ตลาดชาวนา ชาวสวน" กับ ความสุขเล็กๆ ของชาวเมือง

โดย ชุติมา นุ่นมัน aae_ok@yahoo.com

 

หลังผจญกับอากาศหนาวอันร้ายกาจ ชนิดที่บางวัน อุณหภูมิ ตกลงไปแตะ ลบยี่สิบองศาเซลเซียส ตั้งแต่เดือนธันวาคม เรื่อยมา กระทั่งเข้าฤดูใบไม้ผลิ ราวเดือนพฤษภาคม ถึงมิถุนายน เริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆ เหลือแค่ ยี่สิบ ถึง ยี่สิบสี่ องศาเซลเซียส แดดแรงกำลังดี ถ้าเป็นเมืองไทย อากาศขนาดนี้ อาจจะมีบางคนบ่นหนาวกันบ้าง แต่ที่เมือง เมดิสัน รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่ถือว่าอากาศดีที่สุดในรอบปี

               
รัฐบาลแห่งเมืองเมดิสัน จึงจัดให้บรรดาเกษตรกร ผู้ประกอบการกิจการโคนม นำสินค้าเกษตร ที่ตัวเองผลิต ออกมาวางจำหน่าย รอบๆตึกรัฐสภาแห่งรัฐวิสคอนซิน หรือตึกแคปปิตอล(Capitol) ทุกๆวันเสาร์ ชาวเมืองที่นี่เรียกว่า ฟาร์เมอร์ มาเก็ต (Farmer market) และทุกคนก็เฝ้าคอยอย่างใจจดจ่อว่า เมื่อไหร่จะถึงวันเสาร์ ซะที จะได้มาเดินจับจ่ายสินค้าที่ตลาดแห่งนี้

               
สินค้าทั้งหมด ในตลาด ชาวนา ชาวสวน หรือ ฟาร์เมอร์มาเก็ต  เป็นสินค้าปลอดสารพิษ

               
อย่าว่าแต่ฝรั่งเมืองนี้เลย ที่ชอบเดินจับจ่ายสินค้าจากที่นี่ เราคนไทย ก็อดทึ่ง ตื่นตา ตื่นใจ ทุกครั้งที่ไปเดิน เพราะ มีผักสด ผลไม้สด ดอกไม้ สมุนไพร ผลิตภัณฑ์จากนม ขนม ต้นไม้  และกิจกรรมหลากหลาย ที่แตกต่างกันไปในแต่ละสัปดาห์ ให้ได้ชื่นชมกัน สินค้าแต่ละอย่างมีสีสรร ฉูดฉาดบาดตา มองแล้ว ต้องหันไปมองอีก

               
สินค้าที่โดดเด่นและเป็นที่สนใจของผู้คนมากที่สุด เห็นจะเป็น ผักสด เช่น มะเขือเทศ บล็อคเคอร์รี่ บีทรูท เห็ดสีต่างๆ สีเหลือง สีขาว หน่อไม้ฝรั่ง น้ำผึ้ง

               
ที่ร้านขายสมุนไพรนั้นเรายังเห็น ต้นกระเพรา และใบโหระพา ปลูกในกระถางสวยงาม มีป้ายชื่อปักไว้หน้ากระถางด้วยว่า กระเพราและโหระพา จากประเทศไทย

               
ใครที่เหนื่อย เมื่อยเท้าจากการเดินช็อป ก็แวะเข้าไปนั่งในสนามหญ้า ด้านในที่อยู่ติดกับตัวอาคารรัฐสภา หรือ ตึกแคปปิตอลได้ มีหลายครอบครัวหอบลูก จูงหลาน มานั่งพักผ่อน ป้อนน้ำป้อนขนม พูดคุยหัวเราะต่อกระซิก มีความสุขกันทั่วหน้า

               
หรือบริเวณรอบนอก จะมีคณะบุคคลกลุ่มต่างๆ นำผลงานของตัวเองมาแสดง เช่น นักมายากล นักดนตรีเปิดหมวก เจ้าของวัวนม นำวัว มาให้เด็กๆหัดรีดนม เป็นต้น

               
ครั้งหนึ่ง ตำรวจเมืองเมดิสัน มาจัดกิจกรรมพบปะชาวเมือง ในตลาดฟาร์เมอร์มาเก็ต คือ ด้านในเป็นตลาด ด้านนอกเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกต่างๆก็จะมาทำกิจกรรมร่วมกับชาวเมือง เช่น มีตำรวจหญิง ขี่ม้า ลาดตระเวณคอยรักษาความปลอดภัย รอบๆบริเวณงาน แต่ครั้นเด็กๆคนไหน อยากสัมผัสม้าใกล้ๆ พี่ตำรวจก็จะแวะทักทาย ให้เด็กได้เอามือลูบตรงบริเวณแผงคอม้า ดูเด็กๆจะตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ

               
พอกับพี่ตำรวจอีกกลุ่มหนึ่งที่นำ K 9 หรือสุนัขตำรวจที่ผ่านการฝึกจับผู้ร้ายแล้ว มาให้เด็กๆดู ซุ้มที่เด็กๆมุงมากเป็นพิเศษ คือ ซุ้มตำรวจตกน้ำ ที่เหมือนกับเกมส์สาวน้อยตกน้ำบ้านเรา คือ ให้เด็กๆ(ต้องเด็กเท่านั้น)ปาลูกบอลไปยังเป้า ถ้าปาถูก พี่ตำรวจที่นั่งอยู่ปากถังก็จะร่วงลงในน้ำทันที อากาศค่อนข้างเย็นแบบนี้สงสารพี่ตำรวจมาก นอกจากนี้พี่ๆก็จะนำเอารถตำรวจแบบต่างๆทั้งแบบสองล้อ สามล้อ และสี่ล้อ มาแสดง และให้เด็กๆลองขึ้นไปนั่งดู เด็กก็หัวเราะวี้ด ว้าด กันใหญ่ คนดู ดูแล้วก็พลอยอมยิ้มไปด้วย

               
ประเทศไทยของเรา ที่ตอนนี้หลายฝ่ายกำลังรณรงค์เรื่องการกิน และปลูกผักปลอดสารพิษ น่าจะมีตลาดในรูปแบบดังกล่าวเยอะๆ ดูเหมือนว่า เวลานี้คนไทยโหยหา สินค้าปลอดสารพิษ โดยเฉพาะ พืช ผัก ผลไม้ ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง แต่ทว่าเมื่อหยิบขึ้นมาเพื่อจะซื้อแล้ว แทบจะวางกลับสู่ที่เดิมไม่ทัน เพราะราคาแพงมาก สาเหตุเพราะสินค้ามีน้อย การผลิตยังใช้ต้นทุนที่สูงอยู่ แต่หากรัฐบาล หรือภาคเอกชนส่งเสริมเรื่องนี้กันอย่างจริงๆ อีกไม่นาน คนไทยจะมีผักปลอดสารพิษที่มีราคาถูกกินกันทั่วหน้าแน่นอน

               
แอบคิด แอบฝันเอาว่า สักวันหนึ่งตรงบริเวณลานคนเมือง ที่กรุงเทพมหานครของเรา จะมีตลาดแบบเดียวกับ ฟาร์เมอร์มาร์เก็ต ที่เมืองเมดิสัน จะได้ไปซื้อผัดสดมาใส่ตู้เย็นเก็บไว้กินที่บ้านบ้าง อะไรบ้าง

               
ใครอยากให้มีแบบนี้โปรดยกมือขึ้น...