีพนี้ด้วยความสมัครใจ แต่จะด้วยเหตุจูงใจจากความต้องการเงินเพื่อสนองความต้องการในยุควัตถุนิยม หรือจะด้วยความจำเป็นเนื่องจากครอบครัวยากจน และต้องการเงินไปจุนเจือครอบครัว แต่ก็เป็นความสมัครใจ ส่วนที่ถูกล่อลวงและบังคัญขู่เข็ญให้ค้าประเวณีเกิดขึ้นได้ยากในยุคที่กฎหมายเข้มงวด และรัฐบาลจริงจังกับการปราบปรามเช่นทุกวันนี้

ดังนั้น ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจึงอยู่ในฐานะเกื้อหนุนกัน คือ ผู้ค้าขายต้องการเงิน และผู้ซื้อต้องการความสุขจากเนื้อหนัง อันเป็นวัตถุกามเพื่อสนองกิเลสกาม ตามวิสัยของปุถุชนจึงไม่ก่อความเดือดร้อนใดๆ แก่สังคมโดยรวม ยกเว้นในกรณีของผู้ขายที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี และพ่อแม่หรือผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดี โดยความร่วมมือของผู้ขายในการให้ปากคำปรักปรำความผิดของผู้ซื้อ ผู้ซื้อก็จะเดือดร้อนต้องนอนคุก ดังที่เกิดขึ้นกับอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นกับข้าราชการอีกหลายท่านในขณะนี้

หญิงขายบริการเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะมีแนวทางกำจัดให้หมดไปได้หรือไม่

 
 

เพื่อจะตอบคำถามในประเด็นที่ว่า โสเภณีเกิดขึ้นได้อย่างไร ผู้เขียนขอให้ท่านผู้อ่านย้อนไปดูสภาพแวดล้อมของประเทศไทยคือทางด้านเศรษฐกิจ และทางด้านสังคมก็ตาม จะมองเห็นที่มาของโสเภณีดังนี้

ในอดีตประมาณ 50 ปีมาแล้ว ประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคมแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างสังคมเมืองและสังคมชนบท กล่าวคือ ในขณะที่ผู้คนในสังคมเมืองเช่น กรุงเทพฯ มีความสะดวกสบาย แต่งกายดี มีเงินใช้ ผู้คนในสังคมชนบทซึ่งเป็นสังคมเกษตรกรรมแต่งตัวมอซอ เงินทองแทบไม่มีติดตัวในแต่ละวัน ดังนั้น เมื่อเห็นใครสักคนจากสังคมเมืองแต่งตัวดีมีเครื่องประดับหรูหรา จากสังคมเมืองเข้ามาในหมู่บ้านจึงเป็นที่สนใจของคนหนุ่มสาว และนี่เองคือมูลเหตุจูงใจให้เด็กสาวถูกหว่านล้อม และชักชวนให้เข้าเมือง โดยอ้างว่าจะพาไปทำงานซึ่งมีรายได้ดี ครั้นมาถึงก็ได้ทำงานจริง แต่งานที่ว่าก็คือการขายบริการทางเพศ แรกๆ ก็คงทุกข์ใจและเดือดร้อนอยู่บ้าง แต่นานไปก็เคยชิน ประกอบกับมีรายได้ส่วนหนึ่งส่งให้ครอบครัวปลูกบ้าน และซื้อนาเพิ่ม และเหลือส่วนหนึ่งสำหรับตนเองเพื่อซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับสวยๆ งามๆ ครั้นถึงเทศกาลสงกรานต์กลับบ้าน และเพื่อนได้เห็นก็เกิดความนิยม และยึดถือเป็นแบบอย่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกัน และทำงานประเภทเดียวกัน

นี่คือที่มาประการหนึ่งของหญิงขายบริการ เท่าที่ผู้เขียนได้ศึกษาและพบเห็น พร้อมทั้งได้สอบถามข้อมูลกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานขายบริการทางเพศแห่งหนึ่ง เมื่อประมาณ 40 ปีมาแล้ว

แต่ในปัจจุบันสภาพแวดล้อมทางสังคมได้เปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้น การค้าประเวณีแทนที่จะอยู่ในสังคมเมืองอย่างเดียว ได้กระจายไปทุกหนทุกแห่งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากว่าในแหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งมีสถานบันเทิง และการค้าประเวณีส่วนหนึ่ง และอาจเป็นส่วนใหญ่ด้วยจะเป็นธุรกิจแฝงอยู่กับสถานบันเทิงเกือบทุกแห่ง ทั้งในรูปของการขายตรงและขายผ่านนายหน้า และยากแก่การจับกุม

การค้าประเวณีในลักษณะของธุรกิจแฝงอยู่กับธุรกิจอื่น ถึงแม้ในทางพฤตินัยจะรู้อยู่ว่ามีก็ยากแก่การจับกุมมาดำเนินคดี เนื่องจากในสถานบันเทิงมีเพียงการพบปะนัดหมาย และตกลงกัน

การจะกำจัดการค้าประเวณีให้หมดไปในทางพฤตินัยโดยไม่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคมเลยคงกระทำไม่ได้ แต่จะต้องควบคุมมิให้มีการล่อลวงหญิงมาค้าประเวณี และบังคับขู่เข็ญ เฉกเช่นในอดีตก็น่าจะเพียงพอแล้ว




นานานักเขียน คำคม คำกลอน สุภาษิต ปรัชญา ( กลอนประตูหรือหน้าต่าง)

ลักษณะของความพอดี
ทำดีเหมือนกันคือคู่บุญกัน
ความละอายและเกรงกลัวการทำชั่ว
สละสุขส่วนตนเพื่อส่วนรวม
หิริโอตัปปะ
ทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง
ทำดีอย่างแน่วแน่อย่ากลัวสิ่งที่มากระทบ
งานที่สุจริตย่อมมีเกียรติทุกอาชีพ
เมื่อมีธรรมะแล้วควรปฏิบัติ
คติธรรมสอนใจ
ธรรมโลกบาล
บุญเป็นเงาตามติดชีวิตเราตลอดไป
การเปรียบเทียบความดีความชั่ว
อกุศลกรรมบท10อย่างควรงดเว้น
การหาที่พึ่งทางใจ
หัวใจของพระพุทธศาสนา
หนทางพ้นทุกข์
บาปบุญอยู่ที่ตัวเรา
ความกตัญญู
รู้ในทางที่ดีคือผู้เจริญ
มารยาทที่ดีหรือไม่ดีถือว่าเป็นกรรม
ประพฤติธรรมให้เป็นสุจริต
บาปเกิดจากการที่ใจคิดไม่ดี
ประโยชน์ของการตื่นเช้า
บุญกับบาปเท่านั้นที่ตายแล้วติดตัวไปได้
ความคิดมนุษย์เหมือนดาบสองคม
จัดใจเราเพื่อเข้าใจเขา
เมื่อมีความพอใจย่อมสุขเท่ากัน
หลักธรรมนำไปสู่ความเจริญ
ต้องรู้ตนเองอยู่เสมอ
ผู้มีความเพียรละความเกียจคร้าน
ความเกียจคร้านเป็นภัย
การภาวนาถือว่าเป็นบุญ
ความสำเร็จต้องใช้ความพยายาม
เราทุกคนควรมีทุกข้อในตัวเอง
ปัญหาบางอย่างแก้ไม่ได้ด้วยเงิน
คนมีปัญญาเลือกพิจารณา
อายุไม่สำคัญเท่าความดี
ทำอะไรผิดไปให้พิจารณาตนเอง
กัลยาณมิตร
ทำตนเหมือนทองคำอยู่ที่ใดก็มีคุณค่าในตัวเอง
ความงามอยู่ภายนอกความดีอยู่ภายใน
สิ่งใดที่ไม่ดีไม่ควรเก็บมาจำ
ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติดี
ทุกสิ่งอย่างไม่มีอะไรแน่นอน



เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน