ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




จ.ชัยภูมิ เด็กหญิงวัย13ปีตกเป็นเหยื่อกามทางเพศมีทั้งครู-ภารโรง-ผช.ผญบ.นานนับปี

จ.ชัยภูมิ เด็กหญิงวัย13ปีตกเป็นเหยื่อกามทางเพศมีทั้งครู-ภารโรง-ผช.ผญบ.นานนับปี

แม่สุดทนพาโร่ขึ้นโรงพักวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งยื่นมือช่วยเหลือด่วน

      ชัยภูมิ / สุดอนาถสังคมฟอนเฟะไปกันใหญ่ ด.ญ.วัย 13 ปี เมืองชัยภูมิ ตกเป็นเหยื่อกามทางเพศ ไม่เว้นครูในโรงเรียน ภารโรง ผู้นำชุมชนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ล่วงละเมิดทางเพศทำอนาจาร ขู่บังคับกังขังข่มขืนมานานนับปี ซ้ำร้ายเหยื่อไร้ทางสู้ยังถูกสังคมล้อมด้านจากผู้กระทำใช้อิทธิพลมืดในชุมชนกลับรุมประณามให้ร้ายโทษเด็กแรดเอง จนทนอยู่ในสังคมใกล้บ้านไม่ไหวต้องขอย้ายตัวเองหนีไปอยู่โรงเรียนอื่นแทน ยังไม่วายถูกตามข่มขู่ราวีหวังบีบบังคับให้บำเรอกามไม่เลิก ตายายแม่เหยื่อเห็นเด็กผิดปกติเค้นถามจึงพึ่งทราบความจริงถึงกลับตะลึงพาขึ้นโรงพักวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือด่วน

      ( 1 ธ.ค.) เหตุการณ์สุดอนาถกลับชีวิตเด็กหญิงวัยเพียง 13 ปี เมืองชัยภูมิ รายนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นจากนางบี (นามสมมุติ) วัย 43 ปี มารดาพร้อมตา และยายวัย 69 ปี ของเธอ พาเข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจ.ชัยภูมิ โดยมีผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ เป็นประธานโดยตำแหน่ง จึงได้มอบหมายให้นางคะนึง ศรีวชิรทานต์ พนักงานคุ้มครองเด็กจังหวัดร่วมกับนายอภิวัฒน์ วิริยาภิรมย์ นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์ และพ.ญ.ประภาพร ชวาฤทธิ์ จิตแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ พาเด็กเข้าตรวจร่างกายและให้การช่วยเหลือเบื้องต้น จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศมานานนับปี

      ซึ่งทางเหยื่อเด็กหญิงวัย 13 ปี รายนี้ และญาติๆต่างยังหวาดผวากับกลุ่มอิทธิพลมืดในท้องถิ่น ซึ่งมีผู้ร่วมกระทำอนาจารส่วนใหญ่ เป็นข้าราชการ และเกี่ยวพันกับนักการเมืองดังในท้องถิ่น จึงไม่กล้าเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ จึงต้องขอความช่วยเหลือไปยัง พ.ต.อ.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ช่วยประสานงานมอบหมายให้ พ.ต.ท.บัญญัติ ทั่งกลาง รอง .ผกก.(สส)สภ.เมืองชัยภูมิ เป็นหัวหน้าชุดช่วยควบคุมร่วมเป็นพนักงานสอบสวนในการร่วมดำเนินคดีควบคู่ไปกับตำรวจในท้องที่เกิดเหตุเพิ่มเติมในคดีนี้อีกด้วย

      ก่อนที่จะได้ประสานไปยังสารวัตรใหญ่หัวหน้าสถานีท้องที่ สภ.ลาดใหญ่ อ.เมืองชัยภูมิ ได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.วรินทร เศรษฐะ รับเป็นพนักงานเจ้าของคดี เพื่อเร่งดเนินการทางกฎหมาย ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เพื่อเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยด่วนต่อไป

      ด้านด.ญ.วัย 13 ปี เหยื่อถูกทารุณกรรมทางเพศมานานนับปีรายนี้ เปิดเผยทั้งน้ำตาตลอดเวลาว่า สาเหตุที่ปัจจุบันต้องขอมารดา และตากับยาย ย้ายมาเรียนอยู่ชั้น ม.2ที่โรงเรียนอื่นต่างตำบล เพราะทนอยู่ในโรงเรียนเดิมไม่ไหว หลังตั้งแต่อยู่ที่โรงเรียนเดิมสมัยตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.1 ก็ถูกครูผู้ชาย 3 คน มักจะเรียกให้เข้าไปหาในห้องพักครู ห้องคอมพิวเตอร์ ยามปลอดคนเพื่อทำอนาจาร ขอบีบจับหน้าอก และล้วงใช้มือสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของเธอมาตลอด และขู่ห้ามไปบอกใคร แลกกับเงินค่าขนมครั้ง 20-50 บาท บ้างมาต่อเนื่อง

      รวมทั้งยังถูกอดีตภารโรงของโรงเรียนก็เคยเรียกเข้าไปขังไว้ในห้องของโรงเรียนเพื่อปลุกปล้ำข่มขืนมาตลอด รวมไปจนถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่ยังถือว่าเป็นญาติแท้ๆของตา และยาย ของเธอเอง ยังหลอกว่าจะให้เงินจำนวน 10,000 บาท ไว้เป็นทุนการศึกษาแต่ให้เข้าไปหาที่บ้านของน้องสาวเขา ในช่วงมีงานศพกลางหมู่บ้าน เมื่อช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ก็ถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรายนี้ลากเข้าไปในห้องนอนเพื่อกักขังข่มขู่บังคับทำร้ายร่างกายข่มขืนมาต่อเนื่องซ้ำอีก จึงไม่กล้าบอกใครพอบอกครูอาจารย์ผู้หญิงในโรงเรียน 2 คนทราบเรื่องเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็กลับถูกเหยียดหยามซ้ำอีกจากอาจารย์ผู้หญิงด้วยกันแท้ๆว่า “หนูแรดเอง เสียอีก” จึงทนอยู่โรงเรียนเดิมไม่ไหวต้องขอย้ายตัวเองไปเรียนที่อื่นแทน และต้องทนเก็บเรื่องนี้เรื่อยมาตลอด

      จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากครูอาจารย์ที่โรงเรียนเดิมไม่หยุดมาต่อเนื่องบ่อยครั้งกล่าวให้ร้ายตนเองมาตลอด จนลือไปทั่วหมู่บ้าน ตากับยาย มาถามจึงต้องยอมบอกความจริง และแจ้งให้แม่ที่ทำงานที่กรุงเทพฯกลับมาพาเข้าแจ้งความครั้งนี้ขึ้น ซึ่งตอนนี้หนูกลัวมากเพราะกลัวเขาจะมาทำร้ายตากับยาย แต่เมื่อได้คุยกับแม่ ซึ่งบอกเรื่องนี้ยอมไม่ได้หากจะให้เป็นอย่างนี้ต่อไปและคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจ.ชัยภูมิ ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือก็สบายใจขึ้น หนูอยากขอความเป็นธรรมให้กับหนูด้วย ตอนนี้ก็อยากจะหนีไปเรียนอยู่ที่อื่นให้ไกลที่อื่น แต่ก็ยังหวงตากับยาย ซึ่งในส่วนของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรายนี้ ก็ยังมีความพยายามที่จะมาชักชวนเพื่อหวังจะพาหนูไปทำแบบเดิมอยู่บ่อยครั้งอยู่ไม่หยุด

      ขณะที่นางบี (นามสมมุติ) วัย 43 ปี มารดาเหยื่อ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องแทบจะขาดใจ เพราะไม่มีเวลาดูแลลูกมาตลอด หลังลูกเกิด พ่อเขาก็ทิ้งหนีหายไปมาตลอด 13 ปี ตนเองก็ต้องขึ้นไปหางานทำที่กรุงเทพฯเพื่อหาเงินส่งมาให้ลูกเรียนที่บ้าน ให้อยู่กับตาและยาย มาตลอด โดยไม่มีเวลาดูแลลูกได้ดีพอเลย ตอนแรกๆพอทราบเรื่องก็กลัวว่าผู้ที่กระทำลูกส่วนใหญ่ค่อนข้างมาอิทธิพลในชุมชนมาก แต่ลูกถูกกระทำขนาดนี้เป็นตายอย่างไรก็ยอมไม่ได้แล้ว ขอดำเนินการให้ถึงที่สุดกลับผู้ที่กระทำทั้งหมดด้วย ซึ่งถ้าปล่อยไปอย่างนี้ ผู้กระทำรายล่าสุดซึ่งถือว่าเป็นถึงผู้นำชุมชน และยังเป็นญาติกันแท้ๆมีลูก มีเมียแล้ว ยังกล้ามาทำกับหลานแท้ๆของตนเองได้อีก

      ด้านร.ต.ท.วิรินทร เศรษฐะ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งบันทึกปากคำเบื้องต้นร้องทุกข์จากมารดาและเด็ก พร้อมพาเด็กไปตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐานที่โรงพยาบาลชัยภูมิ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขบวนการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันศุกร์นี้ เพื่อที่จะได้เร่งออกหมายเรียกผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วนต่อไปในไม่ช้านี้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ผิดต้องว่ากันตามผิดและผู้บังคับบัญชาชั้นสูงในระดับจังหวัดสั่งให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครจะอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้ ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจและให้ความมั่นใจกับเจ้าหน้าที่ในท้องที่ด้วย หากทราบเรื่องไม่มีใครนิ่งนอนใจได้อย่างแน่นอน

      ทั้งส่วนครู ภารโรง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ใครเกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ได้ทั้งหมดด้วย ขึ้นอยู่กับเจ้าทุกข์จะให้ดำเนินการตามกฎหมายได้มากน้อยแค่ไหนในช่วงนี้







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน