ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




กรุงเทพ บทเรียนฉาวเต้นโชว์สงครามสีลม! สังคมเสื่อม

กรุงเทพ บทเรียนฉาวเต้นโชว์สงครามสีลม! สังคมเสื่อม

สำหรับข่าวดังลำดับที่ 3 ได้สร้างความฮือฮาให้กับเรา ๆ คนไทยและทั่วโลก หลังจากมีการโพสต์คลิป 3 สาววัยรุ่นชาวไทย ขึ้นไปเต้นโชว์ลีลาแดนซ์กระจายบนหลังคารถ ในช่วงค่ำคืนงานเทศกาลสงกรานต์  บนถนนสีลม แต่ด้วยความสนุกสนานคึกคะนองแบบเลยเถิด จนขาดความยั้งคิด ทั้ง 3 คนถอดเสื้อของตัวเอง โชว์ของสงวนท่อนบน ท่ามกลางบรรดาฝูงชนจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณกลางสี่แยกถนนสีลมตัดนราธิวาสฯ แขวงสีลม เขตบางรัก ช่วงประมาณเวลา 23.30 น. วันที่ 15 เม.ย. 54 จนกลายเป็นเรื่องราว “ทอล์คออฟเดอะทาวน์” ของบรรดานักท่องเน็ต ที่ส่งเผยแพร่ สุดท้ายกลายเป็นข่าวครึกโครมที่สื่อนำมาเสนอต่อสาธารณชน

ในยุคของการสื่อสารที่ไร้พรมแดน!! เรื่องราวของเธอทั้ง 3 คนจึงถูกบันทึกด้วยมือถืออุปกรณ์สื่อสารไฮเทค ปัจจุบันนอกจากจะบันทึกทั้งภาพ-เสียงได้อย่างคมชัดแล้ว ยังสามารถส่งคลิปไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวเผยแพร่ส่งต่อ ๆ กันไปแบบรวดเร็วยิ่งนัก กลายเป็นว่าในโลกอินเทอร์เน็ตทั้งในเมืองไทยหรือต่างประเทศต่างรับรู้เหตุการณ์ดังกล่าวด้วย จนทางหน่วยงานกระทรวง ไอซีทีต้องรีบตามไล่บล็อกการเข้าถึงข้อมูลคลิปดังกล่าวแบบหัวหมุน

ที่สำคัญเพียงแค่ชั่วข้ามคืน หลังจากทั้งสื่อหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ นำข่าวฉาวดังกล่าวออกมาตีแผ่ทางสังคม สุดท้ายทางเจ้าของพื้นที่เขตบางรัก นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผอ.เขตบางรัก จำเป็นต้องออกมาทำตามขั้นตอนกฎหมาย เข้าแจ้งความที่ สน.ยานนาวา เพื่อดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ตามมาตรา 388 ประมวลกฎหมายอาญา ข้อหา กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น

หลังเกิดเหตุมีการวิพากษณ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวาง อาทิ นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ในฐานะนายกสมาคมครอบครัวอบอุ่นและเป็นสุข ยอมรับว่าเห็นภาพแล้วตกใจมากไม่นึกว่าวัยรุ่นและสังคมจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ ไม่ทราบว่าขณะเกิดเหตุตำรวจทำอะไรกันอยู่ ถ้าเกิดเหตุต้องรวบตัวทันที หรือรีบส่งคนขึ้นไปห้ามปราม ที่สำคัญอยากให้นักวิชาการด้านสังคมน่าจะเอากรณีนี้มาศึกษาว่าคนเหล่านี้มีปัญหาอะไรถึงได้แสดงออกมาได้ขนาดนี้ มีอะไรกดดันในจิตใจหรือไม่ และมีคนได้ประโยชน์จากการกระทำแบบนี้หรือไม่ ทำได้ถึงขนาดนี้เรียกว่าถึงขั้นทำลายวัฒนธรรมไทยชัด ๆ จากนี้ไปต้องมีการปลูกจิตสำนึกเรื่องการเล่นน้ำอย่างมีวัฒนธรรม ขอย้ำว่าถ้าสังคมยังละเลยจะมีอะไรคาดไม่ถึงเกิดขึ้นอีกในวันข้างหน้า

ขณะที่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ผอ.สถาบันวิมุตตยาลัย กล่าวถึงการฉลองเทศกาลสงกรานต์แบบไม่ถูกประเพณีไทย ว่าอยากให้กลับมาดูว่าเทศกาลสงกรานต์คืออะไร คือการเล่นน้ำดับร้อนให้ผ่อนคลาย แต่ที่เห็นอยู่นี้กลายเป็นเล่นน้ำทำให้ร้อนและไม่ผ่อนคลาย เพราะหากได้ดูคลิปแล้วคงจะไม่ปกติกันทุกคน ทั้ง ผอ.เขตบางรัก มหาเถรสมาคม รมว.วัฒนธรรม ซึ่งกรณีการขึ้นไป    เต้นและเปลือยอล่างฉ่างเป็นการผิดวัตถุประสงค์ของสงกรานต์ สาเหตุหนึ่งมาจากไม่เข้าใจวัตถุ ประสงค์ของสงกรานต์ตลอดจนสุราทำให้เสียนิสัย เรียกว่าเป็นความสุขสนุกเฉพาะที่ แต่เป็น ความกาลีที่เป็นสากล เพราะทันทีที่เกิดเรื่องไปอยู่บนเว็บไซต์กระจายไปทั่วโลก เสียทั้งส่วนบุคคลและส่วนรวมประเพณีดีงามพลอยมัวหมอง       ไปด้วย

อย่างไรก็ตามหลังเรื่องฉาวได้เป็นข่าวไม่นาน ช่วงค่ำวันที่ 18 เม.ย. 54 ผู้ปกครองตัดสินใจพาบุตรหลานทั้ง 3 คน พบว่ายังเป็นเยาวชนทั้งสิ้น มีอายุระหว่าง 13-16 ปี เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่ สน.ยานนาวา ตำรวจจึงได้ตักเตือนผู้ปกครองให้ดูแลบุตรให้ดี ก่อนปรับรายละ 500 บาท อย่างไรก็ดีเด็กสาวทั้งหมดสำนึกผิดได้กราบขอโทษต่อสังคมที่ได้ประพฤติก่อเหตุไม่สมควรขึ้นมา โดยไม่คาดคิดว่าจะมีผลติดตามมาร้ายแรงและกระทบต่อสังคมขนาดนี้  แต่ยืนยันว่าไม่ได้เมาสุราหรือเสพยาเสพติด สาเหตุที่ทำลงไปนั้น เนื่องมาจากความคึกคะนองและสถานการณ์    พาไป

นอกจากนี้ 3 สาวยังได้แฉด้วยว่าก่อนเกิดเหตุได้พากันไปเที่ยวผับชื่อดังย่านปริมณฑล ที่มีบรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวอายุไม่ถึง 18 ปีเข้าไปเที่ยวแน่นขนัดทุกค่ำคืน มีทั้งมั่วยาและเล่นการพนัน เมื่อทางตำรวจป.ส.บุกจู่โจมไปตรวจค้นผับดังกล่าวก็พบว่าเป็นเรื่องจริง งานนี้ทำให้ตำรวจเจ้าของสถานที่เจอหางเลขไปด้วย

แม้ว่าเรื่องราวสงกรานต์สีลม ที่เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์   ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2554 จะจบลงไปแล้วแต่เล่นทำเอาบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่เห็นแล้วถึงกับกุมขมับ เพราะธรรมเนียมปฏิบัติอันดีงามของเทศกาลสงกรานต์ของเมืองไทย จนกลายเป็นวัฒนธรรมประจำชาติที่งดงามแทบจะเลือนหายไป ทั้งที่เทศกาลนี้ในอดีตมีกิจกรรมที่หลากหลายมีเหตุผลในการกระทำทั้งสิ้น  เริ่มตั้งแต่เช้าการทำบุญตักบาตร เข้าวัดทำบุญเพื่อก่อกองทราย หรือช่วยเหลือวัดทำกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ กันแล้วแต่พื้นที่ ช่วงบ่ายจัดสิ่งของหรือเสื้อผ้า นำไปไหว้ผู้ใหญ่ที่จะไปรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ จากนั้นหนุ่มสาวจะออกเล่นสาดน้ำกันโดยใช้น้ำสะอาดผสมน้ำอบ หรือน้ำหอม เล่นสาดกันด้วยความสุภาพ 

แต่ช่วงหลังรูปแบบการเล่นสาดน้ำ เริ่มพัฒนาแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!!

ยังดีที่มีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ-เอกชน เริ่มเห็นความสำคัญ พยายามจัดงานสงกรานต์ดั้งเดิมแบบไทย ๆ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามของประเทศให้คงอยู่ตลอดไป รวมทั้งหาหนทางคุมเข้มการสาดน้ำ ก่อนที่จะผิดเพี้ยนเลยเถิดไปกันใหญ่ยิ่งกว่านี้ โดยเฉพาะกทม.ที่คิดจะเพิ่มจุดพื้นที่การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในปี พ.ศ. 2555 จากถนนข้าวสาร ไปยังพื้นที่ย่านสีลมอีกแห่ง คงต้องวางแผนให้รอบคอบรัดกุมยิ่งขึ้น โดยให้ใช้เหตุการณ์ ’3 สาวเปลือยอก” สงกรานต์ สีลมย้ำเป็นบทเรียนอย่าให้เรื่อง       มัวหมองเช่นนี้เกิดขึ้นมาอีกเลยในสังคมไทย







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน