จ.สกลนคร โวยเจ้าหน้าตร.ยิงมั่ว-ยัดยาบ้าศพวิศวกร

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายส่งเสริม แสงฤทธิ์ อายุ 54 ปี ลูกจ้างประจำกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จ.สกลนคร อยู่บ้านเลขที่ 290 หมู่ 4 ต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร บิดาของนายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ อายุ 24 ปี วิศวกรบริษัท มาร์เคม-อิมาจ จำกัด ประจำนิคมอุตสาหกรรมใน จ.ระยอง ซึ่งถูกตำรวจชุดสืบสวน ภูธร จ.สกลนคร ยิงเสียชีวิตขณะเข้าจับกุมคดียาเสพติด บริเวณหน้าปั้มน้ำมัน ปตท. ถนนสกลนคร-นครพนม ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. ต่อมามีการตรวจพบของกลางยาบ้า 198 เม็ด ภายในกางกางชั้นในแบบขาสั้นอย่างมีเงื่อนงำ ขณะที่ศพอยู่ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีการเสียชีวิตของบุตรชาย

นายเด่นชัย แสงฤทธิ์ บุตรชายนายส่งเสริม และพี่ชายผู้ตายซึ่งอยู่ร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าว กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า ก่อนเกิดเหตุนายไพโรจน์ น้องชายที่ถูกยิงเสียชีวิต ขับรถยนต์ฮอนด้า รุ่น แจ๊ส สีขาว ทะเบียน ญฎ 3884 กรุงเทพมหานคร พา น.ส.ปนัดดา ขวัญมา อายุ 23 ปี แฟนสาว และตนเดินทางไปรับประทานอาหารที่ร้านกินดื่ม ก่อนถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จ.สกลนคร แต่เมื่อขับรถไปถึงหน้าร้านอาหารก็ถูกยิงใส่จากด้านหลัง 2 นัด น้องชายจึงขับรถหนีเข้าไปภายในมหาวิทยาลัย แต่ก็มีรถกระบะขับตามเข้าไปและมีการยิงใส่อีก 2 ครั้งแต่ไม่ถูก กระทั่งขับรถหนีออกมาถึงหน้าปั้มน้ำมัน ปตท.ก็ถูกรถกระบะอีกคันซึ่งจอดอยู่ข้างทางขับออกมาปาดหน้าซึ่งน้องชายพยายาม ขับรถหนีโดยเบี่ยงออกซ้ายเพื่อจะเข้าไปในปั้มน้ำมันระหว่างผ่านท้ายรถกระบะ คันดังกล่าวก็มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ทุกคนในรถก้มหัวหลบ แต่น้องชายหลบไม่พ้น กระสุนเข้าที่ท้ายทอย

นายเด่นชัย กล่าวต่อว่า เมื่อรถหยุดในปั้มน้ำมันตนกับน.ส.ปนัดดา รีบลงจากรถก็มีชาย 5 คนเข้ามา บอกให้หมอบและเอามือไว้บนหัวจึงเชื่อว่าเป็นตำรวจ ตนจึงรีบโทรศัพท์ติดต่อเพื่อนและญาติ รวมทั้งหน่วยกู้ภัยให้มาช่วย ระหว่างรอความช่วยเหลือก็ได้ต่อว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเพราะไม่ได้ทำผิด อะไรทำไมต้องมายิงพวกเราด้วย กระทั่งมีรถกู้ภัยมานำน้องชายไปโรงพยาบาล ต่อมา มีชายคนหนึ่งซึ่งไม่เกี่ยวข้องไล่ น.ส.ปนัดดาไปนั่งหน้ารถ ส่วนเขาขึ้นกระบะหลังไปถึงโรงพยาบาล มีการใส่ถุงมือยาง และเข้าไปในห้องฉุกเฉินด้วย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้

หลังเกิดเหตุยังไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวนจากตำรวจ สภ.ขมิ้น ท้องที่เกิดเหตุ ประกอบกับคู่กรณีคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ไม่เชื่อมั่นกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากกองบังคับการปราบปรามให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสีย ชีวิตของน้องชาย รวมทั้งกรณีการพบยาบ้าที่ศพอย่างมีเงื่อนงำ ทั้งๆที่ก่อนจะพบยาบ้านั้นพยาบาล ได้เรียกบิดาและญาติอีก 2 คนไปร่วมกันตรวจสอบทรัพย์สินที่เสื้อผ้าและร่างกายของน้องชายถึง 2 ครั้ง แต่ไม่พบอะไร นอกจากนี้ยังขอให้ช่วยตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของน้องชายด้วย

ด้าน พ.ต.อ. นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.3 บก.ป. กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.สุพิศาล ให้เข้าคลี่คลายคดีนี้ให้ได้ความกระจ่างโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นตนได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อภิรักษ์ วงษ์มณี รองผกก.3 บก.ป. และพ.ต.ต.ณัฐพงศ์ ตรงเที่ยง สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังพร้อมด้วยพนักงานสอบสวนลงพื้นที่ทันที เพื่อเสาะหาพยานในบริเวณจุดเกิดเหตุ และหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมจากเดิมที่พนักงานสอบสวนท้องที่ได้รวบรวมไว้แล้ว โดยให้สืบสวนในทุกประเด็นที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะในเรื่องที่ว่ามีการยิงตอบโต้กันหรือไม่เพื่อให้คดีนี้เกิดความ ชัดเจน และเป็นธรรมที่สุด.