ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




จ.สมุทรสาคร “น้องอุดร”บุกสภาคัดค้านให้เอกสิทธิ์คุ้มครอง “ส.ส.ครรชิต”

จ.สมุทรสาคร “น้องอุดร”บุกสภาคัดค้านให้เอกสิทธิ์คุ้มครอง “ส.ส.ครรชิต”

วันนี้( 29 ธ.ค.) ที่รัฐสภา นายอุดม ไกรวัฒนุสรณ์ อดีตส.ส.สมุทรสาคร พรรคเพื่อไทย ในฐานะน้องชายนายอุดร ไกรวัฒนุสรณ์ นายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัด ที่ถูกสังหาร ได้เข้ายื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เพื่อขอคัดค้านการอนุญาตให้ใช้เอกสิทธิ์แก่นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาฆ่าใช้อาวุธปืนยิ่งนายอุดร โดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะผู้ต้องหาและครอบครัวมีพฤติการณ์ไปข่มขู่ประจักษ์พยานให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิต ซึ่งการใช้เอกสิทธิ์ของส.ส.ควรจะใช้เฉพาะในการปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่ใช้เอกสิทธิ์เพื่อฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต และอาจจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของสภาผู้แทนราษฎรในการอำนวยความยุติธรรมต่อประชาชน 

ด้านนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า การจะให้เอกสิทธิ์คุ้มครองหรือไม่เป็นดุลยพินิจของสภา เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีคดีอุฉกรรจ์อย่างนี้มาก่อน จึงไม่ทราบว่าส.ส.แต่ละท่านมีความเห็นอย่างไร  จึงไม่รู้ว่าส.ส.จะลงมติให้ใช้เอกสิทธิ์หรือไม่

ด้านนายอุดม ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า  อาจจะมีการพูดคุยกับส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ให้เอกสิทธิ์ แต่เชื่อว่าส.ส.ได้ติดตามข่าวสารพอสมควร แทบจะไม่ต้องพูดคุยอะไรกันมาก เพราะกรณีนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ผ่านมามีแต่กรณีถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จ้างวาน ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่คดีนี้เป็นคดีอุฉกรรจ์หลังจากศาลพิจารณาหลักฐานก็อนุมัติหมายจับทันที ส่วนกรณีที่ระบุว่ามีการรวบรวมหลักฐานเร็วผิดปกตินั้น เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในตอนกลางวัน ไม่เปลี่ยว ไม่ได้มีการจ้างวาน ทำให้รวบรวมหลักฐานได้เร็วกว่าคดีอื่น ๆทั้งนี้การอนุญาตให้ใช้เอกสิทธิ์หรือไม่ต้องดูจากความมุ่งหมายว่าเป็นการให้เอกสิทธิ์ส.ส.เพื่อการทำหน้าที่หรือไม่ ถ้าเป็นการทำหน้าที่ส.ส.ต้องได้รับการคุ้มครอง แต่กรณีนี้เป็นการทำหน้าที่ของส.ส.หรือไม่  ซึ่งตนเชื่อจริยธรรมและดุลพินิจของส.ส.ในการทำหน้าที่  แม้ที่ผ่านมาสภาฯจะให้เอกสิทธิ์คุ้มครองส.ส.ทุกครั้ง แต่เฝ้ามองพฤติกรรมของส.ส.ในขณะนี้ไม่เหมือนในอดีต เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็อาจจะเกิดขึ้นได้

นายอุดม กล่าวว่า มีความเป็นห่วงพยานจะถูกข่มขู่ โดยเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.เวลา 11.00 น.นายเอนก ทับสุวรรณ บิดานายครรชิต ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในสถานที่เกิดเหตุ เพราะเจ้าของสถานที่มีความสนิทสนมส่วนตัวกับผู้ต้องหา และข่มขู่พยานที่เป็นชาวบ้าน ทำให้พยานจำนวนมากที่รู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมากมีความหวาดกลัวไม่กล้ามาเป็นพยาน ดังนั้นจะร้องขอตำรวจกองปราบมาคุ้มครองพยาน เพราะผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และยังมีเครือข่ายในกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการทำสำนวนสอบสวนในคดีนี้ด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะมีการเมืองเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี เพราะตำรวจที่ทำคดีนี้แต่งตั้งมาสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ อย่ามากลัวจุดนี้ พวกตนต่างหากที่ต้องกลัว อย่างไรก็ตามหากได้เอกสิทธิ์คุ้มครองการดำเนินคดีก็ยืดยาวออกไป เกรงว่าพยานหลักฐานต่าง ๆก็จะสูญหายไป เพราะขณะนี้ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอมส่งอาวุธปืน และรถที่ก่อเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ หากบริสุทธิ์จริงจะไปกลัวอะไร.
 







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน