จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่รวบสองหนุ่มวิ่งราวทรัพย์ขี่ฟีโน่เลือกเหยื่อสาว

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 ที่สภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.สุนทร กมลพันธฤกษ์ รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.ต.มนตรี ชุติพงศ์วิเวก รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก แถลงข่าวจับกุม สองผู้ต้องหา ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในเขตอ.เมืองพิษณุโลก พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ ทะเบียน ขนฉ 20 พิษณุโลก 1 คัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อแบล็คเบอร์รี่ 1 เครื่อง กระเป๋าถือแบบสตรีสีน้ำตาล 1 ใบ พร้อมเอกสารของเหยื่อที่ถูกวิ่งราวทรัพย์ และโน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง สว่านไฟฟ้า 1 เครื่อง

      คนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่จนมุมตำรวจ 2 ราย คือนายชัยสิทธิ์ มระกรณ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 297/113 ถ.พิชัยสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก เคยทำงานเป็นลูกจ้างบริษัท จำกัดปลวก นายแสงชัย แสงดี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 902 ม.1 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ทำงานเป็นพนักงานเปิดประตูต้อนรับรร.อมรินทร์นคร ทั้งคู่ มีภูมิลำเนาอยู่ต.หนองตม อ.พรมพิราม จ.พิษณุโลก

      พฤติกรรมของคนร้ายทั้งสองจะเลือกก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เหยื่อที่เป็นผู้หญิง ที่ขี่รถจักรยานยนต์ในตัวเมืองพิษณุโลก จะคอยสังเกตและติดตามเหยื่อที่มาคนเดียว และมักจะวางกระเป๋าสะพาย หรือทรัพย์สินในตระกร้าหน้ารถ เมื่อสบโอกาส จะขี่ตาม แล้วกระชากกระเป๋าของเหยื่อไป ขณะที่ช่วงก่อเหตุ คนร้ายทั้งสอง ก็จะนำดินโคลนมาป้ายบริเวณทะเบียนรถ เพื่อไม่ให้เหยื่อจดจำทะเบียนได้

      โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 เวลาประมาณ 22.00 น.น.ส.ลลิตา ทองวิจิตร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/110 ม.5 ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก ถูกคนร้ายทั้งสองวิ่งราวกระเป๋าสะพายและโทรศัพท์มือถือในเขตอ.เมืองพิษณุโลก ต่อมาเวลา 23.00 น.วันที่ 22 พฤศจิกายน 2554 จนท.ตร.จราจรสภ.เมืองพิษณุโลก ได้ตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรบริเวณวงเวียนสถานีรถไฟพิษณุโลก ทั้งคู่ขี่รถคันก่อเหตุมาที่ด่านตรวจ และตร.เห็นทั้งสองมีพิรุธ ป้ายทะเบียนก็นำโคลนมาทำอำพรางไว้ ตร.จึงตรวจค้นในรถ พบบัตรประชาชนของน.ส.ลลิตา และโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ เมื่อเค้นความจริง ทั้งคู่ก็ยอมรับกับตร.ว่าก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์น.ส.ลลิตาริง นอกจากนี้ ทั้งคู่รับสารภาพว่าก่อนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์น.ส.ลลิตา ได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เหยื่อไปแล้ว 1 ราย ที่ถ.ทิพย์เสา ต.ในเมืองพิษณุโลก และเมื่อตรวจค้นห้องพักของทั้งคู่ ก็พบของกลางสว่านไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ที่นายชัยสิทธิ์ ไปขโมยมาจากบริษัทจำกัดปลวกที่เคยทำงานอยู่