จ.สมุทรสาคร ตำรวจหอบหมายค้นบ้าน-"ส.ส.ครรชิต"หาปืน

หลังตำรวจออกหมายเรียกนายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีสังหารนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ หรือนายกตุ่น นายกอบจ.สมุทรสาคร เพื่อเรียกให้นำรถกระบะกับปืนขนาด .40 มาตรวจสอบ แต่นายครรชิตยังดื้อดึงไม่ยอมส่งหลักฐานให้ จนตำรวจต้องออกหมายเรียกไป 2 ครั้งนั้น

ล่าสุดเมื่อที่ 4 ม.ค. พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร มอบหมายพ.ต.ท.พงศธร ปิตุทิพย์ รอง ผกก.(ป.) นำหมายเรียกพยานวัตถุ (ครั้งที่ 3) ออกเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ให้นำรถกระบะโตโยต้า สีน้ำตาล ทะเบียน กฉ-4124 นครศรีธรรมราช และอาวุธปืนขนาด .40 ทะเบียน กท.54222747 ที่มีอยู่ในความครอบครองมาตรวจสอบในวันที่ 6 ม.ค.นี้โดยเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 560/182 ถนนสุขาภิบาล ตำบลมหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อแจ้งให้นายครรชิตรับทราบ
 

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบบ้านดังกล่าวเป็นบ้านปูน 2 ชั้นหรู ตั้งอยู่หลังตลาดสดมหาชัย หลังเจ้าหน้าที่กดกริ่งเรียกอยู่นาน  ไม่มีใครออกมารับหมาย บ้านปิดเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ พ.ต.ท.พงศธรเลยนำหมายเรียกไปที่ทำการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งอยู่เลขที่ 927/98ก ตำบลมหาชัย เมื่อไปถึงประตูด้านหน้าล็อก ตำรวจเลยเคาะประตูเรียก สักพักมีคนมาเปิด ตำรวจเลยมองหานายครรชิต แต่ไม่เจอตัวมีเพียงพนักงาน 5-6 คน พ.ต.ท.พงศธรเลยให้ช่วยเซ็นชื่อรับหมายเรียก แต่ไม่มีใครยอมเซ็นพ.ต.ท.พงศธรเลยฝากหมายเรียกไว้ให้นายครรชิตก่อนเดินทางกลับ โดยในวันที่ 6 ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันนัดให้นายครรชิตนำรถกับปืนมาตรวจสอบ หากนายครรชิตยังหลีกเลี่ยง ตำรวจจะขอศาลเพื่อขอหมายค้นบ้านต่อไป

ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกหมายค้นบ้านเลขที่ 560/182 ถนนสุขาภิบาล ตำบลมหาชัย ของนายเอนก ทับสุวรรณ บิดานายครรชิต จากนั้น พ.ต.ท.พงศธรจึงนำหมายค้นของศาลไปที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง  พบนายเอนกและนางทัศนีย์ ทับสุวรรณ มารดานายครรชิต พ.ต.ท.พงศธรเลยแสดงหมายศาลให้ดู นายเอนกจึงบอกตำรวจว่า นายครรชิตไม่ได้พักอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง แต่ยินยอมนำเจ้าหน้าที่เข้าค้นตามห้องต่าง ๆ  ทั้ง 3 ชั้น โดยชั้นล่างทำธุรกิจขายส่งน้ำแข็ง ชั้น 2 กับชั้น 3 เป็นห้องนอน โดยตำรวจใช้เวลาค้นราว 30 นาที จึงเดินทางกลับโดยไม่เจอปืนและรถกระบะที่ต้องการ ขณะเดียวกันกำลังตำรวจอีกชุด ได้แยกไปค้นที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เลขที่ 927/98ก ตำบลมหาชัย ไม่พบหลักฐานอะไรเช่นกัน
 

จากนั้น พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ได้เรียกตำรวจชุดคลี่คลายคดีเข้าประชุม ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จ.สมุทรสาคร โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง โดย ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานมากพอจะส่งฟ้องได้ภายใน 1 เดือน ส่วนประเด็นนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว แต่พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงทำให้เสียรูปคดี

รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ทำให้นักการเมืองคนดังก่อเหตุอุกฉกรรจ์ดังกล่าว มาจากหญิงสาวคนหนึ่งเคยเป็นคนสนิทของนายอุดรผู้ตาย หันไปสนิทสนมกับนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ในทีมของนายอุดร สักพักได้หันไปสนิทสนมกับนายครรชิตจนตั้งครรภ์ โดยนายครรชิตรับเลี้ยงดูหญิงคนดังกล่าว ต่อมาเวลานายอุดรเจอนายครรชิต มักจะพูดเหน็บตลอดเวลาว่า เอาลูกที่เกิดจากหญิงสาวคนดังกล่าวไปตรวจดีเอ็นเอหรือยัง ทำให้นายครรชิตโกรธแค้นนายอุดรเป็นอย่างมาก ที่หยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย เป็นเหตุให้นายครรชิตระงับอารมณ์ไม่ไหวก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
 

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมทนายความของนายครรชิตเปิดเผย กรณีตำรวจเตรียมขอหมายค้นบ้านนายครรชิตว่า ไม่มีปัญหาเพราะเราคิดไว้แล้วว่าต้องมีการค้นอย่างแน่นอน เพราะเป็นการรวบรวมพยานหลักฐาน
 

ต่อข้อถามของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาพูดดักคอกลัวปืนจะหายไปแล้วนั้น นายนิพิฏฐ์ระบุว่า ตนไม่ทราบว่าปืนยังอยู่หรือหายต้องรอดู แต่ตนบอกนายครรชิตให้อำนวยความสะดวกตำรวจ คิดว่าถ้านายครรชิตมีอาวุธต้องมอบให้ ถ้าไม่มีอีกเรื่องหนึ่ง ตนกลัวว่าตำรวจจะถูกใช้เป็นเครื่องมือ สมมุติปืนของนายครรชิตไม่ใช่กระบอกที่ใช้กระทำความผิด แล้วส่งให้ตำรวจตรวจสอบ จากนั้นตำรวจออกมาบอกว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกับที่ใช้ทำความผิด ปัญหาจึงอยู่ที่ต้องวัดใจว่าเราเชื่อกระบวนการสอบสวนหรือไม่ ซึ่งเราไม่เชื่อ