กระทรวงอุตสาหกรรม (ประเทศไทย)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี(เปลี่ยนทางมาจาก กระทรวงอุตสาหกรรม)
กระทรวงอุตสาหกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย (อังกฤษ: Ministry of Industry of Thailand) เป็นหน่วยงานราชการของไทย ประเภทกระทรวง ดูแลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ของประเทศ
เนื้อหา
ประวัติ
กระทรวงอุตสาหกรรม เริ่มจากการก่อตั้ง กองอุตสาหกรรม ในกรมพาณิชย์ กระทรวงเศรษฐการ เมื่อ พ.ศ. 2479 ก่อนจะยกฐานะขึ้นเป็น กองอิสระรัฐพาณิชย์ ใน พ.ศ. 2480 ถัดมาเมื่อ พ.ศ. 2484 ได้มีการปรับปรุงส่วนราชการกองเศรษฐการใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น กระทรวงเศรษฐกิจ และจัดตั้ง กรมอุตสาหกรรม สังกัดกระทรวงเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ประกาศใช้พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรมจัดตั้ง "กระทรวงการอุตสาหกรรม" โดยมีส่วนราชการในสังกัด คือ
- สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี
- สำนักงานปลัดกระทรวง
- กรมโรงงานอุตสาหกรรม (ตั้งใหม่)
- กรมโลหกิจ (โอนมาจากกระทรวงมหาดไทย)
- กรมวิทยาศาสตร์ (โอนมาจากกระทรวงการเศรษฐกิจ)
- กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กรมอุตสาหกรรม กระทรวงการเศรษฐกิจเดิม)
กระทรวงการอุตสาหกรรม เปลี่ยนชื่อเป็น กระทรวงอุตสาหกรรม ใน พ.ศ. 2495[2]
ตราสัญลักษณ์
ตราสัญลักษณ์ของกระทรวงอุตสาหกรรม คือ ตรานารายณ์เกษียรสมุทร ซึ่งนำจากเรื่องนารายณ์สิบปาง ปางที่สองหรือกูรมาวตาร โดยถือเอาสัญลักษณ์ขณะที่พระนารายณ์ทรงแสดงอิทธิฤทธิ์ประกอบพิธีกวนน้ำอมฤต ซึ่งในการกวนน้ำอมฤตนี้ ก็ได้เกิดผลิตผลอย่างอื่น ๆ ขึ้นในโลกอีกด้วย[3]
หน่วยงานในสังกัด
- ^พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554
- ^ประวัติกระทรวงอุตสาหกรรม
- ^ที่มาของนารายณ์เกษียรสมุทร
ส่วนราชการระดับกรม
วิศวกรปากโป้งอำลาโตโยต้าเวียดนาม หลังปูดข่าว “รถห่วย”
โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 16 มิถุนายน 2554 17;24 น.
นายเลวันแต๊ก (Le Van Tach) วิศวกรของโตโยต้าเวียดนามประกาศลาออก บ่ายหน้าเป็นเถ้าแก่เอง หลังปากโป้งรั่วข่าวบริษัทประกอบรถบกพร่องต่ำกว่ามาตรฐานญี่ปุ่น ทำให้ต้องเรียกคืนไปเปลี่ยนชิ้นส่วนหลายหมื่นคัน นายแต๊กกล่าวว่ามีข้อมูลอีกเพียบ. -- ภาพ: เตื่อยแจ๋.
เตื่อยแจ๋ - วิศวกรที่เปิดเผยความผิดพลาดของบริษัท โตโยต้า ที่นำไปสู่การเรียกรถคืนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเวียดนาม กล่าวว่า เขาจะออกจากบริษัท โตโยต้า เพื่อหางานใหม่ หลังถูกบริษัทสั่งพักงาน
นายเลวันแต๊ก (Le Van Tach) ที่ถูกบริษัท โตโยต้า เวียดนาม สั่งพักงานเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.กล่าวกับสำนักข่าวซเวินเหวียด (Dan Viet) หรือ “ประชาชนเวียดนาม” เมื่อวันอังคาร (14 มิ.ย.) ว่า เขาเตรียมตัวที่จะดำเนินธุรกิจของตัวเอง และลาออกจากงานที่โตโยต้า แต่ก่อนลาออกนั้น เขาตั้งใจที่จะทำเอกสารที่เปิดเผยถึงความผิดพลาดทางเทคนิคในการประกอบรถยนต์โตโยต้าในเวียดนามให้เรียบร้อยเสียก่อน และยื่นอุทธรณ์ต่อคำสั่งพักงานที่เขาได้รับ นายแต๊ก ยังเปิดเผยว่า ได้ค้นพบความผิดพลาดอีก 4 อย่างในรถยนต์โตโยต้า
นายแต๊ก กลายเป็นคนมีชื่อเสียง เมื่อเขาเปิดเผยข้อมูลให้กับสื่อและทางการเกี่ยวกับความผิดพลาดทางเทคนิคในรถยนต์โตโยต้าของเวียดนาม และจากการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว นับตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา โตโยต้าเวียดนามต้องเรียกคืนรถยนต์ทั้งหมด 73,000 คัน จากปัญหาที่เกี่ยวกับน็อต เบาะที่นั่ง และระบบความดันน้ำมันเบรก
รายงานระบุว่า นายแต๊ก ถูกพิจารณาลงโทษ เนื่องมาจาก เขาส่งผลกระทบทางลบต่องานและมีอิทธิพลที่ไม่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน แต่บริษัทระบุว่าการสั่งพักงานเป็นไปตามกฎหมายแรงงานและระเบียบของบริษัท และบริษัทยืนยันว่า การสั่งพักงานเพราะนายแต๊ก สร้างความแตกแยกในหมู่พนักงานนั้นไม่มีมูลความจริง และไม่ใช่เพราะจากการเปิดเผยความผิดพลาดของบริษัท
ในวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา นายแต๊กส่งคำร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการบริษัทว่าเจ้าหน้าที่อาวุโส 7 คน ได้ตำหนิและข่มขู่เขา เขาต้องการให้บริษัทขอโทษและชดเชยความเสียหายให้กับเขา แต่ผู้อำนวยการตอบกลับว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวขาดหลักฐาน
นายเจิ่นก๊วกหุ่ง (Tran Quoc Hung) หัวหน้าฝ่ายวางแผนของบริษัทโตโยต้าเวียดนาม กล่าวกับหนังสือพิมพ์เหงื่อยลาวด่ง (คนงาน) ก่อนหน้านี้ว่า หลังจากการสืบสวน บริษัทพบว่าพนักงานหลายคนคิดว่าเป็นเพียงเรื่องตลก ขณะที่บางคนจำไม่ได้หรือไม่ได้พูดถึงความสามารถของแต่ละบุคคล และไม่ใช่ในนามของบริษัท ดังนั้นบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยหรือขออภัยได้.
สุทธิ เครือข่ายปชช.ตอ.ถูกตำรวจอินโดนีเซียจับกุมพร้อมกลุ่มกรีนพีซรวม 15 คน
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ถนนยมจินดา อ.เมืองระยอง ว่านายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียจับกุมเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พร้อมกลุ่มกรีนพีซจากประเทศอินโดนีเซีย จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ เซียบอน(Cirebon) ชวาตะวันตก รวม 15 คน ขณะเดินทางไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องเหมืองถ่านหิน แก่กลุ่มประมงที่เกาะชวา ซึ่งจัดโดยกลุ่มกรีนพีซ เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม-- 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมาขณะมีการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องผลกระทบจากถ่านหินในเอเชีย ที่จัดขึ้นในเมืองเชอริบอน ชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย มีผู้นำชุมชนและนักกิจกรรมของกรีนพีซจากประเทศไทย ฟิลิปปินส์ อินเดีย จีนและอินโดนีเซียกว่า 40 คน เข้าร่วมประชุม ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลจำนวน 40 นาย นำกำลังเข้าจับกุมนำตัวไปยังสถานีตำรวจในเมืองเชอริบอน
รายชื่อผู้ถูกจับกุม 1.นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 2.นางเอื้องฟ้า ชุมเกด เครือข่ายประชาชนติดตามผลกระทบโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา 3. นายยีน ผู้นำชุมชนจากเกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ 4.นายสุธีกุมาร จากรัฐเกเรลา ประเทศอินเดีย 5.นายฟูเซง ประธานสมาคมGreen Harmony Messengers จีนแผ่นดินใหญ่ 6.นางสาวจริยา เสนพงศ์ จากกรีนพีซประเทศไทย 7.นางสาววีระกานต์ เก่งกาจ จากกรีนพีซประเทศไทย 8.นายอะมาลี กรีนพีชประเทศฟิลิปปินส์ 9.นายอัลเบิร์ต กรีนพีซประเทศฟิลิปปินส์ 10.นายพรีติ กรีนพีซ ประเทศอินเดีย 11.นายเมง เหว่ย กรีนพีซ จีน 12. นายอารีฟ ฟิยานโต กรีนพีซอินโดนีเซีย 14.นายโธจาด กรีนพีซ อินโดนีเซียลื 15. นายไอริส กรีนพีซสากล ฮ่องกง
ทั้งหมดถูกตั้งข้อหา จัดกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในการชุมนุมในที่สาธารณะและมีสอบสวนเจ้าหน้าที่กรีนพีซรวม 5 คน ที่พูดภาษาอังกฤษได้
นายสุทธิ กล่าวว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อคนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ประสานรัฐบาลอินโดนีเซียให้ปล่อยตัวโดยเร็ว แต่ทราบว่าจะมีการปล่อยตัวในตอนเย็นของวันที่ 7 กรกฎาคมนี้
นายธารา บัวคำศรี ผู้ประสานงานรณรงค์ประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าอยู่ระหว่างดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ถูกจับกุมให้มีการปล่อยตัวโดยเร็ว.
จุมพล นิคมรักษ์