จ.ระยอง พนักงาน ธกส.ระยอง ใช้ภรรยาเป็นนกต่อ เชิดเงินกว่า 10 ล้าน

พนักงานสินเชื่อธนาคาร ธกส.ระยอง ใช้ภรรยาเป็นนกต่อล่อเหยื่อกู้เงินลงทุนร่วมธนาคาร เชิดเงินกว่า 10 ล้าตามล่า..เจ้าหน้าที่สินเชื่อ พัฒนาธุรกิจ 7 บ้านฉาง ระยอง ให้ภรรยาช่างเสริมสวยหลอกเหยื่อแม่บ้านนักธุรกิจ และภรรยาชาวต่างชาติลงทุนร่วมธุรกิจธนาคาร ระยะลงทุนแรก ๆ จ่ายดอกเบี้ยงาม เหยื่อกว่า 10 ราย หลงเชื่อทุ่มเงินทุนรวม กว่า 10 ล้าน เจอเชิดหนีลอยนวล

      ร.ต.ท.วชิรวิทย์ บุญสม ร้อยเวร สภ.เมืองระยองได้รับแจ้งจาก นางอวยพร ฤทธิชัย อายุ 45 ปี เลขที่ 66/35 หมู่ 3 ต. พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นักธุรกิจในจังหวัดระยอง นำเช็คธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)สาขาระยอง เช็คเลขที่ 2417004 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 จำนวนเงิน 1,000,000 บาท โดยนายธนภัทร หรือ อ้วน สุขลัด พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)ตำแหน่งพัฒนาธุรกิจ7 หน่วยอำเภอบ้านฉาง เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คเงินสดดังกล่าว หลังนำเช็คไปเบิกเงิน ถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจากเงินในบัญชีไม่พอจ่าย นางอวยพร เปิดเผยว่าก่อนหน้าที่จะรู้จักนายธนภัทร สุขลัด หรืออ้วน พนักงานธนาคาร ธกส.สาขาระยอง ได้ไปเสริมความงามที่ร้านเสริมสวย” จาซาลอน” ของนางสัจจา สุขลัด อายุ 42 ปี ภรรยา นายธนภัทร หรืออ้วน สุขลัด ตั้งอยู่ ต.บ้านฉาง จนเป็นลูกค้าประจำ นางสัจจาได้พูดคุยว่าสามีทำงานธนาคาร ธกส.สาขาระยอง มีลูกค้าธนาคาร ไม่สามารถนำเงินที่กู้จากธนาคารมาชำระได้ตามกำหนด หากใครมีเงินและสนใจที่จะให้กู้ยืมเงินบ้าง ก็จะให้สามีไปพบและเจรจาเรื่องรายละเอียด หลังจากนั้นนางสัจจาได้พานายธนภัทร สามีมาทำความรู้จักและแวะเวียนไปมาหาสู่เป็นประจำ จนเกิดความสนิทสนมจนกระทั่งนายธนภัทร ได้เอ่ยปากว่าเป็นพนักงาน ธกส.สาขาระยอง มีลูกค้าต้องการจะกู้เงินเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ธนาคาร ธกส. ซึ่งตนเองเป็นพนักงาน ธกส.จะเป็นผู้ทำสัญญากู้เงินให้พร้อมเขียนเช็ค ธกส.ชำระเงินให้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน เพราะเป็นพนักงานธนาคารและเป็นผู้กู้เงิน ทำให้ตนหลงเชื่อจึงให้เงินไปดำเนินการ ระยะแรกๆก็นำเงินมาคืนให้ตามสัญญา พร้อมดอกเบี้ย พร้อมขอกู้เพิ่มครั้งละเป็นจำนวนเงินนับล้านบาท เมื่อครบกำหนดก็นำมาชำระตามกำหนดเช่นเดิม และกล่าวอีกว่า แต่หลังจากนั้นก็มาขอกู้เพิ่มอีกหลายครั้งโดยเขียนเช็คเงินสดพร้อมสัญญากู้เงินไว้ให้รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 7,000,000 บาท และเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้นำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินจำนวน 1,000,000 บาท แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจากเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ก็ได้พยายามติดต่อนายธนภัทร และนางสัจจา ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ไปดูที่บ้านปรากฏว่าไม่มีใครอยู่บ้าน ทราบจากชาวบ้านแถบนั้นว่านางสัจจา หลบหนีไปอยู่ที่อื่นแล้ว ส่วนนายธนภัทร สามี ก็ไม่กลับบ้านหลายวันแล้ว จึงต้องมาแจ้งควาดำเนินคดีนอกจากนี้ยังมีชาวบ้านฉางถูกนายธนภัทร กู้เงินไปรายละ 1,000,000 บาทพร้อมทำสัญญากู้เงินอีกจำนวนหลายรายและ เตรียมนำเช็คทยอยเข้าแจ้งความคาดว่ายอดเงินทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท เมื่อเสนอข่าวนี้ออกไปคาดว่าน่าจะมีผู้ที่ถูกนายธนภัทรกู้เงินไปอีกจำนวนหลายราย และผู้ที่ให้นายธนภัทรกู้เงินบางรายเกิดปัญหาภายในครอบครัว เนื่องจากนำเงินของสามีที่เตรียมเงินก้อนไว้ไปซื้อสินค้า นำไปให้นายธนภัทรกู้แล้วถูกเบี้ยวเงินไม่ได้คืน ส่วนทางด้าน นายสันธนะ ราศีแสนสุข อายุ 31 ปี เลขที่ 60/213 หมู่ 5 ต.บ้านฉาง กล่าวว่าถูกนายธนภัทร กู้เงินไปจำนวน 900,000 บาท โดยทำสัญญาไว้เป็นหลักฐานพร้อมเขียนเช็คธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจำนวน 900,000 บาท ไว้ให้ หลังนำเช็คไปเบิกเงินก็ถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะเงินในบัญชีไม่พอจ่าย และสังเกตภายในธนาคารเพื่อการเกษตรฯมีประกาศติดไว้ว่า ธนาคารขอประกาศให้ลูกค้าธนาคารฯได้รับทราบว่าการที่พนักงานธนาคารไปขอกู้ยืมเงินจากลูกค้าหรือขอให้ลูกค้ากู้เงินธนาคารมาให้พนักงาน ถือเป็นการกระทำผิดวินัยธนาคารอย่างร้ายแรง จึงขอให้ลูกค้างดเว้นการให้พนักงานกู้เงินหรือกู้เงินมาให้พนักงาน เพราะธนาคารจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น นอกจากนี้ธนาคารอาจเรียกคืนเงินกู้หรือพิจารณาลดขั้นของลูกค้า ประกาศ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2554 ลงชื่อนายสมพงษ์ เอี่ยมจ้อย ผู้จัดการสาขาระยอง ประกาศฉบับที่สอง ธนาคารขอประกาศให้ลูกค้าธนาคารได้รับทราบว่า นายธนภัทร สุขลัด ตำแหน่งพัฒนาธุรกิจ 7 หน่วยอำเภอบ้านฉาง สาขาระยอง ได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2554 ประกาศ ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2554 ลงชื่อ นายสมพงษ์ เอี่ยมจ้อย ผู้จัดการสาขาระยอง