ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




เสียงสะท้อนของพ่อแม่..หาก "แป๊ะเจี๊ยะ" ถูกเปิดเสรี! article

เสียงสะท้อนของพ่อแม่..หาก "แป๊ะเจี๊ยะ" ถูกเปิดเสรี!

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศธ.
       กลายเป็นประเด็นร้อนที่มีการถกเถียงกันมาระยะหนึ่งแล้ว หลังจากที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ออกมาเสนอแนวคิดว่า เมื่อไม่สามารถปิดกั้นเรื่องแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินให้เปล่าได้ก็ต้องคิดนอกกรอบให้สิ่งที่หลบ ๆ ซ่อน ๆ ขึ้นมาบนดิน ทำให้หลาย ๆ ฝ่ายมองว่า ขัดกับบทบาทหน้าที่ของกระทรวงครูที่ควรสนับสนุนด้านการศึกษามากกว่าออกมายอมรับ และส่งสัญญาณไฟเขียวให้กับแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินให้เปล่า ถึงแม้จะอ้างว่าเป็นการเปิดโอกาสให้พ่อแม่ที่พร้อมจ่าย เพื่อโอกาสที่ดีของลูก และไม่ใช่เป็นการจ่ายโดยมีเงื่อนไขก็ตาม
       

       
       ในกรณีดังกล่าวนี้ คุณพ่อปู-วันชัย บุญประชา เลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ได้ให้ความเห็นว่า หากมีการเปิดเสรีแป๊ะเจี๊ยะจะยิ่งทำให้เกิดการแบ่งชนชั้นมากขึ้น ไม่มีความเป็นธรรมทางการศึกษา เกิดการรวมศูนย์อำนาจทางการศึกษา และไม่มีการกระจายทรัพยากรและความรู้ออกไปให้ทั่วถึง ส่งผลให้โรงเรียนมีชื่อเติบโต และขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีเงินอุปถัมภ์จากพ่อแม่ที่อยากให้ลูกมีที่นั่ง ในขณะที่โรงเรียนโนเนมกลับนิ่งอยู่กับที่ ขาดครู และสื่ออุปกรณ์การเรียนที่ดี เพราะไม่มีครู และพ่อแม่วิ่งเข้าไปหา
       
       พร้อมกันนี้ ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า หากแนวคิดนี้เกิดขึ้นจริง ไม่อยากจะคิดต่อไปเลยว่า อนาคตของประเทศชาติจะเป็นอย่างไร เพราะถ้ามีการเปิดเสรีให้จ่ายเงินแป๊ะเจี๊ยะได้ เด็กที่เข้าสู่สถานศึกษาได้ด้วยการฝาก หรือจ่ายเงินแทนความสามารถ เป็นไปได้ที่เด็กจะซึมซับติดตัวไปใช้เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ และกลายเป็นผู้ที่ใช้วิธีการติดสินบนในที่สุด นอกจากนี้ยังปลูกฝังให้เด็กมองว่า เงินซื้อได้ทุกอย่าง ดังนั้นจึงไม่ต้องขวนขวาย หรือใช้ความพยายาม ทำให้เด็กเติบโตอย่างไม่มีคุณภาพ
       
       "เรากำลังสร้างค่านิยม และแบ่งชนชั้นกันหรือเปล่า เด็กรวยเท่านั้นเหรอที่จะเข้าโรงเรียนดี ๆ ได้ แล้วเด็กฐานะยากจนล่ะ ถ้าเขามีความสามารถ แต่ไม่มีเงิน กลับถูกเด็กฝากเบียดเบียนที่ นี่คือความเท่าเทียมกันทางสังคมที่รัฐบาลเคยบอกว่าอยากเห็นหรือเปล่า อีกอย่างการนำสิ่งที่หลบ ๆ ซ่อน ๆ ขึ้นมาทำให้เหมาะสม และบอกว่าเป็นการคิดนอกกรอบ ตรงนี้กรอบของคุณเองมากกว่า ผมอยากให้ทบทวน และค่อย ๆ หันมาบริหารวิธีคิดอย่างเป็นระบบ พยายามทำงานแบบกระจายความเท่าเทียม ไม่ใช่กระจุกอยู่แต่โรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง ซึ่งต้องทำให้พ่อแม่เห็นว่านอกจากโรงเรียนดัง ๆ ในกทม.แล้ว ยังมีโรงเรียนอื่น ๆ ที่มีความพร้อมและคุณภาพใกล้เคียงกันอยู่" คุณพ่อปูให้ทัศนะ พร้อมทั้งเสนอแนวทางในสิ่งที่อยากจะเห็นจากรัฐบาลชุดนี้

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
       ด้าน คุณพ่อเป้-กิตติภัต ลักษณพิสุทธิ์ ให้ความเห็นต่อกรณีนี้ว่า รัฐมีหน้าที่สนับสนุนด้านการศึกษา การทำเช่นนี้เหมือนผลักภาระให้กับผู้ปกครอง และทำให้ขาดความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงการศึกษาด้วย เชื่อว่ายังมีอีกหลายประการที่รัฐสามารถคิด และหาทางช่วยเหลือด้านการศึกษาได้ น่าจะหันมาให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านั้นมากกว่าเพื่อคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้น และทำให้เด็ก ๆ ได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันด้วย
       
       ขณะที่ คุณแม่จารุวรรณ ลอยพิพันธ์ แสดงความเห็นด้วยน้ำเสียงจริงว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะนำสิ่งผิดมาทำให้ผิดยิ่งขึ้นไปอีก เพราะจะทำให้เงินเป็นใหญ่ ขาดความเท่าเทียมกันในสังคม ถึงแม้การจ่ายไม่ได้มีเงื่อนไขแลกกับการรับเข้าเรียน แต่ก็เลี่ยง และเป็นไปได้ยากอยู่ดี ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
       
       "เราไม่รู้ว่าเขาคิดได้อย่างไร หรือใช้อะไรคิด คุณเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา คุมนโยบายการศึกษาให้กับเด็กทั่วประเทศ คุณมีหน้าที่พัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดี เพราะการศึกษาคือการพัฒนาชาติ แต่นี่คุณกำลังเปิดโอกาสให้คนมีเงินเป็นใหญ่ และกำลังกีดกันความเท่าเทียมกันในสังคม ใครมีเงินคนนั้นเสียงดังกว่า หรือฉันมีเงิน ลูกฉันต้องมีที่นั่ง ซึ่งมันไม่ใช่" คุณแม่จารุวรรณให้ความเห็นแบบตรงไปตรงมาถึงความผิดหวังที่คนคุมการศึกษาของชาติมีแนวคิดเช่นนี้

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
       ปิดท้ายกันที่ คุณพ่อบิ๊ก-พงษ์ระพี เตชพาหพงษ์ ผู้เขียนหนังสือเด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ ให้ความเห็นว่า รู้สึกประหลาดใจกับแนวคิดของเจ้ากระทรวงศึกษาธิการ เพราะการส่งสัญญาณให้แป๊ะเจี๊ยะ หรือเงินให้เปล่า เปรียบเสมือนเพิ่มการกีดกันโดยทุนให้มีมากขึ้นในสังคม และเป็นไปได้ที่โรงเรียนดัง ๆ จะขึ้นเพดานแป๊ะเจี๊ยะให้สูงขึ้น ใครใคร่จ่าย จ่าย ใครมีเงินสูงมีสิทธิมากกว่า
       
       "การศึกษาไทยมันไปกันใหญ่แล้ว ผมไม่ตกใจนะที่ได้ยินข่าวนี้ แต่ประหลาดใจมากกว่า เพราะแทนที่จะพัฒนาการศึกษาไทยให้มีคุณภาพ แต่ผู้ใหญ่กลับใช้กลไกการตลาดเข้ามาจับการศึกษา เพราะแน่อยู่แล้วว่าโรงเรียนดัง ๆ มีอำนาจเหนือผู้ปกครอง ใครมีเงินก็ได้เรียน ไม่มีก็ถอยไป เกิดภาวะพลเมืองชั้น 1 ชั้น 2 หากแนวคิดเปิดเสรีแป๊ะเจี๊ยะเป็นจริง ยิ่งทำให้พ่อแม่ที่มีลูกเก่ง แต่ไม่มีเงินโวยวายได้ยากขึ้น เพราะมันเปิดเสรีแล้วไง ใครจะทำอะไรได้"
       
       ดังนั้น คุณพ่อบิ๊ก มองว่า รัฐบาลต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แทนที่จะหยิบปลายเหตุของปัญหาแล้วบอกว่าคิดนอกกรอบ ซึ่งมันไม่ใช่ ทางที่ดีควรเปิดทางเลือกให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองโดยที่ช่องทางนั้นไม่ถูกกีดกันโดยทุน เช่น ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนต่างจังหวัดให้มากขึ้น มีการกระจายเทคโนโลยีทางการศึกษาเพื่อให้เด็กเข้าถึงได้เท่าเทียมกัน รวมทั้งต้องทำให้เด็กต่างจังหวัดเชื่อมั่นในการเรียนการสอนของโรงเรียนในจังหวัดตัวเอง เพราะเด็กต่างจังหวัดส่วนใหญ่กลัวเด็กกรุงเทพฯ จึงทำให้เกิดวังวนของการแข่งขันด้วยการไปเรียนพิเศษเพื่อจะได้สอบเข้าโรงเรียนดัง ๆ ได้ และถ้าคาดหวังจนสอบไม่ติด ระบบแป๊ะเจี๊ยะก็จะกลับมาเป็นตัวเลือกหนึ่งของพ่อแม่บางท่านที่มีเงิน และอยากให้ลูกได้มีที่นั่งในโรงเรียนดัง ๆ
       
       "ส่วนอีกทางหนึ่งที่จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้ ผมมองว่า ควรส่งเสริม และให้ความรู้พ่อแม่เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนให้ลูกที่บ้าน หรือที่หลาย ๆ คนคุ้นชื่อกันดีว่า โฮมสคูลนั่นเอง ซึ่งเราไม่ได้บอกว่าพ่อแม่ทุกคนต้องทำ แต่อย่างน้อย ๆ พ่อแม่ที่พร้อม หากสนใจก็จะได้ไม่ต้องไปแข่งขัน หรือแย่งที่นั่งให้เสียเวลา เพราะบางโรงเรียนมีการเรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะราคาสูง ๆ ก็เพื่อคัดเลือกเด็กสังคมเดียวกันได้มาอยู่ด้วยกัน พูดง่าย ๆ คือ เด็กรวยอยู่กับเด็กรวย ใครไม่รวยไม่มีสิทธิ์อย่างนี้เป็นต้น แบบนี้สังคมก็จะยิ่งแบ่งพรรคแบ่งพวก นี่คือสิ่งที่สังคมควรจะเป็นหรือเปล่า" คุณพ่อบิ๊กทิ้งท้ายถึงรัฐบาลให้กลับไปทบทวนถึงการพัฒนาการศึกษาอย่างเป็นระบบ




ข้อคิดมุมมอง เชื่อหรือไม่ สาระน่ารู้ เรื่องจริง หรือหลอกลวง (พุทธวจน การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก)

ข้อควรระวังในการซื้อของออนไลน์ article
ซื้อของออนไลน์โปรดระวัง article
5 สุดยอด SELF-TRANSFORM เปลี่ยนตัวเองให้ตื่นเช้า เป็นที่รัก ตัดสินใจเด็ดขาด article
‘กฎ 20 วินาที’ ใช้ความขี้เกียจให้เป็นประโยชน์ article
ไม่ต้องฉลาดกว่าใคร เอาแค่ ‘ฉลาดกว่าตัวเอง’ ก็พอ article
เกิดมาต้นทุนต่ำ ก็รวยได้ ทำแบบนี้ article
อาชีพ ที่ทำรายได้สูงสุด ในปี2021 article
ใครเป็นคน ลิขิตชีวิตคุณ article
4 คุณสมบัติที่บ่งชี้ว่าคุณมี "วุฒิภาวะ" article
4 วิธี "ดึงดูดเงินเข้ามาในชีวิต" article
4 สิ่งที่ควรจำ เพื่อจะทำให้ "สำเร็จ" article
เหตุผลที่ทำให้คุณเป็นคนไม่มั่นใจ article
ทำตัวยังไง ? ให้มีเสน่ห์ article
27 ข้อคิด ในชีวิต 27 ปี article
จะเริ่มรับรู้คุณค่าในตัวเองอย่างไร จากที่ Low Self-Esteem มาทั้งชีวิต article
กลับมารักตัวเองอย่างไรหลังผูกชีวิตติดกับคนอื่น? จัดการความรู้สึกเมื่อถูกทักว่าอ้วน? article
ถ้าสมองสั่งให้รักเงิน จะทำให้อย่างไรมีความสุขนอกจากการใช้เงินบ้าง article
วิธีแก้ท้อที่ดีที่สุด article
5 soft skills ที่เป็นที่ต้องการที่สุดในยุคนี้ article
วิธีเด็ดสลัดอารมณ์หรือความคิดที่เราไม่ชอบ article
คิดจะ “ฆ่าตัวตาย” มีทางออกที่ง่ายกว่านั้นเยอะ article
เลิกกันแล้วยังเกลียดชัง~ระวังลูกจะมีปัญหา!!! article
สังคมเลว...เพราะคนดีท้อแท้!!! article
เปลี่ยนคำพูดธรรมดาให้มีคุณค่าทางใจ article
บอกข้อผิดพลาดโดยไม่ยั่วโมโหอีกฝ่าย article
การโน้มน้าวใจแบบไม่กดดัน สบายใจทั้งเขาและเรา article
เคล็ดลับความมั่นใจคือ "เห็นคุณค่าในตัวเอง" article
4 สิ่งที่ควรจำ เพื่อจะทำให้ "สำเร็จ" article
5 สิ่ง "ทรงคุณค่าที่คนธรรมดาก็ทำได้" article
20 อย่างที่แสดงว่าคุณเติบโตแล้ว และกำลังมีชีวิตที่ดี article
คำถามสำคัญคือ “จะลงมือเมื่อไรดี” article
เอาชนะตัวเอง article
ถ้าอยากมีความสุขขึ้น อย่าพูดแบบนี้ article
ใครติดโซเชียลจนไม่ได้ทำสิ่งที่ควรทำ..แก้ได้ article
คนแบบนี้ยังไงก็มีความสุข article
ทำดีเอาหน้า อย่างนี้ก็ได้หรอ ! article
ถ้าฝึกนิสัยนี้ ยังไงก็ไม่ ล้มเหลว article
เด็กรุ่นใหม่ ไม่มีสมาธิ จริงหรือ ? article
ความรัก article
อิสระภาพกับการตามใจ article



เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน