ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




N.G.P. องค์กรเอกชนที่ไม่ใช่ภาครัฐเพื่อประชาชน

N.G.P. องค์กรเอกชนที่ไม่ใช่ภาครัฐเพื่อประชาชน

      ระบบราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทส. ฉาว รีสอดหวังน้ำเขียวส่งส่วยเดือนละล้าน หากส่วยทั่วประเทศไทยจะเป็นจำนวนเท่าไร ข้าราชที่ดี  แฉ กรมป่าไม้ กรมอุทยาฯ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมควบคุมมลพิษ, คพ. และกลุ่มN.G.O.ชั่วรับเงินต่างชาติ นายทุนชาติ นายทุนผูกขาด สุมหัว ปล้นทรัพยากรของชาติทั้งประเทศและต่อต้านคัดค้านทำลาย ผู้ลงทุนระดับกลางระดับรากหญ้าในยุคก่อนรัฐบาลปู คอรัปชั่นทุกรูปแบบ หากสอบย้อนหลัง นักการเมืองและข้าราชการระดับสูง จะต้องมีคดีอาญาเกือบทุกคน

     ประชาชนนักธุรกิจ ภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ผู้ลงทุนการท่องเที่ยวทั่วไป ต่างวิจาน์กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ สัตว์ป่า  ระบบราชการ ป่าหมดเพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูง ต้องแก้ด้วยการมีส่วนร่วมภาคประชาชนที่แท้จริง ตามกฎหมายรัฐธรรมนูณ  โดยออกกฎหมายลูก แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบ ระบบราชการ ต้องแต่งตั้ง N.G.P.องค์กรประชาชนที่ไม่ใช่ภาครัฐ ที่มีสมาชิกทั่วประเทศ (มิใช่องค์จับฉ่ายมีสมาชิกเพียงไม่กี่คน) เข้าเป็นกรรมการตรวจสอบ ระบบราชการกระทรวงที่มีการทุจริตติดอันดับ ฉาวๆๆๆๆ ทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด ปัจจุบัน ระบบราชการ การมีส่วนร่วมภาคประชาชน นักการเมืองและข้าราชการระดับสูง เจ้าเล่หลอกลวงประชาชน โดยแต่งตั้งองค์กรภาคประชาชน หน่วยราชการต่างๆส่วนใหญ่ เป็นองค์กรของกลุ่มพวก หรือตั้งองค์กรขึ้นมาโดยนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง เพื่อต้มตุ๋นประชาชนทั้งชาติ และผสมโรงร่วมผลประโยชน์ N.G.O. ที่มีสมาชิกไม่กี่คน และรับเงินต่างชาติ นายทุนชาติ นายทุนผูกขาดของไทย ฉนั้น การอ้างประชาชนมีส่วนร่วมภาคประชาชน ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ไม่จริงใจต่อประชาชน แล้วออกนโยบาย ระเบียบ กฎหมาย อำนาจดุลพินิจ   ป่าเมืองไทยจึงหมด และการคอรัปชั่นจาก 20% เป็น 50% นักการเมือง ข้าราชการเฉพาะทีมงานชั่ว N.G.O.เลว กระทรวงดังกล่าว แม้คนเดินหนังสือ ยังร่วยผิดปกติ

สรุปข้อมูล ประกอบโดยคณะทีมที่ปรึกษา  www.legendnews.net

อดีต ที่ปรึกษากรรมมาทีการชายแดน รัฐสภา

ประธานเครือข่าย สภาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ กาญจบุรี

ประธานวุฒิคลังสมอง กาญจบุรี

อดีต หอการค้า กาญจบุรี

อดีต ประธานอนุกรรมการดูแลปัญหาเหมืองแร่ สภาการเหมืองแร่

ที่ปรึกษา สมาคมหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (กาญจบุรี)

 หมายเหตุ ขอขอบคุณข้าราชการที่ดี ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ขอมูล www.legendnews.net

หากท่านไดมีข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ กรณี ทุจริตคอรัปชั่น กลั่นแกล้งรังแกประชาชนไทย หรือเป็นสิ่งที่เป็นโยชน์ต่อประชาชนชาวไทย โปรดส่งอีเมล์ จดหมาย โทรศัพท์ มายังคณะทีมงาน ขอบคุณอย่างสูง

 

 

 

 

 

ชมรมคนรักเกาะสุรินทร์
 
รักนะ ... เกาะสุรินทร์

Home | Activity | Article | Webboard | Guestbook



ใบไม้ผลัดใบ

ข่าวสด 5 ต.ค.49


ที่กองบัญชาการกองทัพบก ได้แจกจ่ายคำสั่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ที่ 1 /2549 เรื่องให้ราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีใจความว่า เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์แก่ราชการ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ จึงมีคำสั่งให้ นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช(นักบริหาร 10) มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้รับเงินเดือนตามสังกัดเดิมไปพลางก่อน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 1 ต.ค.2549 ลงนามโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ

เวลา 15.00 น. นายดำรงค์ พิเดช เดินทางมายังชั้น 17 อาคารที่ทำการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซอยอารีสัมพันธ์ เพื่อรายงานตัวและรับทราบคำสั่งย้ายจากพล.อ.สนธิ โดยกล่าวว่า เพิ่งได้รับคำสั่งเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันเดียวกัน และรีบเดินทางมารายงานตัวและจะต้องรีบเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนตัวอาจจะรู้สึกเสียใจบ้าง แต่ในเมื่อเป็นข้าราชการก็ต้องนิ่งและเตรียมพร้อมกับการโยกย้ายอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว และกล่าวลาผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้คงจะไปอยู่ไกลกว่าเดิม

ด้านนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายดำรงค์เดินทางเข้ารายงานตัวว่า ขณะนี้มีคำสั่งให้นายสมชัย เพียรสถาพร รักษาการอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไปรักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ แทนนายดำรงค์ ตำแหน่งที่ชัดเจนจะต้องรอการตั้งครม.ชุดใหม่ เมื่อถามว่าคำสั่งจากคณะมนตรีความมั่นคงฯ ดังกล่าวได้ระบุถึงเหตุผลการสั่งย้ายนายดำรงค์หรือไม่ นายปีติพงศ์กล่าวว่า หนังสือไม่ได้ระบุเหตุผลที่ชัดเจน คำสั่งนี้ตนก็ไม่ทราบมาก่อนเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่กรมอุทยานฯ หลังประกาศคำสั่งของคมช. ย้ายนายดำรงค์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของข้าราชการอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมามีข่าวลือเป็นระยะๆ ว่าจะมีการโยกย้ายนายดำรงค์ หลังจากที่คปค.เข้ามาบริหารประเทศ โดยคปค.ได้สอบถามข้อมูลของบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรมว.ทส. นายดำรงค์เองก็ทราบว่าอาจต้องถูกโยกย้ายเข้ามาอยู่ในตำแหน่งผู้ตรวจการกระทรวง แต่ไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องไปช่วยราชการในทำเนียบรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ข้าราชการภายในกรมอุทยานฯ ส่วนใหญ่มองว่า อีกสาเหตุที่นายดำรงค์ถูกย้าย เนื่องจากช่วงเวลา 1 ปีที่นายดำรงค์ เข้ามาเป็นอธิบดีได้ออกคำสั่งโยกย้ายตำแหน่งสำคัญๆ ของกรมจำนวนมาก โดยเฉพาะการย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ 127 อัตรา เมื่อช่วงกลางปี"48 โดยเชื่อว่ากลุ่มที่เข้ามารับตำแหน่งที่สูงขึ้นส่วนใหญ่เป็นพวกพ้อง และกลุ่มที่ใกล้ชิดกับนายยงยุทธ ล่าสุด มีการแต่งตั้งข้าราชการระดับ 8 และ 9 กระทั่งมีการร้องเรียนไปยัง คปค. ทำให้นายปีติพงศ์ต้องเซ็นคำสั่งยกเลิกการแต่งตั้งอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา

จากคุณ : พะยูนเกยตื้น green_turtle_60@hotmail.com  [05 Oct 2006 - 12:15:54]

 

ความคิดเห็นที่ 1



จากคุณ : LuFaus nill1046@hotmail.com  [05 Oct 2006 - 12:39:54]

 

ความคิดเห็นที่ 2

มติชน

ถึงยุคสะสางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : คอลัมน์ กวนตะกอน


คงยังไม่มีใครลืมวิกฤตการณ์น้ำแล้งที่ภาคตะวันออก เมื่อปี 2547 โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ระยอง แล้งขนาดหนัก เพราะฝนไม่ตกติดต่อกันนานนับครึ่งปี คราวนั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรน้ำ ภายใต้นโยบายของอดีตรัฐมนตรี ยงยุทธ ติยะไพรัช ใช้งบประมาณจำนวน 200 ล้านบาท ขุดบ่อบาดาล จำนวน 100 บ่อ ในพื้นที่ อ.สัตหีบ อ.มาบตาพุด เวลานี้บ่อดังกล่าวขุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเอาน้ำออกมาใช้ประโยชน์ได้ เจ้าของโครงการคือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลบอกว่า ต้องรองบประมาณต่อเนื่องเพื่อสูบน้ำจากบ่อบาดาลเหล่านั้นขึ้นมาใช้

สรุปก็คือ ยังไม่มีใครเข้าไปทำอะไรต่อจากนั้น บ่อยังคงเป็นบ่อ น้ำก็อยู่ในบ่อ แต่ชาวบ้านตาดำๆ ก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเงินภาษีจำนวน 200 ล้านบาทที่เสียไปเลย

อีกเรื่องเกี่ยวกับน้ำเหมือนกัน

เมื่อคราวฝนตกน้ำท่วมดินถล่มที่ จ.แพร่ มีท่อนซุงน้อยใหญ่ คิดเป็นปริมาณรวมทั้งหมดประมาณ 60,000 ลูกบาศก์เมตร ไหลลงมาจากภูเขา เข้าไปอยู่ในอ่างเก็บน้ำแม่มาน อ.สูงเม่น และอ่างเก็บน้ำแม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ นานวันเข้าไม้เน่าและส่งกลิ่นเหม็นหึ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้านแถบนั้นอย่างยิ่ง

อดีตรัฐมนตรี ทส.ทำเรื่องของบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมจำนวน 115 ล้านบาท เพื่อขอเก็บไม้ออกจากอ่าง กองทุนสิ่งแวดล้อมยอมอนุมัติโดยดี เป็นโครงการแรกในรอบหลายๆ ปี ที่ได้เงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อมและได้มากขนาดนี้ เงินดังกล่าวเอามาจ้างชาวบ้านเก็บไม้จากน้ำและขนไม้ไปไว้ที่บริษัทไม้อัดไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่แสวงผลกำไรภายใน ทส.นั่นเอง

บริษัทไม้อัดไทยได้ไม้เหล่านั้นไปฟรีๆ โดยเอาไปแปรรูปแล้วก็นำมาขายในตลาดได้อีกต่อหนึ่ง

เงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อม ที่ว่าเหนียวนักเหนียวหนา ในการจะเจียดจ่ายให้ใครสักราย เพราะระเบียบ ค่อนข้างแข็ง คือ คณะกรรมการกองทุนจะพิจารณาให้เฉพาะการจัดการมลพิษโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การส่งเสริม การอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายใต้กระบวนการความร่วมมือขององค์กรชุมชนและประชาชน เพื่อเสริมงานของรัฐโดยส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การศึกษาวิจัยโดยส่วนราชการ องค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม และภาคเอกชน การดำเนินกิจกรรมเพื่อป้องกัน เฝ้าระวัง และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายใต้กระบวนการความร่วมมือขององค์กรชุมชน ประชาชน โดยองค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น

แต่กรณีขนไม้กลิ่นเหม็นออกจากอ่างเก็บน้ำแม่จั๊วะ เข้าข่ายแค่กรณีเดียว คือ เพื่อป้องกันรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมเท่านั้น

ที่สำคัญคือ มีคำถาม ถามว่า กรณีนี้ทำไมบริษัทไม้อัดไทยจึงไม่ยอมลงทุนอะไรเอง ในเมื่อวัตถุดิบที่ได้มาก็ได้ฟรีๆ

มีใครอยู่เบื้องหลัง ข่มขู่ บังคับให้คณะกรรมการกองทุนทำเช่นนี้หรือเปล่า

ท่านรัฐมนตรี เกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ก็เคยเป็นประธานกองทุนสิ่งแวดล้อม สมัยที่ยังเป็นปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม น่าจะพอรู้อะไรบ้าง

ทส.จะสะอาด ก็คงต้องปัดกวาดสะสาง ตามล้าง ตามเช็ด เอาตัวคนทุจริตคิดไม่ซื่อ โดยเอาช่องว่างทางกฎเกณฑ์ที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์

คนเหล่านี้ต้องจับมาลงโทษเสียให้เข็ดหลาบ






เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน