ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




ล่าระทึกโจรปล้นทอง 1 นาทีกวาด 1 ล้าน จนมุมพร้อมของกลาง

ล่าระทึกโจรปล้นทอง 1 นาทีกวาด 1 ล้าน จนมุมพร้อมของกลาง


โจรปล้นทองยังคงอาละวาดไปทั่วไม่นานมานี้เกิดเหตุคนร้าย 5 คน ควงปืนบุกปล้นร้านทองในอ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช กวาดทองรูปพรรณน้ำหนักเกือบ 40 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หลบหนีไป

แต่ทว่าคนร้ายหนีไม่รอด ถูกตำรวจตามจับกุมได้ทีละราย พร้อมยึดของกลางกลับคืนมาได้จำนวนหนึ่ง ตำรวจจึงอายัดตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พวกนี้ให้การรับสารภาพว่าร่วมกันปล้นเพื่อหาเงินใช้ วางแผนอย่างเป็นขั้นตอน มีคนดูต้นทาง คนขับรถ มือปืน และคนกวาดทองคำ คิดว่าเป็นวิธีที่หาเงินง่ายจึงก่อเหตุร้าย

สุดท้ายก็หนีไม่พ้นคุก!?!

เหตุปล้นสะท้านเมืองเกิดขึ้นตอนเย็นวันที่ 1 ต.ค. ที่ห้างทอง ก.ไทยยินดี 3 ตั้งอยู่เลขที่ 25 ม.1 ต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช มีเหตุคนร้ายบุกปล้นทองเกิดขึ้น หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรม ราช พ.ต.อ.พัฒนวิทย์ เสรีสกุลพัฒน์ ผกก.สภ.หัวไทร พ.ต.ท. ธงชัย เพชรแก้ว รอง ผกก.สส. จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

งานนี้คนร้ายตบหน้าตำรวจฉาดใหญ่ เพราะร้านทองเป้าหมายอยู่ห่างจากสภ.หัวไทร ไปเพียง 20 เมตรเท่านั้น ที่นั่นพบนางพรรณี ซ้ายอิ่ม อายุ 33 ปี ลูกจ้างในร้าน รอให้การด้วยอาการละล่ำละลักเล่าว่า ขณะยืนขายทองอยู่มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 3 คน สวมแว่นตาดำเดินเข้ามาในร้านพร้อมกัน จากนั้นจึงสวมหมวกไหมพรม ชักอาวุธปืนลูกซองสั้น และปืน .38 อีก 2 กระบอก ออกมาจี้ ก่อนใช้ค้อนทุบตู้กระจกกวาดเอาทองคำน้ำหนัก 37.5 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หลบหนีขึ้นรถกระบะขับออกไป

ส่วนกล้องวงจรปิดนั้นยังอยู่ระหว่างการติดตั้งยังไม่แล้วเสร็จเพราะร้านเพิ่งเปิดใหม่

จึงไม่สามารถบันทึกภาพคนร้ายเอาไว้ได้!??

ตํารวจรีบขยายผลทันใด พยานระบุว่าคนร้ายมาด้วยกัน 5 คน บุกเข้าไปในร้าน 3 คน รอดูต้นทางในรถ 2 คน ใช้รถกระบะนิสสันบิ๊กเอ็ม สีเขียว ทะเบียน กจ 762 พัทลุง ขับหลบหนีไปทางต.เขาพังไกร ตำรวจหัวไทร จึงประสานตำรวจสภ.ระโนด จ.สงขลา และสภ.ป่าบอน จ.พัทลุง ร่วมไล่ล่าคนร้าย

กระทั่งตามไปพบรถคนร้ายถูกจอดทิ้งไว้ริมถนนข้างทุ่งนาบริเวณ ต.ตะเครียะ อ.ระโนด จ.สงขลา ตรวจค้นพบเสื้อผ้าที่คนร้ายเปลี่ยนไว้พร้อมหลักฐานเอกสารที่ระบุชื่อเสียงเรียงนามอีกมากมาย โดยคนร้ายวิ่งเตลิดหลบหนีลงทุ่งนา เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมและสามารถจับกุม นายสมยศ หรือ "ตั้ม" จันทร์แดง อายุ 25 ปี ไว้ได้เป็นรายแรก ก่อนตะครุบตัว นายชานนท์ หรือ นายพิจารึก ดำฝ่าย อายุ 24 ปี เอาไว้ได้เป็นรายที่สอง พร้อมของกลางทองรูปพรรณอีกหลายรายการ

ตำรวจนำตัวมาเค้นขยายผล

สองคนร้ายให้การว่าร่วมกันวางแผน ปล้นทองร้านนี้มานานแล้ว ที่ตัดสินใจเลือกร้านนี้ เพราะเห็นว่าน่าจะลงมือง่าย ถึงแม้จะใกล้โรงพักก็ตาม บางทีการที่ร้านทองอยู่ใกล้โรงพักเจ้าของอาจประ มาทก็ได้ นอกจากพวกตนแล้วยังมี นายเอกทำหน้าที่ขับรถ นายสีทำหน้าที่กวาดทอง นายเล็กทำหน้าที่ใช้ปืนจี้และทุบกระจกฉกทอง

"ตอนนั้นพวกเราคิดว่าจะหนีพ้น เพราะใช้เวลาลงมือเพียงนาทีเศษๆ เท่านั้น หลังได้ทรัพย์สินก็รีบขับรถหลบหนีไปทางต.เขาพังไกร อ.หัวไทร ไปออกต.ตาเครียะ อ.ระโนด จ.สงขลา แต่เพราะไม่ชำนาญเส้นทาง จึงหลง เข้าไปกลางทุ่งนาซึ่งเป็นทางตัน ทำให้ไม่มีทางหลบหนีต่อได้ จึงทิ้งรถไว้ก่อนจะวิ่งลงไปในทุ่ง กระทั่งถูกตำรวจปิด ล้อมจับกุมในที่สุด" คือคำให้การของคนร้าย

หลังจากนั้นนายสมยศพาเจ้าหน้าที่ไปค้นหาทองที่เหลือ ประกอบด้วย แหวนทองคำ 13 วง ตุ้มหูทองคำ 4 คู่ รวมทั้งอาวุธปืนที่ซุกซ่อนไว้ในดงกล้วย ก่อนพาไปชี้จุดลงมือปฏิบัติการ

ตำรวจบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนคนร้ายที่เหลือตำรวจรู้ตัวหมดแล้ว กระจายกำลังบล็อกตามจุดต้องสงสัยว่าคนร้ายจะหนีไปกบดาน พร้อมประสานไปยังทุกพื้นที่เพื่อกดดันคนร้ายอีกทาง ขณะที่พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติออกหมายจับไปพร้อมกัน

งานนี้ตำรวจต้องฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้ประกอบการร้านค้าทองทั้งหลาย ว่าต้องวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้องวงจรปิดต้องพร้อมใช้งานทุกเมื่อ เพราะจะเป็นหลักฐานสำคัญในการใช้ติดตามล่าตัวคนร้ายหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ควรเพิ่มมาตรการป้องกันตามที่นิยมทำกัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งประตูล็อกอัตโนมัติ การติดตั้งเหล็กดัดในร้าน แม้จะเป็นอุปสรรคกับการค้าขายบ้าง แต่เพื่อความปลอดภัย ควรทำไว้เพื่อไม่ประมาท และถ้าจะให้ดีควรติดตั้งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังโรงพักหรือสถานีตำรวจใกล้เคียงเพื่อส่งสัญญาณเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน

เพราะสมัยนี้ไว้ใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!?!







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน