ข้อบังคับของสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สนพท.)
หมวดที่ 1 ข้อความทั่วไป
ข้อ 1 สมาคมนี้มีชื่อว่า "สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย" ใช้ชื่อย่อว่า "สนพท." เรียกชื่อเป็นภาาาอังกษว่า " THE PROVINCIALJOURNALISTS ASSOCIATION OF THAILAND " ใช้อักษรย่อเป็นภาาาอังกฤษได้ว่า "P.J.A.T."
ข้อ 2 เครื่องหมายของสมาคมฟันเฟือง ภายในฟันเฟืองเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย มีนกพิราบในท่าบินอยู่ในแผนที่ มีรูปสายฟ้า ปากกาไขว้อยู่ภายในสี่เหลี่ยม ในสี่เหลี่ยมมีอักษรชื่อสมาคมว่า "นักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย" และมีชื่อย่อว่า "P.J.A.T."
ข้อ 3 สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ที่ 37 ถ.พิชัยรณรงค์สงคราม อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี โทร.036-211052
หมวดที่ 2 วัตถุประสงค์
ข้อ 4 สมาคมนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
4.1 ส่งเสริมวิชาการนักหนังสือพิมพ์และธุรกิจหนังสือพิมพ์ การสื่อสารมวลชน วิทยุกระจายเสียงโทรทัศน์ในภูมิภาค
4.2 สร้างเสริมหลังประกัน เพื่อสวัสดิการและสมรรถภาพของสมาชิค
4.3 ผดุงไว้ซึ่งมาตรฐานอันดีงามในการปฏิบัติหน้าที่ และบำเพ็ญตนของสมาชิกให้เป็นไปตามจริยธรรมที่สมาคมรวางระเบียบไว้
4.4 อำนวยประโยชน์ในการสื่อข่าวทั้งในและนอกประเทศ
4.5 ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างสมาชิก ส่งเสริมการกีฬา การบันเทิง การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิก
4.6 จัดศูนย์กลางสำหรับให้สมาชิกชุมนุมวิสาสะ
4.7 ส่งเสริมให้มีสวัสดิภาพการสงเคราะห์ ส่งเสริมการศึกษาและบำรุงการสาธารณกุศล
4.8 สมาคมนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
หมวดที่ 3 ประเภทสมาชิก
ข้อ 5 สมาชิกของสมาคมเป็นผู้มีเกียรติ และต้องรักษาศักดิ์ศรีของสมาคม
ข้อ 6 สมาชิกของสมาคมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
6.1 สมาชิกสามัญ ได้แก่บรรณาธิการ ผู้ช่วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ หัวหน้าข่าว ผู้สื่อข่าว ช่างภาพที่ประจำอยู่ในภูมิภาค และผู้ซึ่งจัดหาข่าวสาร ทุกประเภทในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 2 ปี
6.2 สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ กรรมการสมาชิกชมรมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนที่มีสำนักงานอยู่ในภูมิภาค ผู้มีคุณสมบัติตามข้อ 6.1 แต่มีกำหนดเวลาประจำทำงานยังไม่ถึง 2 ปี ผู้ซึ่งเป็นหรือเคยเป็นบรรณาธิการ ผู้ช่วยบรรณาธิการ ผู้ช่วยบรรณาธิการ หัวหน้าข่าว ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ หัวหน้าวิทยุ หัวหน้าสถานีโทรทัศ ผู้ประกาศสถานีวิทยุ ผู้ประกาศสถานีโทรทัศน์ และผู้ซึ่งจัดทำข่าวสารทุกประเภทในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ในภูมิภาค
6.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยเหลือสมาคม ที่คณะกรรมการบริหารสมาคมด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์
ข้อ 7 ผู้สมัครเป็นสมาชิกต้องยื่นใบสมัครตามแบบที่สมาคมกำหนดไว้ต่อเลขาธิการของสมาคมโดยสมชิกสามัญลงลายมือชื่อรับรอง 3 คน เมื่อเลขาธิการได้รับใบสมัครขอเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ให้ตรวจคุณสมบัติของผู้สมัครแล้วเสนอต่อนายกสมาคมเพื่อพิจารณาเสนอต่อคณะกรรมการบริหารของสมาคมในการประชุมประจำเดือน
ข้อ 8 เมื่อคณะกรรมการลงมติรับผู้ใดเป็นสมาชิกแล้ว ให้ผู้สมัครชำระเงินค่าจดทะเบียนและค่าบำรุงภายในกำหนด 30 วัน นับตั้งแต่วันที่นายกสมาคมแจ้งการรับเข้าเป็นสมาชิก ถ้าผู้ใดไม่ชำระเงินดังกล่าวแล้วให้ถือว่าการสมัครเข้าเป็นสมาชิคเป็นอันระงับ และต้องแจ้งให้ผู้สมัครแสดงตนต่อที่ประชุมใหญ่ด้วย
ข้อ 9 เมื่อคณะกรรมการมีมติไม่รับผู้ใดเป็นสมาชิกด้วยเหตุใดก็ตาม ผู้สมัครนั้นจะยื่นใบสมัครอีกไม่ได้มีกำหนด 1 ปี การไม่รับสมัครผู้แสดงตนต่อที่ประชุมใหญ่ด้วย
ข้อ 10 สมาชิกภาพของสามัญสมาชิก ย่อมสิ้นสุดลงและเปลี่ยนเป็นวิสามัญสมาชิกเมื่อขาดคุณสมบัติตามข้อ 6.1 เกินกว่า 1 ปี แต่ทั้งนี้ ถ้าสมาชิกผู็นั้นคือคุณสมบัติตามข้อ 6.1 แล้ว ให้ยื่นหลักฐานต่อนายกสมาคมเพื่อขอกลับเข้าเป็นสามัญสมาชิกต่อไปทันที
หมวดที่ 4 ค่าจดทะเบียนและค่าบำรุง
ข้อ 1 ค่าจดทะเบียนและค่าบำรุง มีดังนี้
11.1 ค่าจดทะเบียนเป็นสมาชิกสามัญและวิสามัญ คนละ 200 บาท
11.2 ค่าบำรุงสมาชิก สมาชิกสามัญต้องชำระเป็นรายปีๆ ละ 300 บาท ชำระครั้งเดียวตลอดชีพ 5,000 บาท สมาชิกวิสามัญต้องชำระเป็นรายปีๆ ละ 400 บาท ถ้าชำระครั้งเดียว ตลอดชีพ 6,000 บาท การชำระค่าบำรุงต้องชำระล่วงหน้า และเป็นหน้าที่ของสมาชิกต้องปฏิบัติแก่สมาคมฯ
หมวดที่ 5 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
ข้อ 12 สมาชิกสามัญย่อมมีสิทธิ ดังนี้
12.1 ได้รับประโยชน์ในการสงเคราะห์ตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารกำหนดไว้
12.2 ได้รับประโยชน์ในการส่งเสริมสมรรภาพและภราดรภาพ
12.3 ใช้สถานที่ของสมาคมในการ พบปะและสื่อข่าว สมาชิกทุกคนมีสิทธิพาบุคคลภายนอกเข้ามาในสมาคมได้ แต่สมาชิกต้องรับผิดชอบในความเสียหายอันเกิดจากบุคคลภายนอกซึ่งตนพาในสมาคม
12.4 มีสิทธิประดับเครื่องหมายของสมาคมได้
12.5 เสนอความคิดเกี่ยวกับกิจกรรมของสมาคมต่อนายกสมาคม ถ้าเป็นความคิดเห็นที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับสมาชิกส่วนใหญ่ ก็ให้นายกสมาคมพิจารณาเสนอต่อกรรมการบริหารเพื่อเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ 12.6 สามัญสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ขณะนั้น มีสิทธิให้นายกฯ เรียกประชุมใหญ่วิสามัญได้ แต่ในหนังสือร้องขอนั้นให้ระบุไปว่าประชุมใหญ่ในญัตติใดเมื่อนายกสมาคมฯ ได้รับหนังสือร้องขอดังกล่าว ให้เสนอต่อคณะกรรมการบริหาร และต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญภายในกำหนด 30 วัน
12.7 ใช้สิทธิเลือกและรับเลือกเป็นกรรมการบริหารของสมาคม
ข้อ 13 สมาชิกวิสามัญมีสิทธิดังนี้
13.1 ใช้สถานที่ของสมาคมเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
13.2 มีสิทธิประดับเครื่องหมายของสมาคมได้
13.3 เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมของสมาคมต่อนายกสมาคม
13.4 ได้รับประโยชน์ในการส่งเสริมสมรรถภาพ
ข้อ 14 สมาชิกมีหน้าที่ปฏิบัติตามข้อบังคับของสมาคมและระเบียบการที่ขัดต่อข้อบังคับของสมาคม
ข้อ 15 สมาชิกทุกคนต้องรักษาผลประโยชน์และเกียรติคุณของสมาคม
ข้อ 16 สมาชิกต้องปฏิบัติหน้าที่ และบำเพ็ญตนให้เป็นไปตามจริยธรรมของสมาคมโดยเคร่างครัด
หมวดที่ 6 วันสิ้นสุดสมาชิก
ข้อ 17 สมาชิกภาพสิ้นสุดลงเมื่อ
17.1 ตาย
17.2 ลาออก
17.3 เป็นบุคลไร้ความสามารถตามคำสั่งศาล
17.4 ถูกลบชื่อออกจากทะเบียน
ข้อ 18 สมาชิกถูกลบชื่อออกจากทะเบียนตามมติของคณะกรรมการบริหารเมื่อ
18.1 ปฏิบัติหน้าที่หรือบำเพ็ญตนผิด จริยธรรมที่วางไว้
18.2 ประพฤผิดศีลธรรมหรือวัฒนธรรมอันดี จนสังคมไม่พึงปรารถนา
18.3 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีอาญา เว้นจากความผิดมาจากการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับวิชาชีพ ความผิดทางการเมือง ความผิดฐานลหุโทษหรือความผิดฐานประมาท
ข้อ 19 สมาชิกที่ถูกกล่าวหาให้ลบชื่อออกจากทะเบียนมีสิทธิ์มาชี้แจงต่อคณะกรรมการคณะบริหารตามกำหนดที่คณะกรรมการตามนัดหมาย และมีสิทธิยืนตามคำร้องเป็นหนังสือหรือยื่นด้วยตนเองต่อข้อกล่าวหาที่ตนถูกกล่าวหานั้น
ข้อ 20 ผู้ที่ถูกลบชื่อออกจากทะเบียน ไม่มีสิทธิจะสมัครเป็นสมาชิกอีกจนกว่าจะเป็นเวลา 2 ปี ไปแล้ว และถ้าถูกลบชื่อออกจากทะเบียนเป็นครั้งที่ 2 ไม่มีสิทธิจะสมัครเป็นสมาชิกได้
ข้อ 21 สมาชิกที่ค้างชำระค่าบำรุงตามข้อบังคับของสมาคมหรือหนี้สินอย่างอื่นของสมาคมให้เหรัญญิกมีหนังสือเตือนไปครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ให้มีระยะห่างกัน 15 วั ถ้าสมาชิกผู้นั้นไม่ชำระ ถือว่าผู้นั้นขาดจากสมาชิกภาพ
ข้อ 22 ผู้ที่ขาดจากสมาชิกภาพตามความในข้อ 21 ถ้าประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกใหม่จะต้องชะระเงินค่าบำรุงและหนี้สินอื่นๆ ที่ค้างจนครบถ้วน
ข้อ 23 ให้นายกสมาคมประกาศชื่อผู้ที่ขาดจากการเป็นสมาชิกภาพไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ทำการนายกสมาคมและต้องเสนอชื่อต่อที่ประชุมใหญ่สามัญสมาชิกทุกคราว
หมวดที่ 7 คณะกรรมการ
ข้อที่ 24 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง จำนวน 15 คน เป็นผู้บริหารกิจกรรมของสมาคม ตามข้อบังคับประกาศด้วยตำแหน่งดังนี้
24.1 นายก
24.2 อุปนายก
24.3 เลขาธิการ
24.4 เหรัญญิก
24.5 ปฏิคม
24.6 บรรณารักษ์
24.7 นายทะเบียน และกรรมการอื่นๆ อีก 8 คน
ข้อ 25 กรรมการบรหารของสมาคมต้องเป็นสามัญสมาชิก
ข้อ 26 ผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทยและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภูมิภาคทุกฉบับ เป็นกรรมการที่ปรึกษาของคณะกรรมการบริหารโดยต่ำแหน่ง แต่ไม่มีสิทธิออกเสียง
ข้อ 27 กรรมการบริหารของสมาคมย่อมพ้นต่ำแหน่งโดย
27.1 ถึงคราวออกตามวาระ
27.2 ตาย
27.3 ลาออก
27.4 ขาดจากสมาชิกภาพ
27.5 ขาดการประชุมคณะกรรมการบริหารเป็นเวลา 3 คราวติดต่อกัน โดยไม่แจ้งให้นายกสมาคมทราบ
ข้อ 28 คณะกรรมการบริหารสมาคม มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
28.1 บริหารกิจการของสมาคมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของข้อบังคับของสมาคม
28.2 วางระเบียบการต่างๆ ที่ไม่ข้ดต่อข้อบังคับของสมาคม
28.3 แต่งตั้งคณะกรรมการควบคุม จริยธรรม กรรมการสวัสดิการสงเคราะห์ กรรมการฝ่ายวิชาการและอนุกรรมการ เพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดของสมาชิกตามที่เห็นสมควร
28.4 ช่วยเหลือติดต่อให้ความสะดวกต่อสมาชิกในการปฏิบัติหน้าที่ และการให้สวัสดิการตามวัตถุประสงค์ของสมาคม
ข้อ 29 คณะกรรมการบริหารอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี เริ่มต้นและสิ้นสุดตามปีปฏิทินแต่ในระหว่างที่คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ยังไม่ได้รับตำแหน่ง ให้คณะกรรมการบริหารชุดเดิม บริหารกิจการต่อไปจนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ทั้งนี้ให้ส่งและรับหน้าที่ระหว่างกรรมการบริหารชุดใหม่กับชุดเก่าภายในกำหนดเวลา 30 วัน
ข้อ 30 นายกสมาคมเป็นผู้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเพพื่อปรึกษากิจการของสมาคมเดือนละ 1 ครั้ง จำนวนหนึ่งของกรรมการบริหารเป็นองค์ประชุม การพิจารณาปัญหาใดๆ ให้ถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ ถ้าเสียงเท่ากัน ให้ประธานเป็นผู้ชี้ขาด
ข้อ 31 คณะอนุกรรมการซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริหารมีอำนาจดำเนินกิจการตามที่ได้รับใอบหมายอละอำนาจวางระเบียบการสำหรับกิจการนั้นๆ ได้ แต่ต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับของสมาคมระเบียบการดังกล่าว เมื่อได้รับอนุญาตจากนายกสมาคมแล้ว จึงใช้บังคบได้ และให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของระเบียบสมาคม
ข้อ 32 นายกสมาคมมีหน้าที่และอำนาจการบริหารงานของสมาคม บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สมาคมตามตำแหน่งต่างๆ ให้เป็นไปตามข้อบังคับและวัตถุประสงค์ของสมาคม
ข้อ 33 อุปนายกมีหน้าที่ทำกิจการงานแทนนายก ในเมื่อนายกไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ข้อ 34 เลขาธิการมีหน้าที่จัดให้จดรายงานการประชุม ดูแลรัษาสมุดทะเบียนและสรรพเอกสารทรัพย์สินต่างๆของสมาคม ติดต่อกับสมาชิกตามคำสั่งนายกสมาคม และทำกิจการอย่างอื่นที่มิได้กำหนดไว้ว่าเป็นหน้าที่ของผู้ใดโดยเฉพาะควบคุมดูแลและจัดกิจการของสมาคม
ข้อ 35 เหรัญญิกมีหน้าที่เก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของสมาคมให้อยู่ในสภาพมั่นคง
ข้อ 36 บรรณารักษ์มีหน้าที่จัดสรรให้ได้มาและตลอดทั้งดูแลรักษาสรรพหนังสือและห้องสมุดของสมาคม
ข้อ 37 นายทะเบียนมีหน้าที่จัดทำและเก็บรักษาไว้ซึ่งทะเบียนของสมาชิก
ข้อ 38 ปฏิคมมีหน้าที่ต้อนรับสมาชิกและผู้มาเยี่ยมเยียนสมาคม
ข้อ 39 เงินของสมาคมให้ฝากธนาคารซึ่งคณะกรรมการบริหารมีมติเห็นชอบ
ข้อ 40 การเบิกเงินจากธนาคารต้องให้นายก เหรัญญิก ลงลายมือชื่อร่วมกันและต้องประทับตราสมาคม
ข้อ 41 นายกสมาคมฯ มีอำนาจสั่งจายเงินตามวัตถุประสงค์ของสมาคมได้ไม่เกินครั้งละ 10,000 บาทและให้รายงานการใช้จ่ายเงินต่อคณะกรรมการบริหาร ในการประชุมครั้งต่อไป การจ่ายเงินเกินกว่า 10,000 บาท ให้เป็นมติของคณะกรรมการบริหาร
ข้อ 42 เหรัญญิกจะเก็บเงินสดไว้ได้ไม่เกิน 5,000 บาท หากเกินกว่านั้นต้องนำฝากธนาคาร
หมวดที่ 8 การเลือกคณะกรรมการบริหาร
ข้อ 44 นายกสมาคมฯ ให้เลือกจากสามัญสมาชิกในคราวประชุมใหญ่สามัญโดยวิธีให้สมาชิกสามัญเสนอชื่อมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 5 คน และลงคะแนนโดยวิธีเขียนชื่อผู้ถูกเสนอผู้ใดได้คะแนนสูงถือว่าได้รัเลือกเป็นนายกสมาคมฯ ถ้าคะแนนเท่ากันให้มีการลงคะแนนใหม่เฉพาะผู้ที่มีคะแนนมาเป็นอันดับแรกเท่านั้น แต่หากคะแนนยังเท่ากันอีก ให้ใช้วิธีจับฉลาก ผู้ถูกเสนอชื่อเข้ารับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมฯและกรรมการของสมาคมฯ ต้องปราฎอยู่ในที่ประชุม และผู้ใดจะดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯติดต่อกันเกิน 2 สมัย ไม่ได้
ข้อ 45 การเลือกกรรมการบริหารสมาคมฯ นอกจากนายกฯ ให้สมาชิกสามัญเสนอชื่อ มีสมาชิกสามัญรับรองไม่น้อยกว่า 2 คน ใช้วิธีลงคะแนนโดยเขียนชื่อผู้ถูกเสนอ ผู้ใดได้คะแนนสูงสุดตั้งแต่อันดับหนึ่งถึงเก้าถือว่าเป็นผู้รับเลือกเป็นกรรมการ ถ้าคะแนนเท่ากันให้มีการลงคะแนนใหม่ สำหรับผู้ที่มีคะแนนเท่ากันในอันดับท้ายกลุ่มอีกครั้ง แต่หากยังคะแนนเท่ากันอีก ให้ใช้วิธีจับฉลาก กรรมการส่วนที่เหลืออีก 5 คนนั้นนายกสมาคมฯ เป็นผู้แต่งตั้ง
ข้อ 46 ให้นายกที่ได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ เลือกกรรมการบริหารตามตำแหน่งต่างๆ จากกรรมการที่ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่จากคณะกรรมการ ส่วนกรรมการที่นายกสมาคมเป็นผู้เลือกตามข้อ 45 เพื่อมาบริหารงานของสมาคม
ข้อ 47 ถ้าตำแหน่งนายกสมาคมต้องว่างลงก่อนถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการบริหารประชุมปรึกษาเลือกตั้งนายกสมาคมใหม่จากคณะกรรมการ ส่วนกรรมการที่ว่างลงก่อนถึงคราวออกวาระให้คณะกรรมการมีมติแต่งตั้งจากสมาชิกคนใดคนหนึ่งเข้าดำรงตำแหน่งแทน
หมวดที่ 9 การประชุมใหญ่
ข้อ 48 การประชุมใหญ่สามัญประจำปี ให้คณะกรรมการเรียกประชุมภายในเดือนมีนาคมทุกๆ ปี เพื่อรับรองงบดุลของสมาคม พิจารณาญัตติอื่นๆ โดยนายกเป็นประธานในที่ประชุม
ข้อ 49 ในการประชุมใหญ่สามัญหรือวิสามัญ ถ้าสมาชิกไม่ครบองค์ประชุด ก็ให้เลื่อนการประชุมออกไปภายใน 15 วัน ในการประชุมครั้งนี้ ถ้าสมาชิกมาประชุมเท่าใดก็ถือเป็นองค์ประชุมได้
ข้อ 50 การประชุมใหญ่สามัญหรือวิสามัญ ต้องมีสมชิกไม่น้อยกว่า 1 ใน3 ของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุมได้
ข้อ 51 ในการประชุมใหญ่สามัญหรือวิสามัญ เมื่อนัดเวลาได้แล้วหากเกินเวลาไป 1 ชั่วโมงจำนวนสมาชิกซึ่งเข้าประชุมยังไม่ครบถ้วนเป็นองค์ประชุมให้เลิกการประชุม
หมวดที่ 10 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับ
ข้อ 52 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับหรือเพิ่มเติมข้อบังคับนี้ จะกระทำได้โดยมติที่ประชุมใหญ่และโดยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกที่เข้าประชุม
ข้อ 53 ญัตติขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับนี้ ต้องมาจากคณะกรรมการบริหารจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการทั้งหมด หรือมาจากสามัญสมาชิกไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้า ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ในขณะนั้นในกรณีที่สมาชิกเสนออญัตติขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมแก้ไขข้อบังคับ ให้ยื่นต่อนายกสมาคมฯ และเมื่อนายกสมาคมฯ ได้รับญัตติแล้ว ให้เสนอต่อคณะกรรมการบริหารพิจารณาให้ความเห็นชอบ เมื่อคณะกรรมการเห็นชอบแล้ว ให้นายกสมาคมฯ เรียกประชุมวิสามัญภายในกำหนด 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ
หมวดที่ 11 เบ็ดเตล็ด
ข้อ 54 การติดต่อกับสมาชิก ให้นายกสมาคมติดต่อไปยังตำบลที่อยู่หรือที่ทำการที่มีสมาชิกแจ้งไว้ถ้าทำดังนั้นไม่ได้ให้ปิดประกาศเรื่องติดต่อกับสมาชิกผู้นั้นไว้ ณ สำนักงานสมาคมก็ได้ เมื่อประกาศครบ 15 วันแล้ว ให้ถือว่ามีการติดต่อกันตามข้อบังคับนี้แล้ว
ข้อ 55 ถ้าสมาคมมีอันเป็นไปต้องเลิกกิจการ การชำระบัญชีหนี้สินให้เป็นไปตามกฎหมาย ทรัพย์สินของสมาคมที่เหลือจากการชำระบัญชี ให้โอนเป็นสมบัติขององค์กรการกุศลสาธารณองค์กรใดองค์หนึ่ง
หมวดที่ 12 บทเฉพาะกาล
ข้อ 56 ภายหลังจากที่ได้รับอนุญาตจากราชการให้ก่อตั้งสมาคมแล้ว ให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมและคณะกรรมการตามข้อบังคับนี้ภายใน 30 วัน
ข้อ 57 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมตามข้อบังคับนี้ ให้มีผลหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ตามข้อบังคบการประชุมและได้รับอนุญาตจากทางการในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับตามกฎหมาย