ReadyPlanet.com
dot dot
dot

dot
ตราครุฑ




จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่รวบอินเดียขนสารตั้งต้นผลิตยาบ้าของกลางกว่า6.5กก.

จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่รวบอินเดียขนสารตั้งต้นผลิตยาบ้าของกลางกว่า6.5กก.

 

ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตรวบชาวอินเดีย ลอบขนสารอีเฟดรีน (EPHEDRINE) หรือสารตั้งต้นผลิตยาบ้า น้ำหนักรวมพร้อมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 6.5 กิโลกรัม ระบุหากหลุดรอดสามารถผลิตยาบ้าได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 30-40 ล้านบาท...

เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 7 ม.ค. ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรภูเก็ต พ.ต.ท.เสริม ขวัญนิมิต รอง ผกก.ป สภ.ท่าฉัตรไชยอ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม Mr.SHANKAR SUNIL อายุ 22 ปี สัญชาติอินเดีย ผู้โดยสารของสายการบินซิลค์แอร์เที่ยวบิน MI752 เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ถึงภูเก็ตเวลา 09.50 น. พร้อมของกลางสารอีเฟดรีน (EPHEDRINE) หรือสารตั้งต้นผลิตยาบ้า น้ำหนักรวมพร้อมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 6.5 กิโลกรัม โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 สารอีเฟดรีน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเกินปริมาณที่รัฐมนตรีกำหนดและนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 และ ม.27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับ พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่9) พ.ศ.2482 ม.16,17 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย อ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นางมนทิรา กล่าวว่า ตามที่นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากรมีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากรและปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัดจึงสั่งการให้นางอรอนงค์ วัชรเศรษฐกุล รองอธิบดีด้านการปราบปราม นายยุทธมณีโชติผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 และทางด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตดำเนินการวางแผนจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติจึงทำให้เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตเข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดให้โทษ กับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางท่าอากาศยานภูเก็ตซึ่งมีแนวโน้มลักลอบขนยาเสพติดให้โทษสูงขึ้น โดยในปี 2554 ในระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมาด่านศุลกากรภูเก็ตสามารถจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสิ่งเสพติดจำนวน 4 ครั้งส่วนใหญ่จะเป็นยาไอซ์ และกัญชา 1 ครั้ง

ทั้งนี้ หากสารอีเฟดรีนที่จับกุมได้สามารถผ่านด่านออกไป จะนำไปผลิตเป็นยาบ้าได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 30-40 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสุ่มตรวจกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสาร และจากการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางของ Mr.SHANKAR SUNIL พบสิ่งผิดปกติภายในกระเป๋าซึ่งจัดทำพิเศษ เป็น 2 ชั้นโดยนำเอาผ้าสาหรีและผ้าห่มคลุมไว้ด้านบนจำนวนมาก เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ เมื่อถูกตรวจสอบพบว่าผ้าดังกล่าวจะต้องเสียภาษีซึ่งเขาก็ยินยอมจ่ายเพราะได้รับคำแนะนำมาว่าหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบก็ให้ยินยอมจ่ายภาษี ประมาณ 2,000 บาท แต่เมื่อเจ้าหน้านำผ้าดังกล่าวออกจากกระเป๋าและมีการชั่งน้ำหนักดูพบว่า หนักมากกว่าปกติ จึงทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พบกล่องไม้ซึ่งภายในบรรจุสารอีเฟดรีนซุกซ่อนอยู่บริเวณพื้นกระเป๋าเดินทาง จึงได้ทำการจับกุมตัวไว้

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า Mr.SHANKAR SUNIL เดินทางมาจากเมืองบังกาลอ ประเทศอินเดีย ใช้เส้นทางบังกาลอ-สิงคโปร์-ภูเก็ต โดยบอกว่ามีคนอินเดียอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเพื่อนของลุง ซื้อตั๋วโดยสารให้พร้อมทั้งซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์จากเมืองไทยส่งไปให้และบอกว่าให้นำกระเป๋าเดินทางซึ่งจะมีคนอินเดียนำมาให้ถือมาด้วยและเมื่อมาถึงภูเก็ตแล้วก็ให้ใช้ซิมการ์ดดังกล่าว โดยให้นั่งรถทัวร์จากภูเก็ตไปหาดใหญ่ตอนขากลับให้นั่งรถจากหาดใหญ่เพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ Mr.SHANKAR SUNIL ยืนยันว่า ตัวเขาไม่รู้เรื่องว่าภายในกระเป๋ามีสารเสพติดและก่อนหน้านี้เมื่อประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนเคยเดินทางเข้ามาแล้ว 1 ครั้ง และมีคนฝากให้หิ้วกระเป๋าเข้ามาในลักษณะนี้ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าครั้งนั้นมีสารเสพติดอยู่ด้วยหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อ.

 







เว็บไซต์ www.legendnews.net ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ในการคัดลอกหรือเปลี่ยนเป็นชื่อเว็บของท่าน