ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เรียกพนักงานของธนาคารมาสอบปากคำแล้วหลายปาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างด้วย โดยเฉพาะนายประสิทธิ์ พิมพ์จร อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่สายตรวจ ของบริษัท สยามจีเอ็นการ์ด จำกัด ที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยของห้างนี้ ทั้งนี้ นายประสิทธิ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 12.30 น.ลูกน้องตนที่ดูแลความปลอดภัยอยู่ที่ลานจอดรถของห้าง เห็นรถของคนร้ายเป็นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิ๊ก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาที่ลานจอดรถ แล้วไปจอดตรงหน้าร้านสเวนเซ่นติดกับธนาคารกสิกรไทย จากนั้นคนร้ายลงจากรถเดินตรงไปที่ตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคาร ก่อนจะเดินกลับมาที่รถแล้วขี่ออกไป ไม่นานคนร้ายก็ขี่รถกลับมาจอดที่เดิมอีกครั้ง แล้วเดินไปที่ธนาคารใช้เวลาไม่นานก่อนกลับมาที่รถแล้วขี่ออกไป โดยลูกน้องตนไม่รู้ว่าเป็นคนร้าย เพราะไม่มีเสียงพนักงานหรือใครร้องขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด หากมีคนร้องขอความช่วยเหลือตอนนั้นลูกน้องตนก็อาจจะช่วยกันจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ เพราะลูกน้องตนจะกระจายกันดูแลความปลอดภัยอยู่ทั่วห้างและอยู่ใกล้กับคนร้ายด้วย

 ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ภาพคนร้ายที่จัดเจนมากยิ่งขึ้น เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าตู้เอทีเอ็มที่คนร้ายเดินมาดูลาดเลาในครั้งแรกก่อนลงมือก่อเหตุ เป็นผู้ชายจมูกโด่ง มีหนวด ปากหนาและคล้ำ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ ในมือถือกระเป๋าเป้สีดำเอาไว้ มายืนดูอยู่ที่หน้าธนาคารพักหนึ่ง ก่อนจะเดินมากดเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็ม แล้วเดินกลับไปที่รถ ส่วนสำเนียงและน้ำเสียงของคนร้ายพูดชัดคล้ายคนภาคกลาง ขณะนี้ตำรวจมีเบาะแสของผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายรายนี้แล้ว อยู่ระหว่าเฝ้าติดตามตัวอยู่ และคนร้ายมีการวางแผนการมาเป็นอย่างดี เข้าออกธนาคารเป็นประจำ โดยให้พุ่งเป้าไปที่พนักงานแลกเงินและเช็ค หรือพนักงานรับส่งเอกสาร เนื่องจากคนพวกนี้จะเข้าออกธนาคารเป็นประจำ รู้พื้นที่และช่องทางหลบหนีเป็นอย่างดี โดยเฉพาะตอนก่อเหตุคนร้ายนิ่งมาก ไม่กระโตกกระตากหรือมีอาการตื่นกลัว และใช้เวลาปฏิบัติเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ในส่วนของ กก.สส.บก.น.1 ก็ได้ข้อมูลของคนร้ายรายนี้ตรงกันและอยู่ระหว่างติดตามตัวอย่างใกล้ชิดแล้ว คาดว่าไม่นานน่าจะได้ตัวคนร้ายรายนี้