เตือนพ่อแม่ระวังภัย เรื่อง… ทำร้ายสมองลูก
- ระวัง! การเขย่าตัวเด็ก การจับลูกทารกมาเขย่าอย่างแรง โดยเฉพาะพ่อแม่ หรือผู้ดูแลที่มีอารมณ์โกรธ หรือหงุดหงิดกับการร้องไห้ของลูก และต้องเขย่าเพื่อให้เด็กเงียบ การกระทำโดยรู้ไม่เท่าทันนี้ หารู้ไม่ว่า อาจส่งผลให้เกิดเลือดออกในสมอง และประสาทตาของเด็ก ทำให้เด็กพิการทางสมอง ตาบอด หรือ เสียชีวิตได้ ดังนั้น ห้ามจับทารกเขย่า! เป็นอันขาด
- ระวัง! จมน้ำ การจมน้ำเป็นอุบัติเหตุอันตรายที่ทำให้เด็กพิการ หรือเสียชีวิตสูงเป็นอันดับหนึ่ง และมักเกิดขึ้นกับเด็กที่เริ่มเคลื่อนตัวได้ ซึ่งมักเกิดเหตุในแหล่งน้ำใกล้บ้าน หรือสระว่ายน้ำที่เด็กๆ ไปเล่น
- ระวัง! สิ่งอุดตันทางเดินหายใจ เด็กทารกอายุ 3-6 เดือนขึ้นไป จะเรียนรู้สิ่งแวดล้อมด้วยการเอาทุกสิ่งที่สนใจเข้าปาก ส่วนเด็กวัยเตาะแตะที่ฟันเริ่มขึ้น และเคลื่อนไหวอยู่ไม่นิ่ง มักจะถือของไว้ในมือ พร้อมกับกินไปพลาง ซุกซนไปพลาง ซึ่งอาจทำให้อาหาร หรือสิ่งแปลกปลอมสำลักอุดตันทางเดินหายใจ ส่งผลให้สมองพิการ หรือเสียชีวิตได้เพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น ดังนั้น อย่าให้เด็กอยู่กับสิ่งของชิ้นเล็กเพียงลำพัง เช่น ของใช้ ของเล่น หรือของกินบางอย่าง อาทิ ผลไม้ที่เป็นลูกๆ อย่าง ลำไย น้อยหน่า ลิ้นจี่ เป็นต้น
- ระวัง! ลูกพลัดตกจากที่สูง เด็กทารกแม้ยังเดินไม่ได้ แต่ก็สามารถพลิกหงาย และถีบตัวเองขึ้นได้ การวางลูกน้อยวัยแรกเกิดไว้บนเตียง โซฟา โต๊ะ หรือแม้เพียงชั่วขณะเพื่อไปทำธุระ อาจเป็นเหตุให้ลูกพลัดตกได้
- ระวัง! เฟอร์นิเจอร์…อันตราย เมื่อลูกเข้าสู่วัยเตาะแตะ จะเป็นเด็กช่างสำรวจ และชอบปีนป่ายซุกซน จุดต่างๆ ในบ้าน หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ที่เคยดูปกติดี ก็อาจกลายเป็นจุดอันตรายสำหรับลูกได้ ดังนั้น การจัดบ้าน ควรเลือกโต๊ะที่เป็นรูปทรงกลม หรือรูปไข่ ไม่มีกระจก เพื่อจะได้ไม่มีขอบหรือมุมแหลมคมที่ลูกอาจเดินหรือวิ่งเข้ามาชน ควรซื้ออุปกรณ์กันกระแทกมุมขอบโต๊ะใส่ทั้ง 4 มุม ตู้เก็บของ หรือชั้นวางของทั้งที่มีหรือไม่มีลิ้นชักต้องแข็งแรง วางบนพื้นราบ มีอุปกรณ์ยึดติดกับกำแพงที่มั่นคง ไม่ล้มง่ายเมื่อเด็กเข็น ดัน โหน หรือปีนป่าย เพราะไม่เช่นนั้น เด็กอาจถูกเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นล้มทับจนเป็นอันตรายต่อศีรษะและสมองได้
มีเด็กเล็กๆอยู่ในบ้าน อย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาดนะคะ เพราะเรื่องอันตรายบางอย่าง เราอาจมองข้ามไป