นางเฉิน เซวี่ยนเม่ย พลเมืองดี ช่วยเหลือเด็กจีน 2 ขวบ ถูกรถทับ

จีนชื่นชมป้าเก็บขยะ ช่วยเด็ก2 ขวบถูกรถทับ บางส่วนอ้าง มองไม่เห็นเด็ก

Mthainews: สื่อของจีนรายงานว่า หลายภาคส่วนได้ชื่นชม นางเฉิน เซวี่ยนเม่ย วัย 57 ปี  ป้าเก็บขยะ และมอบเงินรางวัล ในฐานะที่เป็นคนช่วยเหลือ เข้าไปอุ้ม เด็กหญิง เยวี่ย เยวี่ย วัย 2 ขวบ ที่ถูกรถทับถึง 2 ครั้ง แต่ไม่มีผู้ใดรีบเข้าไปช่วย ที่เมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้ง ก่อนที่เด็กจะอาการโคม่า และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

โดยนาย กั่วหยู ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานเขตฝอซาน  หนานไห่ ได้มอบเงินของรัฐและที่รวบรวมจากประชาชนเพื่อตอบแทนความดีให้แก่ นางเฉินเป็นจำนวนกว่า  20,000 หยวน แและทางรัฐบาลท้องถิ่นได้แถลงชื่นชมนางเฉิน ซึ่งปัจจุบันทำงานรับจ้างเป็นแม่บ้านในตอนเช้าให้กับบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง และออกเก็บเศษขยะรีไซเคิลในตอนบ่าย โดยใช้ชีวิตอาศัยอยู่กับลูกชาย แต่นางเฉินก็มอบเงินที่ได้ให้กับแม่ของหนูน้อย พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุว่า

วันนั้น เธอเดินเก็บเศษวัสดุอุปกรณ์ที่คนทิ้งในตลาด เมื่อเห็นร่างหนูน้อยนอนอยู่กลางถนน ก็รีบเข้าไปช่วยอุ้ม แต่ได้ยินเสียงกรี๊ดร้องเบาๆ ดวงตาของเด็กปิดไปข้างหนึ่ง และมีน้ำตาและเลือดไหลออกมาจากจมูก ปาก และศีระษะ เมื่ออุ้มเด็กขึ้นมา สภาพเด็กไร้เรี่ยวแรง อ่อนไปหมด จากนั้นจึงลากออกมาจากถนน พร้อมกับเรียกหาคนช่วยเหลือ

“ฉันไม่กลัวว่าปัญหาภายหลังที่ตามมา เพียงแต่รู้สึกว่า ต้องรีบช่วยเด็กก่อน “เธอกล่าว

นางเฉิน กลายเป็นที่สนใจจากสื่อหลายสำนักทั่วประเทศ  โทรศัพท์มือถือมีการติดต่อเข้ามาแทบไม่ขาดสาย แต่ก็ยังยืนยันว่า ไม่ต้องการโด่งดัง มีชื่อเสียง สิ่งที่ทำนั้น เป็นสิ่งเล็กๆที่เพียงแค่ต้องการช่วยเหลือเด็กเท่านั้น ไม่ต้องการอะไรนอกเหนือจากนี้

มีการเผยแพร่เรื่องราวอันเศร้าสลดนี้ไปทั่วโลก สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยให้กับผู้คนที่ทำเมินเฉย ไร้มนุษยธรรม มีการตั้งคำถามกันว่า เหตุใด ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเป็นสิบกว่าคนจึงไม่เข้าไปช่วยเหลือเด็กทั้งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีการเปิดเผยตัวผู้ที่เดินผ่านไปมา 3 ราย ซึ่งสองคนในนี้กล่าวว่า พวกเขามองไม่เห็นหนูน้อยในขณะนั้น ขณะที่คนอื่นๆก็รู้สึกผิด และสงสาร

ขณะที่คนขับรถทั้งสองคัน ได้ถูกจับกุมควบคุมตัวแล้ว โดยคนขับรถคันที่สองถูกจับ ในวันที่ 13 ต.ค. ส่วนคนขับรถคันแรก ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่สูญเสียไปสำหรับผู้เป็นแม่ของหนูน้อย เยวี่ย เยวี่ย คงไม่มีอะไรมาทดแทนได้