การประยุกต์กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
“การชนเพื่อสำรวจ”บนดาวหางเทมเพลวัน(Tempel 1)ประสบความสำเร็จ
นักวิทยาศาสตร์ของนาซ่าต่างพากันดีใจเมื่อพวกเขาพบเห็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่เย็นจัดพวยพุ่งออกมาจากหัวของดาวหาง หลังจากยานลำน้อยที่เรียกว่า “อิมแพ็กเตอร์” (impactor) ปะทะเข้ากับดาวหางตรงบริเวณที่ต้องการไว้อย่างพอดิบพอดี เมื่อเวลา 13.52 น. วันที่ 4 กรกฎาคม ตามเวลาในประเทศไทย
นอกจากนี้พวกเขายังพบกับความประหลาดใจกับขนาดของการชนที่ใหญ่เกินคาดพร้อมกับความสว่างของสิ่งที่ระเบิดออกมาซึ่งเกินคาดเช่นเดียวกัน
จากภาพที่บันทึกและส่งมายังโลกโดยยานอวกาศลำแม่ ดีพ อิมแพ็ก (Deep Impact) ซึ่งคอยสังเกตการณ์อยู่ที่ระยะปลอดภัย ยานอิมแพ็กเตอร์ซึ่งเป็นยานลำลูกที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันก่อนได้ชนเข้ากับนิวเคลียสของดาวหางเทมเพลวัน ที่ความเร็วสัมพัทธ์ระหว่างกัน 37,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และตามมาด้วยการพวยพุ่งเป็นเปรย์ของชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่เย็นจัดในปริมาณมากและสว่างจ้า
“มันชนได้ตรงจุดที่เราตั้งใจไว้เลยทีเดียว” นี่เป็นคำกล่าวโดย ดร. โดนัลด์ ยีโอแมน นักวิทยาศาสตร์ของปฏิบัติการนี้ที่ศูนย์ปฏิบัติการการขับดันไอพ่น (Jet Propulsion Laboratory) ขององค์การนาซ่า ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมยานอวกาศในปฏิบัติการนี้ “มันสว่างจ้าและมีสิ่งที่หลุดออกมามากกว่าที่ผมและพวกเราส่วนใหญ่คาดกันไว้ เราจะได้รับข้อมูลทั้งหมดเท่าที่เราจะเรียกหาจากมันได้”
เป็นที่เชื่อกันว่าดาวหางหรือที่หลายคนเรียกมันว่าเป็น “ลูกบอลน้ำแข็งโสโครก”ยักษ์ บรรจุสสารที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงอันใดตั้งแต่การก่อกำเนิดเกิดขึ้นของระบบสุริยะเมื่อราวสี่หมื่นหกพันล้านปี (4.6 พันล้านปี) ก่อน (อายุของเอกภพประมาณ 14 พันล้านปี)
นักวิทยาศาสตร์หวังว่าการที่ได้กะเทาะผิวของดาวหางเทมเพลวันออกมา จะทำให้พวกเขาได้รับข้อมูลใหม่เกี่ยวกับส่วนประกอบดั้งเดิมของระบบสุริยะและบางทีอาจจะได้ข้อมูลที่ช่วยตอบคำถามที่ว่าชีวิตอุบัติขึ้นได้อย่างไร และนี่คือที่มาของโครงการมูลค่า 333 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 13,000 ล้านบาท)
ผู้ที่ทำงานในปฏิบัติการณ์นี้ต่างพากันปรบมือพร้อมทั้งส่งเสียงดีใจและสวมกอดกันเมื่อเห็นภาพแรกของการชนปรากฏผ่านทางห้องควบคุมที่ศูนย์ปฏิบัติการการขับดันไอพ่นซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ชาร์ลส เอลลัชชี ผู้อำนวยการของศูนย์ปฏิบัติการการขับดันไอพ่นกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในตอนแรกผมกล่าวไว้ว่างานนี้เป็นงานที่มีความเสี่ยงมาก และตอนนี้พวกเราได้ประสบกับความสำเร็จแล้ว”
“เรากำลังทำงานที่จะเปิดขอบเขตใหม่ในการสำรวจอวกาศ และเมื่อเราได้วิเคราะห์ข้อมูลแล้ว เราจะมีความเข้าใจใหม่ ๆ ในเรื่องของเอกภพ”
หลังจากยานอวกาศ ดีพ อิมแพ็กซึ่งบรรทุกยานอิมแพ็กเตอร์มาด้วยถูกปล่อยให้เดินทางในอวกาศมาเป็นเวลาเกือบ 6 เดือนไปยังจุดที่ห่างจากโลกประมาณ 133 ล้านกิโลเมตร ยานอิมแพ็กเตอร์ซึ่งมีส่วนใจกลางเป็นทองแดงและมีขนาดใกล้เคียงตู้เย็นและมีมวล 372 กก. ก็ถูกปล่อยมา ราวบ่ายโมงในวันอาทิตย์ (ตามเวลาในไทย) และวิ่งเข้าไปดักหน้าด้วยระบบนำทางอัตโนมัติโดยจับเป้าหมายตรงจุดที่อยู่บนฝั่งที่แสงอาทิตย์ส่องลงบนก้อนนิวเคลียสของดาวหาง เพื่อให้ดาวหางพุ่งเข้าชนด้วยความแรงเท่ากับระเบิดไดนาไมต์ 4.5 ตัน ในขณะที่ยานลำแม่คอยสังเกตการณ์ด้วยกล้องถ่ายรูป ที่ระยะห่างประมาณ 500 กม.
การชนได้เกิดขึ้นไปแล้วเมื่อเวลา 13.52 น. วันที่ 4 กรกฎาคม ตามเวลาในประเทศไทย และเป็นไปตามที่ผู้ปฏิบัติการได้กำหนดไว้ นอกจากผลของการชนที่ตามมาดังที่กล่าวไว้แล้ว ยานลำแม่ก็สามารถอยู่รอดปลอดภัย ไม่ได้รับอันตรายอันใดอย่างที่หลายคนกังวล โดยมีเกราะป้องกันตัวซึ่งออกแบบเพื่อป้องกันสิ่งที่ระเบิดออกมา
ในช่วง 2 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนการชน ยานอิมแพ็กเตอร์ซึ่งมีแหล่งพลังงานในตัวเป็นแบตเตอรีได้ถ่ายภาพพื้นผิวดาวหางไว้ในขณะที่ดาวหางใกล้เข้ามา และภาพสุดท้ายถูกถ่ายได้ก่อนการปะทะเข้ากับดาวหางเพียง 3.7 วินาที โดยภาพต่าง ๆ ที่ถ่ายได้แสดงให้เห็นถึงพื้นผิวของนิวเคลียสของดาวหางที่ดูละม้ายกับพื้นผิวดวงจันทร์ซึ่งประกอบด้วยบริเวณที่เป็นพื้นผิวแบนราบ, บริเวณที่เป็นหลุมกลม ๆ และบริเวณที่เป็นสันยาว ๆ และมีรูปร่างแปลกประหลาด นอกจากนี้บางภาพได้แสดงให้เห็นว่ายานอิมแพ็กเตอร์ได้เข้าปะทะดาวหางตรงบริเวณกึ่งกลางระหว่างหลุมขนาดกว้างสองสามกิโลเมตร 2 หลุม
มันจะใช้เวลาสองสามวันในการดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมดจากการสังเกตการณ์โดยยาน ดีพ อิมแพ็ก จากนั้นนักวิทยาศาสตร์จะใช้เวลาอีกหลายเดือนในการวิเคราะห์ข้อมูล
ในขณะที่นักวิจัยยังไม่แน่ใจว่าขนาดของบาดแผลที่อิมแพ็คเตอร์ได้ก่อไว้บนผิวดาวหางเทมเพลวันมีขนาดเท่าใด มันเป็นได้ตั้งแต่บ้านหลังโต ๆ หลังหนึ่งไปจนถึงสนามฟุตบอล พวกเขาอาจจะได้รับประโยชน์จากการสังเกตการณ์โดยกล้องโทรทรรศน์ต่าง ๆ บนพื้นโลก รวมถึงกล้องสำรวจอวกาศฮับเบิล (Hubble), สปิตเซอร์ (Spitzer) และจันทรา (Chandra) ซึ่งเป็นขององค์การนาซ่าเอง และอาจจะรวมถึงยานอวกาศลำต่าง ๆ อีกด้วย