จ.ฉะเชิงเทรา ทลายแก็งยาบ้าพบศูนย์สั่งการ'เรือนจำ'

ตามรอย..ทลายแก็งยาบ้า ศูนย์สั่งการ.."เรือนจำ" : ตะลุยข่าว โดยสนทะนาพร อินจันทร์

  ปฏิบัติการทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดของตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำว่า ขณะนี้ "เรือนจำ" ถูกขบวนการค้ายานรกใช้เป็นสถานที่ติดต่อซื้อขายยาเสพติดกันอย่างกว้างขวาง
 
  การทะลายเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ เกิดขึ้นภายหลังพ.ต.อ.ธนู พวงมณี ผกก.กก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้รับรายงานจากสายลับว่า มีเอเย่นต์ยาเสพติด กลุ่มของ "นายริน" หรือนายจรินทร์ สังข์นุช อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 ม.10 ต.คลองเปร็ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทราซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ จึงวางแผนส่งสายลับเข้าไปติดต่อล่อซื้อ
 
  สายลับได้ติดต่อผ่านเครือข่ายค้ายาเสพติดของ "นายริน" หลายสาย กระทั่งได้รับการตอบรับจาก "นายริน" จะนำยาบ้าจำนวน 100 เม็ด มาส่งมอบให้สายลับที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน ต.บางพระ ซึ่งเมื่อถึงเวลานัด "นายริน" ขับรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ทะเบียน ณร 465 กรุงเทพมหานคร เข้ามายังจุดนัดหมายตำรวจจึงแสดงตัวจับกุม พร้อมกับตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 900 เม็ด ยาไอซ์ 48 กรัม เครื่องชั่งแบบดิจิตอล 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นของกลาง

  หลังการจับกุมตำรวจได้สอบสวนขยายผลโดยนายจรินทร์ สารภาพว่า ยาเสพติดดังกล่าวสั่งซื้อต่อมาจาก "นายนิ่ม" นักโทษคดีค้ายาเสพติด ซึ่งถูกขังอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดระยอง พ.ต.อ.ธนู จึงเกลี่ยกล่อมให้นายจรินทร์ สั่งซื้อยาเสพติดจากเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายนิ่มจำนวน 1 หมื่นเม็ด โดยนัดหมายให้นำยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาส่งมอบที่ริมถนนสุวินทวงศ์ ห่างจากตัวเมืองฉะเชิงเทราไม่มากนัก  
เมื่อถึงเวลานัด นายศิริพงษ์ ตุ้มปิ่ม หรือทอม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.7 ต.ดอนเกาะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทราและนายสุรเชษฐ์ เกิดแก้ว หรืออ๊อด อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1 ม.4 ต.ดอนเกาะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มเดียวกับนายนิ่ม ทำหน้าที่นำยาบ้าจำนวน 1 หมื่นเม็ด มาส่งมอบให้ ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมเอาไว้ได้  

      หลังการจับกุมนายศิริพงษ์ ยอมรับว่า ยังมียาเสพติดอีกจำนวนหนึ่งซ่อนอยู่ภายในบ้านพัก ย่านถนนประชาสรรค์ กลางเมืองฉะเชิงเทรา ตำรวจจึงควบคุมตัวนายศิริพงษ์ไปตรวจค้นบ้านพักหลังนี้ พบยาบ้าเพิ่มอีก 106,140 เม็ด ยาไอซ์ 1.3242 กิโลกรัม และยาอีอีก 140 เม็ด บรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางซึ่งถูกซุกไว้บนเพดานบ้านพัก

  จากการสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ยังรับสารภาพด้วยว่า ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมตัวได้ไม่นานเพิ่งนำยาบ้าจำนวน 6,000 เม็ด พร้อมด้วยยาไอซ์อีก 310 กรัม ไปขายให้กับนางลาวัลย์ นิฉาย อายุ 38 ปี อดีตครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา และนายไพศาล แสงอรุณ อายุ 39 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเพิ่งพ้นโทษในคดีค้ายาเสพติดมาไม่นานเพื่อนำไปขายต่อให้กับลูกค้ารายย่อยในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และใกล้เคียง พ.ต.อ.ธนู จึงนำกำลังไปจับกุมนางลาวัลย์ และนายไพศาล ได้ที่บ้านเลขที่ 15/7 ม.2 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว 

  "ผู้ต้องหากลุ่มนี้ติดต่อซื้อขายยาเสพติดกันมานาน โดยมีนายนิ่ม ซึ่งเป็นนักโทษในเรือนจำกลางจังหวัดระยอง เป็นตัวกลางในการเจรจาซื้อขายยาเสพติดทั้งยาบ้า ยาอี และยาไอซ์ เมื่อตกลงราคาซื้อขายกันได้ก็จะนัดหมายให้ไปรับยาเสพติดกันในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ระยอง ก่อนจะนำไปขายต่อให้กับผู้ค้ารายย่อยในจังหวัดต่างๆ ของภาคตะวันออก ซึ่งจะขยายผลติดตามจับกุมต่อไป" แหล่งข่าวในชุดสืบสวน เปิดเผย

นอกจากการตรวจยึดยาเสพติดซึ่งประกอบด้วยยาบ้ากว่า 1 แสนเม็ด ยาไอซ์ 1 กิโลกรัมเศษ และยาอีอีก 140 เม็ด มูลค่ารวมกันหลายสิบล้านบาทแล้ว ตำรวจยังได้ประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เพื่อตรวจยึดทรัพย์สินของเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดที่เหลือ เช่นเดียวกับนายนิ่ม นักโทษคดีค้ายาเสพติดที่ต้องโทษในเรือนจำกลางจังหวัดระยอง ตำรวจได้ประสานกรมราชทัณฑ์เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว

 การจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถสะกัดกั้นไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติดใช้เรือนจำเป็นสถานที่ติดต่อซื้อขายยาเสพติดกันได้แม้ที่ผ่านมาจะมีความพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม