จ.นครสวรรค์ แม่เหยื่อเมย.53 โวยจนท.รัฐยิงลูก จี้หาตัวคนสั่งฆ่า!

แม่เหยื่อ 10 เม.ย. 53 จี้คดี ลูกชาย หนุ่มช่างเครื่องนคร สวรรค์ ถูกยิงดับที่แยกคอกวัว เร่งเอาตัวคนสั่งฆ่าลูกมาลงโทษ ด้านพี่สาวเผยน้องชายขยันขันแข็ง เลี้ยงดูแม่ตลอดมา วันเกิดเหตุอยู่ที่ราชประสงค์ แต่เมื่อทหารเข้ากระชับพื้นที่เลยเข้ามาช่วยที่คอกวัว ตอนเกิดเหตุพยายามหนีแล้ว แต่ไม่พ้นถูกยิงดับ ผลชันสูตรระบุถูกอาวุธปืนความเร็วสูง 'เจ๊ดา'ดารุณี กฤตบุญ ญาลัย ฟ้องแหลกทีวี เหตุเสนอข่าว 'ดา ตอร์ ปิโด' หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่นำภาพตนขึ้นแทน สาทิตย์ วงศ์หนองเตย โดนด้วยฐานคุมสื่อช่อง 11

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางสงัด วัฒนนุกูล อายุ 85 ปี และนางบุญนำ ตาเวียง อายุ 55 ปี มารดา และพี่สาวของนายสยาม วัฒนนุกูล อายุ 53 ปี ที่เข้ามาทำงานเป็นช่างซ่อมรถยนต์อยู่ในย่านหลักสี่ กทม. ก่อนเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงและถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.53

นางบุญนำกล่าวว่า ตนมีอาชีพขายเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัด หาเงินมาเลี้ยงแม่และลูกอีก 4 คน ส่วนน้องชายเป็นคนที่ขยันทำงานและส่งเงินให้แม่ทุกเดือน พอเสียชีวิตไปแม่ก็คิดถึงมาก เนื่องจากขาดคนดูแล และปกติหากน้องชายกลับบ้านมาก็จะชอบนอนหนุนตักแม่ ซึ่งก่อนเกิดเหตุน้องชายบอกว่าจะกลับบ้านช่วงสงกรานต์ แต่มาถูกยิงเสียชีวิตก่อน ปกติเป็นคนเงียบเฉย ไม่พูดมาก แต่เป็นคนมีอุดมการณ์ โดยเข้าร่วมกับ นปก. ตั้งแต่ปี 2549 หลังการปฏิวัติใหม่ๆ
นางบุญนำกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนอยู่ในการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณสี่แยกคอกวัว ส่วนน้องชายอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์ แต่เมื่อมีกำลังทหารจะขอคืนพื้นที่น้องชายเลยเดินทางมาร่วมชุมนุมด้วย โดยตนก็ไม่รู้ว่าเขามาเมื่อไหร่ รู้อีกทีก็มีคนแจ้งว่าน้องถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยา บาลกลาง ในคืนวันที่ 11 เม.ย.53 ซึ่งพบรูปน้องชายตนติดอยู่ และผลการชันสูตรก็ระบุว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนความเร็วสูงเข้าด้านหลัง เมื่อถามคนที่อยู่แถวนั้นก็บอกว่าน้องชาย พยายามออกจากที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่ทันถูกยิงล้มลง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่

นางบุญนำกล่าวอีกว่า สำหรับการชดเชยและช่วยเหลือเบื้องต้นรับเงินเยียวยาจากรัฐบาล 400,000 บาท จากทางสำนักพระ ราชวัง 50,000 บาท และจากกลุ่มคนเสื้อแดงอีก 50,000 บาท รวม 500,000 บาท ซึ่งนำเงินที่ได้มาซ่อมแซมบ้าน ส่วนที่มีข่าวรัฐบาลจะจ่ายเงิยชดเชยให้ญาติผู้เสียชีวิตรายละ 10 ล้านบาทนั้น ทุกครอบครัวคงไม่มีใครอยากได้เงินจำนวนนี้ หากต้องแลกกับการที่สูญเสียคนรักไป แต่อยากฝากไปถึงกลุ่มคนที่ออกมาระบุไม่เห็นด้วยว่า อยากให้ลองคิดในมุมที่เรื่องนี้เกิดกับครอบครัวตัวเองจะรู้สึกอย่างไร

"ส่วนความคืบหน้าของคดีทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ายังอยู่ในชั้นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าจะส่งให้อัยการพิจารณาและส่งฟ้องต่อศาลได้ในเร็วๆ นี้ ดิฉันอยากให้ดำเนินคดีกับคนที่สั่งฆ่าน้องชายด้วย เพื่อให้คนทำผิดมารับกรรมที่ก่อไว้ และอย่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อน รวมทั้งไม่ควรมา ลอยนวลอย่างหน้าตาเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น" นางบุญนำกล่าว
ด้านนางสงัดกล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากและคิดถึงลูก อยากให้ดำเนินคดีกับคนที่สั่งฆ่าลูกชาย เพราะเหตุเกิดมานานแล้ว และเชื่อว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกวันนี้ตนก็ลำบาก เนื่องจากไม่มีคนส่งเสียเลี้ยงดู ทำให้ต้องอาศัยพึ่งพาเพียงลูกสาว ทั้งนี้ ในคืนวันที่ 11 เม.ย. 53 ขณะตนกำลังนอนหลับอยู่ลูกชายที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมาหาที่บ้านและบอกว่า "ผมมาแล้วนะ" ก่อนเงียบหายไป โดยตอนนั้นยังไม่ทราบว่าลูกชายเสียชีวิตไปแล้ว มารู้อีกครั้งเมื่อลูกสาวมาบอก

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้างอิมพีเรียลลาด พร้าว ชั้น 5 นางดารุณี กฤตบุญญาลัย แนวร่วมนปช. แถลงข่าวกรณีรายการข่าว 3 มิติ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และรายการของสำนักข่าวที-นิวส์ ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เสนอภาพข่าวที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ว่า ในรายการข่าว 3 มิติ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. กรณีมีข่าวเกี่ยวกับการพิพากษาคดีน.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด โดยในเนื้อหาข่าวระบุว่า ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก ดา ตอร์ปิโด เป็นเวลา 15 ปี ในความผิดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์และพระราชินี แต่ในภาพข่าวกลับปรากฏเป็นภาพของตนในวันที่ไปรายงานตัวต่อศาลเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อประชาชนผู้รับฟังข่าวและเกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของตนเป็นอย่างมาก และถึงแม้จะมีการกล่าวขอโทษผ่านทางรายการข่าว 3 มิติ ในวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา และนายกิตติ สิงหาปัด ผู้ดำเนินรายการ โทร ศัพท์มาขอโทษตนเป็นการส่วนตัวแล้ว แต่ว่าข่าวที่ได้รายงานไปแล้วนั้นถูกนำไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ทั้งยูทูบ โซเชียลเน็ตเวิร์ก และเว็บไซต์สำนักข่าวต่างๆ ไปแล้วมากมาย

นางดารุณีกล่าวต่อว่า ในส่วนของรายการที-นิวส์ ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 นั้นเกิดขึ้นเมื่อปีที่เเล้วในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 53 ซึ่งรายการดังกล่าวนำเสียงของดา ตอร์ปิโด ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูงที่ท้องสนามหลวงมาเผยแพร่ เเต่กลับขึ้นชื่อของผู้ปราศรัยว่าเป็นตน และยังนำภาพที่ตนขึ้นเวทีปราศรัยของคนเสื้อแดงที่จังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอีสานมาประกอบอีกด้วย ซึ่งหลังจากรายการดังกล่าวถูกนำเสนอออกไปทำให้ตนถูกดูถูกเกลียดชัง และถูกขู่ทำร้ายจนทำให้ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ

"เพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ดิฉันมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายฟ้องร้องดำเนินคดีกับรายการข่าว 3 มิติ ส่วนรายการทีนิวส์ ทางช่อง 11 นั้นจะฟ้องผู้ดำเนินรายการและนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลช่อง 11 ในขณะนั้น รวมถึงข่าวที่นำเสนอทางอินเตอร์เน็ตทุกเว็บไซต์ ในคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และจะฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง ส่วนรายละเอียดนั้นต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายอีกทีว่าจะเรียกร้องเป็นจำนวนเท่าใด โดยจะยื่นฟ้องร้องในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ในวันที่ 27 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้น.อ.อนุดิษฐ์ นาคร ทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กับผู้ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย" นางดารุณีกล่าว

แนวร่วม นปช.กล่าวต่อว่า การนำเสนอข่าวที่ผิดพลาดถือเป็นการใส่ร้ายคนเสื้อแดงว่าไม่จงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงมากกว่าข้อกล่าวหาฆ่าคนตายเสียอีก